ใครมือชาบ่อย ๆ ระวัง ! อาการที่ไม่ควรมองข้าม ต้องรีบรักษา ด้วยวิธีการดังนี้?
เคยไหมที่มีอาการมือชา สาเหตุเกิดจากอะไร จะมีวิธีป้องกันและรักษาได้หรือไม่ มีคำตอบค่ะ
มือชา ปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วยวัยกลางคน โดยมากมักเกิดกับเพศหญิงมากกว่าชาย
เกิดจากการใช้งานของมือในลักษณะที่ต้องมีการกระดกข้อมือ
หรือกำยืดนิ้วมือตลอดวัน ซึ่งกลุ่มที่พบ ได้แก่ แม่ครัว ช่างทำผม
แม่บ้านทำความสะอาด กวาดบ้าน หรือคนทำงานในออฟฟิศที่ต้องรับโทรศัพท์
ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ และกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
ผู้ป่วยที่มีข้อต่อกระดูกคอเสื่อม รวมถึงการขาดวิตามินบี
จะมีปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดมือชาได้อาการจะเริ่มชาที่ฝ่ามือและนิ้วมือ ในขณะที่ใช้มือทำงานอย่างต่อเนื่อง
และถ้าเป็นมากอาจมีอาการชาจนเป็นเหน็บในขณะที่ไม่ได้ใช้งาน
และมีอาการปวดตอนกลางคืนจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อขยับมือหรือบีบนวดฝ่ามือ
และถ้าปล่อยไว้นานจะมีการอ่อนกำลังของมือหยิบจับสิ่งของแล้วร่วงหล่น
จนถึงขั้นมีการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อมือในที่สุดสาเหตุของมือชา ส่วนมากเกิดจากการหนาตัวของเอ็นยืดกระดูกบริเวณข้อมือ
หรือที่บริเวณอุโมงค์ข้อมือ
เอ็นนี้จะไปกดรัดเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อที่ฝ่ามือ
และเส้นประสาทที่ทำหน้าที่รับความรู้สึกที่ฝ่ามือ
การเคลื่อนไหวของข้อมือมาก ๆ จะทำให้เกิดการระคายมากขึ้นสำหรับการดูแลป้องกัน ต้องเริ่มจากลดการใช้งานข้อมือที่ทำงานหนัก ๆ
ปรับท่าทางการทำงานของมือให้เหมาะสม
ระหว่างการทำงานข้อมือจะต้องไม่งอมากจนเกินไป
และใช้อุปกรณ์ช่วยประคองข้อมือสำหรับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อให้ข้อมือมีที่พัก
เมาส์ที่ใช้ก็ต้องมีขนาดพอดีมือ ไม่เล็กจนเกินไป
เพราะจะทำให้ข้อมือเกร็งมากขึ้นส่วนการรักษา ถ้าผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง
จะให้ยาต้านการอักเสบของเส้นเอ็นและเส้นประสาท การให้วิตามินบี
จนถึงขั้นสุดท้าย คือ การผ่าตัดเอ็นที่ไปกดรัดเส้นประสาทนั้น ฉะนั้นการดูแล
ป้องกัน และถนอมข้อมือ เพื่อให้เราได้ใช้งานนาน ๆ
จึงเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ หากใช้งานข้อมือที่ผิดท่า ผิดวิธี
อาจนำมาซึ่งการรักษาที่ซับซ้อนมากขึ้นที่มา : ศ.นพ.ภานุพันธ์ ทรงเจริญ ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและ http://www.thaihealth.or.th