13 สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองเมื่อคุณอายุมากขึ้น

เมื่อคุณเป็นเด็กคุณอยากทำอะไรก็ได้ อยากงีบหลับกี่ครั้งก็ไม่มีใครว่า คุณสามารถกินข้าวกล่องได้โดยไม่ถูกเพ่งเล็ง อย่างไรก็ตามในตอนนี้ถือว่าคุณโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว (แม้ว่าคุณอาจจะยังไม่รู้สึกเช่นนั้นก็ตาม) และ 13 ข้อด้านล่างนี้คือข้อมูลสุขภาพที่คุณต้องรู้และควรเตรียมตัวไว้เมื่ออายุมากขึ้น

1. กรุ๊ปเลือด

กรุ๊ป A? กรุ๊ป O? ความเข้าใจเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือดหมายความว่าคุณมีความเข้าใจในด้านสุขภาพอย่างลึกซึ้ง การศึกษาแสดงให้เห็นว่ากรุ๊ปเลือดมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ และเป็นข้อมูลที่คุณหมอของคุณต้องรู้อยู่เสมอ

2. ประเภทของการออกกำลังกายที่คุณชอบ

พิลาทิส? ปั่นจักรยานในร่ม? โยคะ? การออกกำลังกายไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงแต่ยังทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นด้วย การวิจัยชี้ให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวแม้ว่าจะเป็นแค่การเดินเล่นก็สามารถทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดรวมถึงโรคต่างๆอีกมากมายด้วย

3. ประวัติการรักษาของครอบครัว

คุณย่าของคุณเป็นมะเร็งเต้านมหรือไม่? คุณลุงของคุณมีการใช้สารเสพติดหรือไม่? ข้อมูลเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์อย่างยิ่งโดยเฉพาะถ้าคุณต้องไปพบแพทย์คนใหม่ คุณหมอจะสอบถามประวัติเกี่ยวกับโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และปัญหาสุขภาพจิตในการนัดหมายครั้งแรก ดังนั้นคุณควรจัดเตรียมไว้

4. ความเข้าใจพื้นฐานของไฝหรือเม็ดสี

คาดกันว่าในปี 2015 จะมีผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมารายใหม่ประมาณ 73,000 รายและจะเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มบุคคลที่อายุต่ำกว่า 40 ปี แพทย์จะสแกนร่างกายเพื่อตรวจสอบว่าผิวหนังมีความผิดปกติหรือไม่ ยิ่งคุณคุ้นเคยกับร่างกายของตัวเองมากเท่าไหร่ก็เป็นไปได้ว่าคุณจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เร็วมากเท่านั้น

5. เนื้อเยื่อเต้านม

การตรวจเต้านมด้วยตัวเองเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจหาโรคมะเร็งเต้านม คุณสามารถตรวจสอบได้ว่ามีก้อนหรือความผิดปกติอะไรหรือไม่ตั้งแต่อายุ 20 ปีตามที่สมาคมโรคมะเร็งกำหนด (ควรหมั่นสังเกตอาการทั้งผู้หญิงและผู้ชายเนื่องจากโรคมะเร็งเต้านมสามารถส่งผลกระทบได้กับทั้งสองเพศ)

6. โรคภูมิแพ้

คุณไม่จำเป็นต้องมีอาการแพ้รุนแรงตลอดเวลา โรคภูมิแพ้มีระดับความรุนแรงแตกต่างกันตั้งแต่น้อยไปหามาก แถมยังรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆในภายหลังได้ด้วย ดังนั้นคุณควรไปตรวจร่างกายบ่อยๆเพื่อให้มั่นใจว่าระบบภูมิคุ้มกันยังแข็งแรงอยู่ ที่สำคัญการรู้ในเรื่องยา อาหาร และตัวกระตุ้นอื่นๆจะช่วยรักษาชีวิตของตัวเองไว้ได้

7. สิ่งที่ทำให้จิตใจสงบลงเมื่อคุณรู้สึกเครียด

สำหรับบางคนมันอาจเป็นเวลาที่ยาวนาน ขณะที่บางคนเป็นเรื่องง่ายมาก สิ่งที่ดีที่สุดในยามที่คุณเครียดย่อมดีต่อสุขภาพของคุณด้วย การวิจัยชี้ให้เห็นว่าภาวะเครียดเกินไปสามารถทำให้เกิดโรคหัวใจและโรคอื่นๆตามมา

8. ภาวะพร่องวิตามิน

คุณอาจรู้สึกดีแต่ร่างกายอาจกำลังต้องการบางอย่าง ภาวะพร่องไม่ใช่เรื่องตลก ยกตัวอย่างเช่น การขาดธาตุเหล็กอาจเป็นสัญญาณของโรคโลหิตจางและมีวิตามินดีน้อยเกินไปซึ่งอาจเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพจิต คุณควรตรวจร่างกายเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับปริมาณวิตามินเพียงพอหรือไม่ หากไม่เพียงพอขอแนะนำให้รับประทานอาหารเสริมที่เหมาะกับคุณ

9. แพทย์ที่ไว้วางใจได้

หากคุณรู้สึกไม่ดี คุณควรเปลี่ยนหมอคนใหม่ที่เหมาะกับคุณและทำให้คุณรู้สึกสบายใจมากที่สุด นอกจากแพทย์แล้ว เรายังใช้กฎเดียวกันนี้กับนักบำบัด นรีแพทย์ และทันตแพทย์ได้ด้วย

10. การแพ้อาหาร

การได้รับผลกระทบเชิงลบจากอาหารอาจฟังดูเป็นโชคชะตาที่เลวร้ายที่สุดในโลก แต่คุณควรทราบว่าองค์ประกอบเหล่านี้มีผลกระทบต่อพฤติกรรมหรือความเป็นอยู่ที่ดีของคุณอย่างไร ที่สำคัญรวมถึงแอลกอฮอล์ด้วยนะ

11. ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับประกันสุขภาพ

กรมธรรม์ต่างๆสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ แค่ศัพท์เฉพาะทางก็ทำให้คุณหัวหมุนติ้วแล้ว คุณควรใช้เวลาทำความเข้าใจกฎพื้นฐานและแผนประกันสุขภาพของคุณ

12. วัคซีนที่คุณได้รับ

ประวัติการฉีดวัคซีนที่ผ่านมาของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้และยังเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับแพทย์ผู้รักษาด้วย พวกเขาจะรู้ว่าควรจ่ายยาตัวเดิมหรือเสริมยาตัวอื่นให้กับคุณ หรือควรให้คุณฉีดวัคซีนป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ยกตัวอย่างเช่นแม้ว่าโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจะมีอันตรายรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตแต่ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

13. ร่างกายต้องการพักผ่อนมากเท่าใด

อย่างน้อยที่สุดคือ 7-9 ชั่วโมง แต่ร่างกายของคนเรานั้นแตกต่างกัน ถ้างั้นคุณควรพิจารณาจากเวลานอน เช่น ถ้าคุณเข้านอนตอน 22.00 น. ก็ควรแน่ใจว่าคุณจะนอนหลับภายใน 23.00 น. จากนั้นดูว่าแบบไหนที่เหมาะกับคุณ

Blogger : Lindsay HolmesSource : huffingtonpost.com