สารพัดข้อดีจากการทำท่า Plank วันละ 3 นาที
ไม่ว่าจะเลยผ่านไปอีกกี่ปี การออกกำลังกายก็ยังจำเป็นเสมอนะจ๊ะสาวๆ
ยิ่งเวลาผ่านไปไว อายุก็ต้องเพิ่มขึ้นวนไปค่ะ
แต่เราก็เข้าใจอ่ะนะว่าการให้ลุกขึ้นมาขยับแขน
ขยับขามันก็ช่างขี้เกียจซ่ะเหลือเกิน งั้นเอาอย่างนี้สาวๆ
เราจะมาแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการฝึกออกกำลังกายที่เรียกว่าท่า Plank
ไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรมาก แต่ต้องอาศัยการทำบ่อยๆ บวกความพยายามเข้าไป
ได้ผลดีแน่นอน
ท่า Plank เป็นท่าออกกำลังกายที่หลายคนต้องเคยเห็นหรือคุ้นตากันมาบ้าง
แต่รู้หรือไม่ว่าข้อดีของ Plank ช่างเหมาะกับสาวยุคใหม่อย่างเรามากๆ
ซึ่งก่อนที่เราจะไปรู้ถึงข้อดี
แนะนำว่าใครที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายอาจจะไม่ต้องทำครบ 3 นาทีก็ได้
แต่อาจจะเริ่มต้นจาก 30 วินาทีแล้วค่อยไต่ระดับนาทีไปเรื่อยๆ
จะดีกว่าไปหักโหมที่เดียวนะจ้าที่นี้มาดูข้อดีของเจ้าท่า Plank กันบ้าง
1. สร้างบุคลิกที่ดีขึ้น
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าท่า Plank นอกจากจะช่วยเรื่องสุขภาพกายแล้ว
สุขภาพใจก็ช่วยได้ เพราะเมื่อเราบุคลิกดีเราก็จะมีความมั่นใจมากขึ้น
ด้วยลักษณะท่านี้ เป็นเหมือนการที่เราได้ยืดหยุ่นกล้ามเนื้อในทุกๆ ส่วน
เนื่องจากท่าที่ถูกต้องนั้นจะต้องไม่โก่งหลัง ขาเหยียดตึง ไม่กระดกก้นสูง
และไม่ก้มหน้าหรือเงยคอมากไป2. หน้าท้องแบนราบ
เป็นผลพวงมาจากการเกร็งบริเวณช่วงท้อง
และถือว่าเป็นท่าที่สาวอยากมีซิกแพ็คไม่ควรพลาดเลยล่ะ
ยิ่งใช้เวลาในการทำท่าบ่อยเท่าไร ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะยิ่งน่าพอใจ
แต่ในระยะแรกๆ ควรจะเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปนะจ๊ะ
เพราะถ้าเราฝืนร่างกายมากเกินไป อาจทำให้รู้สึกระบมช่วงท้อง หรือต้นขาได้Image Source:easyhealthoptions
3. บอกลาอาการออฟฟิส ซินโดรม
ป่วยคอ ป่วยหลัง เมื่อยขา ไมเกรนขึ้น โอ๊ย!
สุดท้ายลงเอยที่การหาหมอทุกที ตอนนี้เรามาเปลี่ยนพฤติกรรมกันดีกว่าค่ะ
โดยการออกกำลังกายท่า Plank เนี่ยแหล่ะ
เพราะเมื่อเราออกกำลังกายระบบร่างกายภายในก็จะรับการตอบสนองอย่างดี
รวมไปถึงระบบไหลเลือดของเลือดที่ดีขึ้น และด้วยท่าในลักษณะยืดกล้ามเนื้อ
จะช่วยลดอาการล้าจากการทำงานอย่าง อาการปวดเมื่อย หรือปวดหลังนั่นเอง4. ช่วยลดน้ำหนักได้
เนื่องจากท่านี้ต้องใช้ความพยายามในการเกร็งหน้าท้อง
รวมถึงการขยับส่วนต่างๆ ของร่างกาย
เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้พลังงานค่อนข้างมากเช่นกัน
ช่วยให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญเพิ่มขึ้น
สังเกตได้จากเหงื่อที่เริ่มออกมาให้เราได้เห็นเวลาต้องทำท่า Plank นานขึ้น
ส่วนคนที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก เราแนะนำให้เหยียดแขนตรงตามภาพ
เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดอาการบาดเจ็บได้Image Source:notyouraveragerunner
5. วอร์มร่างกายให้พร้อมสำหรับการออกกำลังกายท่าอื่นๆ
ก่อนที่เราจะเริ่มออกกำลังกายขยับแข้งขยับขามากขึ้น
การเริ่มต้นเรียกสมาธิหรือกำหนดลมหายใจได้แม่นยำ ก็มาเริ่มฝึกกันที่ท่า
Plank กันเลย เป็นการเตรียมความพร้อมในการยืดหยุ่นร่างกายไปสู่ท่าอื่นๆ
เพียงทำแค่ 3นาทีแล้วค่อยต่อด้วยท่าอื่นๆ6. โอกาสในการบาดเจ็บน้อย
อันนี้ต้องเครื่องหมายดอกจันตัวโตๆ ว่า ต้องทำท่าที่ถูกต้องด้วยนะ
แต่เมื่อเทียบกับท่าอื่นๆ เช่น การกระโดดหรือการวิ่ง ท่า Plank
ก็ได้ประโยชน์ไม่แพ้กันแน่นอน แต่โอกาสในการบาดเจ็บนั้นจะมีน้อยกว่า
ส่วนช่วงแรกๆ อาจมีระบมช่วงหน้าท้องหรือต้นขา ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่เมื่อร่างกายชิน อาการเหล่านี้ก็จะค่อยๆ เบาลงตามลำดับจ้างั้นเรามาดูคลิปวิดีโอการทำท่า Plank ที่ถูกต้องกันที่กว่า
Cover Image Source:purewomenshealth