สลัดพฤติกรรมกินจุและหันมาใส่ใจในสุขภาพกันดีกว่า

อ่าน 5,820

ทำไมการอดอาหารส่วนใหญ่ถึงประสบความล้มเหลว? ไม่ใช่ว่าเพราะเราขี้เกียจหรือขาดกำลังใจหรอกนะ แต่เป็นเพราะเราเข้มงวดมากเกินไปต่างหาก เมื่อปริมาณแคลอรี่ลดลงไปอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเราจะตกอยู่ในสภาวะอันตรายโดยทันที จากนั้นระบบภายในร่างกายก็จะส่งสัญญาณเตือนเมื่อการเผาผลาญชะลอตัวลง คุณจะเริ่มรู้สึกหิวและเข้าสู่โหมดรับประทานอาหารเกินความจำเป็น ดังนั้นเมื่อคุณเลิกควบคุมอาหาร น้ำหนักตัวก็จะเด้งกลับมามากกว่าเดิมถึง 4 เท่า

คุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหลายปีในการเอาชนะปัญหานี้ ร่างกายของคนเราถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มน้ำหนักตัว ดังนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ร่างกายของคุณจะรู้สึกต่อต้านเมื่อได้รับแคลอรี่ไม่เพียงพอ หลายคนมักพูดว่า ?จะว่าไปฉันก็ไม่ได้ชอบกินนู่นกินนี่นักหรอก แต่ทำไมยังลดน้ำหนักไม่ได้ก็ไม่รู้? การควบคุมอาหารของคนส่วนใหญ่มักจะล้มเหลว แถมน้ำหนักตัวของพวกเขาก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใครหรอกที่อยากจะอ้วน แต่ในทางชีววิทยาร่างกายของเราโหยหาอาหารแปรรูปและอาหารที่มีรสหวาน รวมทั้งต้องการรับประทานเข้าไปให้ได้มากที่สุดด้วย

นี่คือ 7 กลยุทธ์เพื่อเลิกพฤติกรรมกินจุและช่วยในการลดน้ำหนัก

1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ได้แก่ อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งด้วยสารเคมีต่างๆ อันประกอบไปด้วยผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด ถั่ว น้ำมันมะกอก อาหารออร์แกนิก หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่เลี้ยงด้วยหญ้า (เป็ด ไก่ แกะ วัว หมู ไข่) และปลาขนาดเล็ก เช่น ปลาแซลมอน

2. รับประทานมื้อเช้า การงดอาหารมื้อเช้าจะทำให้คุณหิวยิ่งกว่าเดิม ในที่สุดวันนั้นคุณจะรับประทานอาหารมากกว่าปกติซะอีก การทดลองพบว่าผู้ที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำจะสามารถลดน้ำหนักได้มากกว่าผู้ที่อดอาหารมื้อเช้า

3. ระวังเรื่องพฤติกรรมการกิน คุณต้องรู้จักผ่อนคลายเพื่อให้ระบบประสาททำงานได้อย่างเหมาะสม หากคุณเครียดระบบย่อยอาหารจะทำงานบกพร่องรวมถึงทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลงด้วย ขณะที่การรีบเร่งรับประทานอาหารจะทำให้คุณรับประทานอาหารมากเกินไปเนื่องจากสมองต้องใช้เวลาราว 20 นาทีหลังจากที่คุณเริ่มตักอาหารเข้าปากเพื่อส่งสัญญาณว่าอิ่มแล้ว

4. จดบันทึก ทุกอย่างที่คุณรับประทาน รวมทั้งความรู้สึกหลังจากนั้นด้วย วิธีนี้จะช่วยกำจัดพฤติกรรมการกินที่ไม่ระวังและนิสัยที่ไม่ดีอื่นๆด้วย การระมัดระวังในเรื่องอาหารการกินบวกกับการหมั่นสำรวจตัวเองจะช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงในที่สุด ที่สำคัญระบบการเผาผลาญก็จะทำงานได้ดียิ่งขึ้นด้วย

5. นอนหลับอย่างเพียงพอ ทางที่ดีคุณควรนอนหลับวันละ 8 ชั่วโมงและไม่ถูกรบกวนระหว่างที่นอนหลับด้วย อาการอยากอาหารจะลดลงและระดับฮอร์โมนที่ควบคุมไขมันก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาพบว่าผู้ที่อดนอนจะมีภาวะต่อต้านอินซูลินและเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนกับโรคเบาหวานประเภท 2

6. ควบคุมระดับความเครียด ไม่ว่าจะเป็นงานที่ท้าทาย ชีวิตการแต่งงานที่ตึงเครียด การอดนอน หรือปัญหางานกองสุมแต่ไม่มีเวลาทำ ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ล้วนแต่สร้างความเครียดระดับรุนแรงเป็นเหตุให้คุณรับประทานอาหารมากเกินความจำเป็น จงเรียนรู้ที่จะผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีต่างๆ เช่น การนั่งสมาธิ โยคะ หรือสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

7. ออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่ถูกต้องจะช่วยในเรื่องการลดน้ำหนักและควบคุมอาการอยากอาหารเพื่อป้องกันการรับประทานอาหารมากเกินไป ลองเดินทุกวันอย่างน้อยวันละ 30 นาที คนส่วนใหญ่มักเลือกออกกำลังกายเพื่อต่อสู้กับโรคอ้วนรวมถึงปรับพฤติกรรมการกินให้เป็นปกติ จงทำให้เป็นเรื่องสนุกตั้งแต่การวิ่ง ปั่นจักรยาน เต้นรำ กิจกรรมสันทนาการ หรือการกระโดดเชือก เป็นต้น

Blogger : Dr. Mark HymanSource : mindbodygreen.com



บทความแนะนำ


ฆ่าตัวตายToastHoneyข่าวล่าสุดฮันนี่โทสต์ShibuyaHoneyToastโปรโมชั่นAmarinBrandSupersportsSaleคิดสั้นทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก