2 วิธีรักษาข้อศอกและหัวเข่าด้านแบบธรรมชาติ ทำง่าย ได้ผลดีมาก
ปัญหาข้อศอกและหัวเข่า มีความหยาบกร้าน แห้งและด้าน มีลักษณะสากคล้ายกระดาษทราย โดยส่วนใหญ่แล้วมักมีสาเหตุเกิดจากการขาดน้ำหล่อเลี้ยงจนไม่มีความชุ่มชื่นอยู่เลย และเมื่อเกิดการเสียดสีบ่อยครั้งจนทำให้ผิวบริเวณนั้นด้าน และที่สำคัญหากปล่อยไว้นาน ๆ ก็อาจกลายเป็นแผลเรื้อรังที่ก่อให้เกิดเป็นโรคผิวหนังได้
สำหรับวิธีขจัดความแห้งกร้านของข้อศอกและหัวเข่าที่จะมานำเสนอนั้น เป็นวิธีทางธรรมชาติที่จะช่วยดูแลและรักษาผิวบริเวณข้อศอกและหัวเข่าให้กลับมามีความชุ่มชื่นอีกครั้ง ด้วยวิธีการใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่าย และขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สามารถทำเองได้ที่บ้าน จากนี้เรามาดูกันเลยว่า วิธีรักษาข้อศอกด้าน แบบธรรมชาติ นั้นทำอย่างไรกันบ้าง
2 วิธีรักษาข้อศอกด้าน
วิธีรักษาข้อศอกด้าน ดำ แบบธรรมชาติด้วยมะละกอสุก
มะละกอสุก จะมีเอนไซม์ที่ชื่อว่า พาเพน (Papain) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกมา อีกทั้งยังช่วยปรับสีผิวให้แลดูขาวขึ้นได้อีกด้วย
วิธีการทำ
1. นำมะละกอสุกมา 1 ลูก จากนั้นปอกเปลือกออกให้หมด แล้วนำมาผ่าครึ่ง และนำเมล็ดออกให้หมด
2. จากนั้นให้หั่นมะละกอเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปปั่นให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน
3. ให้นำเอาเนื้อที่ปั่นจนละเอียดไปพอกบริเวณข้อศอก หัวเข่า สักประมาณ 20 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น วิธีการนี้หมั่นทำเป็นประจำ จะช่วยลดความดำคล้ำของผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวบริเวณข้อศอกและหัวเข่าเรียบเนียนชุ่มชื่นมากยิ่งขึ้น
วิธีรักษาข้อศอกด้าน แบบธรรมชาติด้วยแตงกวา
แตงกวา มีคุณสมบัติเย็นอุดมไปด้วยน้ำ และยังช่วยทำความสะอาดเชื้อโรคได้อีกด้วย จึงสามารถบรรเทาอาการผิวแห้งแตกลาย และช่วยคืนความชุ่มชื่นให้ผิวหนังได้เป็นอย่างดี
วิธีการทำ
1. นำแตงกวาสดมา 1 ลูก (เลือกแตงกวาที่มีลักษณะผลอวบน้ำ)
2. นำแตงกวามาหั่นเป็นแว่น ๆ ให้มีขนาดเท่า ๆ กัน จากนั้นให้นำชิ้นแตงกวาที่หั่นแล้ว มาขัดให้ทั่วบริเวณข้อศอก หัวเข่า ตาตุ่ม หรือส้นเท้า จากนั้นทิ้งชิ้นเนื้อแตงกวาไว้สักประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอาด เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น วิธีการนี้หมั่นทำเป็นประจำ จะช่วยคืนความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหนัง ทำให้ผิวที่แห้งกร้านกลับมานุ่มและเรียบเนียนยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้คือ วิธีรักษาข้อศอกด้าน แบบธรรมชาติ ที่สามารถช่วยคืนความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหนังได้เป็นอย่างดี หากใครสนใจและสะดวกใช้วิธีการไหน ก็สามารถนำไปใช้กันได้เลย
แหล่งที่มา...thaibodycare.com