อดใจไว้บ้าง ! 10 อาหารสุดอันตราย ที่ควรจะงดทานให้ได้

อ่าน 8,294

ข้อมูลดีๆ ที่นำมาฝาก เพื่อให้ทุกคนตระหนักนะไม่ใช่ตระหนก

แค่ลดปริมาณก็พอไม่ถึงกับต้องเลิกกินหรอกนะ กินให้พอดี กินให้พออิ่ม

มีความสุขตามอัตภาพค่ะ ^^

10 อาหารสุดอันตราย ที่ควรจะงดทานซะบ้าง

1. แฮมเบอร์เกอร์

จัดเป็นอาหารประเภทที่ ?มีความเสี่ยงสูง?

เพราะเวลาที่สูญเสียไปในระหว่างรอกระบวนการนำ ?เนื้อ? มาใช้ปรุง ทำให้มี

?แบททีเรีย? เกิดขึ้นได้สูง ทำให้จำเป็นต้องมีการใช้ ?สารเคมีสีแดง?

มาช่วยกำจัดเนื้อที่กำลังจะเน่าเสียทำให้เนื้อแดงเปลี่ยนเป็นเขียว

นอกจากนี้แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่ ?สารปรุงรส? (MSG=Monosodium

Glutamate ) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ โดย ?MSG?

เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้นด้วย

2. ฮอทด็อก

เป็นอีก ?เมนูอันตราย? เพราะมีกระบวนการผลิตคล้ายแฮมเบอร์เกอร์ และ

?ฮอทด็อก? ทั้งหมดยังใส่ ?สารไนไตรท์?

เพื่อช่วยให้เนื้อยึดตัวและช่วยเติมไส้กรอกให้เต็มโดย ?สารไนไตรท์?

เป็นสารที่ทำให้เกิด ?โรคมะเร็ง? ในกระเพราะอาหาร

มะเร็งในเม็ดเลือดเนื้องอกในสมอง และมะเร็งในกระเพราะปัสสาวะนอกจากนี้

?ถุงหลอด? ที่ใช้บรรจุฮอทด็อกก็ทำจาก ?คอลลาเจนสังเคราะห์?

ที่เป็นสารก่อให้เกิด ?โรคมะเร็ง? ได้สูง

มีไขมันที่เป็นสารประกอบไม่เปิดเผยอยู่ประมาณ 40%

เมื่อนำไปปิ้งย่างมันจะทำให้มี ?สารพิษร้ายแรง? ที่เรียกว่า ?อะคริลิไมค์?

(Acrylimides) ออกมาซึ่งรู้จักดีว่าเป็นสารก่อมะเร็ง

3. เฟร้นช์ฟราย

มันฝรั่งทอด เป็นอาหารที่มี ?ความเป็นพิษสูง? โดยการทอด ?เฟร้นช์ฟราย?

ใช้อุณหภูมิสูงทำให้มี ?สารอะคริลิไมด์? ออกมา นอกจากนี้ ?น้ำมัน?

ที่ใช้ทอดมันฝรั่งแต่ละครั้งจะเกิดการ ?ออกซิไดซ์? ในมันฝรั่งยังมี

?ดรรชนีกลีซิมิค? (Glycemic)

อยู่สูงมาก..นั่นหมายถึงมันเปลี่ยนให้กลายเป็นน้ำตาลภายในร่างกายได้เร็วมาก

4. คุกกี้

ที่เด่นชัดมากคือสัดส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว

ซึ่งอาหารในประเภทที่มีน้ำตาลปริมาณสูงเช่นนี้

จะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น

5. พิซซ่า

?พิซซ่า? ประกอบด้วยอาหารที่มาจากการ ?ตัดแต่งพันธุกรรม? 5 ชนิดคือ?

  • ? เนยแท้ (Cheese) เพียง 10 % เท่านั้น ซึ่งไม่ควรเรียกว่าเนยแท้ได้เลย..
  • ? ที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี

    ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้วแต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตาม

    จำนวนโมเลกุลที่เคยมีอยู่เข้าไปใหม่?

  • ? ซอสมะเขือเทศ ทำด้วยสารคล้ายมะเขือเทศที่สร้าง ?ยาฆ่าแมลง? ของมันขึ้นมาได้เองในร่างกายของท่าน?
  • ? แป้งสาลี ชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุกรรม
  • ? มีน้ำมันฝ้าย ประกอบอยู่ โดยฝ้ายไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร

    มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้

    ในฝ่ายเมล็ดจะเป็นตัวดูดเอาสารพิษต่างๆ เอาไว้ได้มากที่สุด

ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ

และกระทรวงสาธาธารณสุขต่างไม่ไห้ความร่วมมือซึ่งกันและกันที่จะรับรองว่ามัน

ปลอดภัยต่อการบริโภคได้หรือไม่ มันไม่ได้ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น

แต่มันเป็น ?น้ำมันไฮโดรจีเนต? และมีอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ ?ผิวหน้าแป้งพิซซ่า? ที่อบปิ้งในอุณหภูมิ อาจมี

?สารอะคริลิไมค์? เกิดขึ้นด้วยขณะที่การเพิ่มหน้าพิซซ่า ?เพ็พเปอโรนิ? หรือ

เพิ่มหน้าไส้กรอกทำให้มีความเสี่ยงสูงจาก ?ไนไตรท์?

สารกันบูดและสารเคมีอื่นๆ

รวมทั้งไขมันอิ่มตัวที่มีการเติมเข้าไปจากโรงงานอีกด้วย

6. น้ำอัดลม

สารตัวสำคัญที่มีอยู่ใน ?น้ำอัดลม? คือ ?กรดกำมะถัน? (Phosphoric acid)

ซึ่งมีความเป็นกรดสูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วัน

กรดที่สะสมอยู่ในร่างกายทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักลดลงได้ และ ?น้ำโซดา?

ที่เป็นส่วนประกอบอีกตัวหนึ่งของน้ำอัดลมจะเปิดตัวซะล้างแคลเซียมออก

จากกระดูก จนทำให้เกิด ?โรคกระดูกพรุน? นอกจากนี้ในน้ำอัดลม 1 กระป่องจะมี

?น้ำตาลที่ไม่ให้พลังงาน? อยู่ 12 ช้อนชา ในน้ำอัดลมที่ช่วยลดน้ำหนักตัว

หรือ Dict soda ที่ใช้ ?น้ำตาลเทียมสังเคราะห์? (Artificial sweetener)

เพิ่มความหวานจะทำให้ร่างกายกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้นเพราะน้ำตาลสังเคราะห์

เหล่านี้มีความหวานมากกว่าน้ำตาลธรรมดามาก ขนาดที่ ?สี?

ที่ใช้เติมในน้ำอัดลมยังเป็น ?สารก่อมะเร็ง? อีกด้วย

7. ชิ้นไก่ทอด

เนื้อนุ่มไร้กระดูก เป็นเมนูที่ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ใช้แล้ว

การรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไปจะให้พลังงาน 340 แคลลอรี 50% เป็นไขมัน

มีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก ซึ่งมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูงมีการเติมสารปรุงรส

?MSG? ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้นอกจากนี้ ?นัคเก็ตชิคเก้น? บางอันจะมี

?สารอลูมิเนียม?

ซึ่งเป็นอันตรายต่อสมองและเป็นอันตรายต่อการเผาพลาญของร่างกายด้วย

8. ไอศกรีม

มีไขมันสูงมากเกินกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำบริโภคต่อวัน

มีคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน

มีน้ำตาลอยู่มากทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น

เป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น

เต็มไปด้วยไขมันไฮโดรจีเนตและไขมันที่แปรเปลี่ยน (Transfat)

ไปจากธรรมชาติ และยังช่วยเพิ่มพูนโคเลสเตอรอล ทำให้สันเลือดแดงอุดตัน

ทำให้มีสารอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้เป็นสาเหตุของมะเร็ง

9. โดนัท

โดยเฉลี่ยแล้วจะให้พลังงาน 300 แคลอรี่ โดยในโดนัท 1

ชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50 % ของที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน

มีเกลือโซเดียมสูงมาก ทำให้ร่างกายขาดน้ำได้

นอกจากนี้โดนัทยังทอดในน้ำมันที่มีอุณหภูมิที่สูง

ซึ่งน้ำมันประเภทนี้จะทำให้มีกลิ่นหืนและมีสารอนุมูลอิสระเกิดขึ้น

ทำให้เกิดสารพิษ และทำให้ร่างกายเผาพลาญช้าลง เป็นการคุกคามต่อสุขภาพได้

และยังเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น

10. อาหารขบเคี้ยวยามว่าง

ในปัจจุบันมีการบริโภค ?โปเตโต้ซิพ?กันมาก

โดยน้ำมันที่ใช้ในการทอดโปเตโต้ซิพในแต่ละครั้งจะเกิดการออกซิไดร์

(Acrylimides) ซึ่งเป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายระบบประสาทออกมา

นากจากนี้การรับประทานโปเตโต้ชิพ 1 ถุงอาจได้รับสารอะคริลิไมด์สูงมากกว่า

500 เท่า

เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราสูงสุดที่อนุญาตให้มีในน้ำดื่มทั่วไปๆได้

การรับประทานโปเตโต้ชิพ 1 ชิ้น

อาจได้รับสารอะคริไมค์เท่ากับอัตตราที่มีอยู่ในน้ำดื่ม 1 แก้ว



บทความแนะนำ


ความรักผู้ชายความเชื่อผู้หญิงธรรมชาติBeautyBuffetสายฝนทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก