10 พฤติกรรมลูกค้าที่ช่างสักเบื่อสุดๆ

อ่าน 2,132

แน่นอนว่าอาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนส่วนใหญ่ในการระวังไม่ให้ตัวเองป่วนประสาทผู้ที่กำลังให้บริการ แต่ถ้าบังเอิญคุณไม่ทราบถึงมารยาททางสังคมก็อาจเสี่ยงทำให้ผู้ที่ถ่ายทอดงานศิลปะบนเรือนร่างของคุณมีน้ำโหได้ ช่างสักไม่ใช่คนรับใช้ พวกเขาเป็นมืออาชีพ มีความสามารถ และสมควรที่คุณจะให้ความเคารพพร้อมกับเสียเงินให้อย่างคุ้มค่า ที่สำคัญถ้ารอยสักของคุณสวยไร้ที่ติ คุณก็อาจจะอยากกลับไปใช้บริการช่างสักคนเดิมอีกรอบ แต่อย่าหวังว่าเขาจะต้อนรับคุณถ้าหากคุณเคยทำตัวน่าเกลียดเอาไว้ หรือถ้าคุณสงสัยว่าทำไมช่างสักถึงดูรำคาญคุณจัง งั้นลองอ่านพฤติกรรม 10 อย่างที่ไม่ควรทำในร้านสัก

1. ขอให้ช่างลอกผลงานของช่างคนอื่นๆ

บังเอิญคุณเจอรูปๆหนึ่งในอินสตาแกรมซึ่งคุณชอบมากแม้ว่าจะมีคนอื่นสักลายไว้บนแขนไปแล้ว หรืออาจเป็นผลงานของช่างคนอื่นที่คุณไม่มีโอกาสไปหา แต่เสียใจด้วยนะเพราะช่างสักเหล่านี้เป็นศิลปินที่ไม่ต้องการคัดลอกผลงานของช่างคนอื่น ทางที่ดีคือคุณไม่ควรดูถูกความสามารถของช่างสักด้วยการนำภาพผลงานของช่างคนอื่นๆมา หรือถ้าเอามาเพื่อเป็นแค่แรงบันดาลใจก็ควรพูดออกไปให้ชัดเจน

2. พูดจาดูถูกเรื่องราคา

รู้ไหมว่างานศิลปะมีราคาค่างวดที่สูงมากนะ ยิ่งเป็นงานศิลป์บนเรือนร่างของคุณด้วยแล้ว บอกเลยว่าไม่ใช่งานที่ง่ายเลยโดยเฉพาะกับมนุษย์ที่มีความรู้สึกเจ็บปวด เดี๋ยวก็ไอ เดี๋ยวก็จาม หรือขอพักดื่มน้ำ ร้านสักส่วนใหญ่มีค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง ต่อให้คุณสักแค่ลวดลายแมวเหมียวตัวกะจิริดก็ต้องจ่ายตามอัตราที่กำหนด เว้นแต่ว่าคุณจะมีเพื่อนสนิทเป็นช่างสัก งานนั้นอาจจะฟรีไปเลย!

3. ต่อรองราคา

การต่อรองราคานับว่าเป็นเรื่องที่หยาบคายมาก ไม่มีใครอยากให้งานศิลปะของตัวเองได้รับการประเมินค่าที่ต่ำเกินไปหรอก นี่ไม่ใช่ตลาดนัดนะและคุณก็ไม่ได้ซื้อแค่จานใบเก่าๆด้วย งานศิลปะบนเรือนร่างนั้นมีมูลค่า ไม่ใช่ว่าศิลปินต้องการเอาเปรียบคุณ และอย่าเด็ดขาดที่จะตกลงราคากันเรียบร้อยแล้ว แล้วมาต่อราคาอีกทีหลังจากที่งานเสร็จ เพราะมันน่าเกลียดสุดๆ!

4. ผิดนัด

ปกติการวางมัดจำคือการรับประกันว่าคุณจะมาอย่างแน่นอน ถ้าช่างสักตกลงที่จะถ่ายทอดงานศิลป์ลงบนเรือนร่างของคุณแล้ว อย่างน้อยคุณก็ควรจะมาตามนัด แต่ถ้าบังเอิญคุณเกิดกลัวก็ควรโทรมายกเลิกล่วงหน้า (เพื่อให้ช่างนัดลูกค้ารายอื่นได้) หรือเข้ามาที่ร้านและบอกเหตุผลไปตรงๆ ช่างสักยินดีที่จะตอบคำถามทุกข้อแน่นอน

5. มากับเพื่อนเป็นฝูง

มาให้กำลังใจแค่คนเดียวยังพอว่า แต่ถ้ามาสักห้าคนนี่เยอะเกินไปนะ นอกจากจะเกะกะพื้นที่ในร้านแล้วช่างสักยังเสียสมาธิอีกด้วย คุณคงไม่อยากทำให้ช่างสักที่มีเข็มอยู่ในมือเสียสมาธิหรอกใช่ไหม ถ้าคุณแก่พอที่จะมีรอยสักอยู่บนตัวแล้ว คุณก็แก่พอที่จะรู้ว่าไม่ควรลากเพื่อนเข้ามาในร้านเป็นกลุ่มใหญ่ๆ อ้อ..และอย่าพาลูกตัวเองไปด้วยล่ะ

6. กินเหล้าย้อมใจ

ถ้าคุณเป็นคนประเภทที่ต้องกินเหล้าย้อมใจเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดล่ะก็ บอกเลยว่าการสักไม่เหมาะกับคุณ คนเมาน่ะน่ารำคาญจะตายแถมการสักบนร่างกายของคนเมาก็เป็นเรื่องที่อันตรายสุดๆ ยาแก้ปวดกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เม็ดเลือดจางและไหลออกมามากขึ้น ดังนั้นคุณต้องเซ็นชื่อยินยอมลงในแบบฟอร์มก่อนที่จะเข้ารับการสักว่าคุณจะไม่ดื่มเตกีล่าเด็ดขาด

7. ทำตัวรู้ดี

ขณะที่คุณไม่ควรปล่อยให้คนอื่นมาจู้จี้จุกจิกกับคุณเรื่องรอยสัก ช่างสักก็เป็นผู้เชี่ยวชาญและรู้ดีว่าตำแหน่งไหนเหมาะ สีไหนจางเร็วที่สุด หรือสีไหนดูเลอะเทอะเกินไป หากเขาบอกว่าเนื้อเพลง ?Stairway To Heaven? ไม่เหมาะที่จะอยู่บนน่องของคุณก็ควรเชื่อเขาดีกว่า

8. พักสูบบุหรี่

หากคุณจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำก็ควรขออนุญาตก่อนเพราะการนั่งดุกดิกอยู่ไม่สุขบนเก้าอี้ไม่ใช่เรื่องสนุกสำหรับช่างเลย ส่วนการขอพักสูบบุหรี่ก็อาจทำให้ตารางงานของช่างเสียหาย และที่สำคัญไม่ถูกสุขลักษณะด้วย ดังนั้นควรไปทำธุระเข้าห้องน้ำ กินข้าว สูบบุหรี่ หรือทำอะไรก็ตามให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่จะมาสัก เพื่อไม่ให้เสียอารมณ์กันทั้งสองฝ่าย

9. ไม่ให้ทิป

หากคุณต้องการคว้าตำแหน่งลูกค้ายอดแย่ประจำวันนั้นล่ะก็ การไม่ให้ทิปน่าจะเป็นวิธีที่เร็วที่สุด ดังนั้นคุณควรให้ทิปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ เว้นแต่ว่าคุณได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีกับการสักในครั้งนั้นจริงๆ

10. ไม่สนใจวิธีดูแลหลังจากนั้น

หากคุณมีนัดว่าจะไปนอนอาบแดดในวันถัดไปนั่นมันก็เรื่องของคุณ แต่อย่าบ่นก็แล้วกันว่าสีจางลงหรือมีอาการติดเชื้อที่ผิวหนัง ช่างสักส่วนใหญ่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีดูแลและยินดีที่จะตอบคำถามทั้งหมดของคุณ ไม่เช่นนั้นรอยสักแสนสวยของคุณอาจจะเสียหายอย่างรุนแรงได้

Blogger : Kristin Collins JacksonSource : bustle.com



บทความแนะนำ


หน้าขาวความสวยความงามหนิงปณิตาข่าวบันเทิงSetsunaProjectเกมส์น้ำซาวข้าวเป้ยปานวาดEnixSquareค่ายทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก