20 สิ่งที่คุณต้องปล่อยวางเพื่อให้ตัวเองมีความสุขอย่างยั่งยืน
ทุกคนมีเป้าหมายในชีวิตเพื่อการมีความสุขที่แท้จริง แต่ปัจจัยที่ทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ก็คือความเศร้าของตัวเราเอง เราจำกัดความสามารถของตัวเองอยู่ทุกวี่ทุกวันทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจก็ตาม อย่างไรก็ดีมีอีกหลายวิธีที่จะทำให้เราหลุดพ้นจากสิ่งยึดเหนี่ยวในแง่ลบเหล่านี้ไปได้ โดยการหยุดทำสิ่งที่มันซับซ้อนและใช้ชีวิตตามใจตัวเอง รวมถึงถ้าเราเรียนรู้ที่จะปล่อยวางข้อจำกัดบางอย่าง เชื่อสิว่าทุกคนทำได้!
20 สิ่งที่คุณจำเป็นต้องปล่อยวางเพื่อให้ตัวเองมีความสุขอย่างยั่งยืน
1. การยอมรับจากผู้อื่น
สนด้วยเหรอว่าคนอื่นจะคิดยังไง? หากคุณมีความสุขกับการตัดสินใจที่ได้ทำอะไรลงไป ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องของใครแต่เป็นเรื่องของคุณคนเดียว คิดถึงสิ่งดีๆที่คุณจะได้รับหากคุณเลิกปล่อยให้ความคิดเห็นของคนอื่นเข้ามาบงการชีวิตคุณ
2. ความโกรธ/คับแค้นใจ
ความโกรธจะกัดกินคุณจากภายใน เรียนรู้วิธีการสร้างสันติกับผู้ที่ทำไม่ดีใส่คุณ นี่คือการบรรเทาความเจ็บปวดที่สะท้อนอยู่ภายในตัวคุณ จงให้อภัยและพยายามลืมมันให้ได้ ขอย้ำอีกครั้ง! จงให้อภัยและลืมมันไปซะ
3. ความคิดในเชิงลบเกี่ยวกับตัวเอง
ไม่มีใครสามารถกำหนดได้ว่ารูปร่างที่ ?ถูกต้อง? คืออะไร หากคุณรู้สึกพอใจกับรูปร่างของตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยให้คนอื่นมาบอกว่าคุณไม่สวย คุณอ้วน คุณตัวดำ เพราะถ้าคุณเชื่อที่เขาพูดก็แสดงว่าคุณยอมรับมัน
4. การมองหาคู่รักที่สมบูรณ์แบบ
ไม่มีคู่รักใดที่สมบูรณ์แบบเพราะการมองหาคู่รักที่สมบูรณ์แบบจะทำให้คุณถูกปิดกั้นจากการก้าวไปข้างหน้า หากคุณยอมรับว่าไม่มีคนที่สมบูรณ์แบบอาศัยอยู่บนโลกใบนี้ หากคุณเข้าใจและยอมรับสัจธรรมข้อนี้ชีวิตของคุณก็เข้าใกล้กับความสุขเข้าไปทุกที
5. ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
มันก็เหมือนกับการไม่มีคู่รักที่สมบูรณ์แบบนั่นแหละ ดังนั้นหากคุณไม่เต็มใจและอิดออดที่จะทำงานหนัก สุดท้ายจุดจบของคุณก็คือความทุกข์ยาก ดังนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวคุณว่าจะสร้างโลกของคุณเองให้แสนวิเศษมากน้อยขนาดไหน
6. คุณจะรวย
คนส่วนมากใช้ชีวิตโดยคิดว่าพวกเขาจะเป็นเศรษฐี ซึ่งอาจจะเป็นเป้าหมายจริงๆสำหรับใครบางคน หยุดมองว่าเงินคือแรงจูงใจสำหรับคุณ ลองค้นหาอาชีพที่คุณรักและมุ่งมั่นทำให้สำเร็จจะดีกว่า
7. เชื่อว่าความโชคดีจะมาเยือนถึงประตูบ้าน
คุณต้องออกไปเผชิญหน้าสู่โลกกว้าง จะมานั่งรอเฉยๆและคาดหวังให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นเองนั้นไม่ได้ คุณควรมองเห็นคุณค่าในชีวิตและซาบซึ้งในสิ่งที่คุณมี ใช้เวลาอย่างมีคุณค่าในทุกๆวัน ใช้ชีวิตให้เหมือนว่าไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว และทำทุกอย่างอย่างสุดความสามารถ
8. ข้อแก้ตัว
อย่าแก้ตัวว่าไม่มีเวลา คุณควรออกกำลังกายบ้างแต่คุณไม่มีเวลางั้นเหรอ? ตื่นให้เช้ากว่าเดิมและไปออกกำลังกายซะสิ คำแก้ตัวคือสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกดีในสิ่งที่ไม่อยากทำหรือจำเป็นต้องทำ คุณต้องการผลลัพธ์แบบนี้เหรอ? หยุดอ้างได้แล้วและลงมือทำซะ!
9. คิดถึงแฟนเก่า
หากคุณกำลังคิดถึงเขาหรือเธอ ลองนึกถึงบทเรียนที่ผ่านมาสิ อย่าวนเวียนอยู่กับความรู้สึกเก่าๆเนื่องจากคุณจะปิดกั้นตัวเองจากการมีความสุขกับคนอื่นในอนาคต
10. ความดื้อรั้น
ฉันรู้ว่ามันยากที่จะยอมรับแต่บางครั้งคุณก็เป็นฝ่ายผิดจริงๆ ดังนั้นเลิกดื้อและน้อมรับมันแต่โดยดีเถอะ ยิ่งคุณลดทิฐิลงก็ยิ่งทำให้คุณมีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
11. การผลัดวันประกันพรุ่ง
หยุดคิดว่าคุณจะได้รับงานอะไรในวันพรุ่งนี้ จงอยู่กับปัจจุบันและทำงานที่อยู่ตรงหน้าให้ออกมาดีที่สุดจะดีกว่า ทำงานแต่ละงานให้เสร็จเร็วเท่าที่จะทำได้ เพราะมันจะช่วยทำให้คุณคลายความกังวลและลดความตึงเครียด ที่สำคัญคุณจะมีเวลาว่างมากขึ้นเพื่อไปทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
12. ลืมความเจ็บปวดในอดีต
หลายคนอาจจะเคยอกหักและเจ็บปวดจากความสัมพันธ์ในครั้งก่อนๆ การแบกเอาความรู้สึกด้านลบจากการอกหักติดตัวไปด้วยตลอดเวลาโดยไม่ยอมตัดมันออกไปจากชีวิตอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ในครั้งใหม่มีปัญหาร้ายแรงได้ คนสองคนไม่มีทางเหมือนกันดังนั้นไม่ควรดึงเอาคนรักในอนาคตมาผูกติดกับอดีต พยายามเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ในแต่ละครั้งด้วยกระดานชนวนที่ขาวสะอาด
13. เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ
สิ่งที่คุณเคยทำไปไม่ว่าจะดีหรือร้าย สุดท้ายแล้วมันจะย้อนกลับมาหาคุณ ดังนั้นจงเปลี่ยนวิธีคิดของตัวเองทันที หากคิดดีชีวิตก็จะดีตามไปด้วย หยุดคิดว่าชีวิตนี้มันแสนน่าเบื่อขนาดไหน แต่ควรคิดว่าชีวิตนี้มีอะไรให้ลองทำอีกตั้งเยอะและมันช่างมีชีวิตชีวาซะเหลือเกิน ให้มองโลกในแง่ดีเข้าไว้แล้วชีวิตจะดีเอง เชื่อสิ!
14. ความคิดที่ชอบตัดสิน
ทำไมคนเรามักห่วงใยในเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตของคนอื่น แต่ถ้าเราใช้เวลาส่วนใหญ่ห่วงตัวเองเหมือนกับที่ห่วงคนอื่นชีวิตของเราก็น่าจะดีขึ้นกว่านี้เยอะ ว่าไหม? คุณไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในชีวิตของคนอื่น ดังนั้นคุณจะไปตัดสินใจแทนพวกเขาทำไม ซึ่งบางทีเราอาจจะแค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้นไม่ได้ห่วงใยอะไรจริงจังนักหรอก หรือเรียกง่ายๆว่าจุ้นจ้านชีวิตคนอื่นนั่นเอง
15. ความอิจฉา
หยุดอิจฉาคนอื่นและจงพอใจในสิ่งที่คุณมี ชีวิตของคนทุกคนล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะแตกต่างกันไป คุณอาจมีในสิ่งที่คนอื่นไม่มี หากเรามัวแต่อิจฉาคนอื่น เราก็จะนำเอาความรู้สึกด้านลบมาใส่ไว้ในตัวเรา แน่นอนว่าไม่มีใครได้ประโยชน์จากพฤติกรรมแบบนี้หรอก
16. ความไม่มั่นคง
คนที่มีความสุขมักมีระดับในการนับถือตัวเองสูงมาก พวกเขายอมรับว่าตัวเองเป็นใคร ขณะเดียวกันหากคุณรู้สึกกังวล ลองออกไปเปิดหูเปิดตาและมองหาความเปลี่ยนแปลงดูบ้าง ถ้าคุณมีความสามารถซะอย่างไม่ว่าอะไรก็หยุดคุณไม่ได้อยู่แล้ว
17. ความสุขที่ขึ้นอยู่กับคนอื่น
มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คุณสามารถไว้ใจได้เต็มร้อยก็คือตัวคุณเองนั่นแหละ อย่าปล่อยให้คนอื่นเป็นผู้กำหนดความสุขของคุณ คุณควรมีความสุขด้วยตัวเองให้ได้ก่อนที่คุณจะหาใครมาแชร์ด้วย
18. อดีต
เลิกจมอยู่กับอดีต! ไม่มีความผิดพลาดใดในอดีตที่คุณสามารถกลับไปแก้ไขได้อีกแล้ว จงเก็บเอาความผิดพลาดไว้เป็นบทเรียน และคุณไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่หากยังมัวแต่มองไปข้างหลัง อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ใช้สติปัญญาไตร่ตรองและเดินหน้าต่อไป
19. ความรู้สึกอยากควบคุม
บางครั้งคุณควรปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามวิถีของมัน คุณไม่จำเป็นต้องเครียดกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของคุณ พยายามผ่อนคลายและปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ การใช้ชีวิตแบบไม่รู้จะทำให้คุณรู้สึกประหลาดใจมากขึ้น ปล่อยให้ตัวเองถูกดึงเข้าสู่โลกที่ไม่คาดฝันและจงตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น
20. ความคาดหวัง
การจัดการกับความคาดหวังเป็นกุญแจที่นำไปสู่ความสุข บ่อยครั้งที่เราเชื่อว่าวิธีที่เราปฏิบัติต่อผู้อื่นจะเป็นวิธีเดียวกันกับที่เราได้รับกลับมา แต่มันไม่ใช่เสมอไป อย่าคาดหวังผลบางอย่างไม่ว่าจะจากสถานการณ์ใดก็ตาม เพียงเปิดใจให้กว้าง สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณก้าวไปข้างหน้าโดยปราศจากแรงกดดัน
Source : idealistrevolution.org