10 ข้อผิดพลาดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพที่แม้แต่คนฉลาดก็ยังทำ

อ่าน 10,281

1. สวมรองเท้าส้นสูงทุกวัน

การสวมรองเท้าส้นสูงไม่ว่าจะสูงขนาดไหนก็ตามจะทำให้คุณปวดเท้าได้มากถึงร้อยละ 70 ขณะเดียวกันรองเท้าแตะคีบก็ไม่ควรสวมใส่ทั้งวันเช่นกันเนื่องจากไม่สามารถรองรับกล้ามเนื้อเท้าได้อย่างเหมาะสมและนิ้วเท้าก็ต้องทำงานหนักเกินไปจนอาจทำให้ข้อต่อนิ้วเท้าอักเสบ หนังหนาด้าน และเจ็บเนินปลายเท้ารุนแรง นอกจากนี้การเกร็งเนื่องจากส้นเท้าไม่มั่นคงอาจทำให้เป็นโรครองช้ำและปวดส้นเท้าหรือแม้แต่ข้อเท้าบิด คุณควรเก็บรองเท้าแตะไว้ใส่ริมสระว่ายน้ำ ชายหาด หรือในบ้านของตัวเอง ส่วนการเดินระยะไกลและการวิ่งขอแนะนำรองเท้าแตะรัดส้นและรองเท้าเพื่อสุขภาพดีกว่า

2. ออกจากบ้านโดยที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดบนใบหน้า

การทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 ขึ้นไปบนใบหน้าถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำคัญพอๆกับการทาครีมกันแดดบนผิวหนังบริเวณที่ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุม การวิจัยชี้ว่าคนเรามักจะปกป้องผิวหน้าเพื่อป้องกันริ้วรอยก่อนวัย แต่การสัมผัสถูกแสงแดดเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นตอนอยู่กลางแจ้ง ขับรถ หรือใต้โคมไฟแสงยูวีขณะทำเล็บเจลก็สามารถทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ เช่น จุดด่างดำ รอยเหี่ยวย่น รวมถึงผิวหนังบางลง (เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง) ทางที่ดีคุณควรปกป้องผิวหนังทุกส่วน เช่น หู คอ เนินอก หลัง และมือด้วย

3. กินยาควบคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์ควบคู่กับยา เช่น ยาแก้ปวด ยานอนหลับ และยารักษาโรคซึมเศร้าอาจทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้ตั้งแต่ คลื่นไส้ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะไปจนถึงตกเลือด ปัญหาหัวใจ และหายใจติดขัด ส่วนยาแก้ไอและยาแก้หวัดบางชนิดอาจทำให้ผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รุนแรงขึ้นซึ่งสามารถส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

4. ขับรถโดยที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย

ชาวอเมริกันร้อยละ 85 จะคาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับรถซึ่งสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ แต่ผู้ขับขี่มากกว่าหนึ่งในสี่มักจะไม่ชอบเปิดไฟเลี้ยวและเกือบครึ่งหนึ่งไม่ยอมให้สัญญาณไฟขณะเปลี่ยนเส้นทางเดินรถซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

5. รับประทานอาหารหมดอายุ

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาและหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารแนะนำว่าควรรับประทานอาหารให้หมดก่อนวันหมดอายุ แต่อาหารปรุงสุกที่เหลือก็มีอายุขัยเช่นกันและคุณไม่สามารถวัดได้จากการดมกลิ่นหรือเชื้อราเนื่องจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้อาหารเป็นพิษอาจจะแบ่งตัวโดยที่คุณมองไม่เห็น อาหารเหลือจำพวกเนื้อสัตว์ ไข่ อาหารอบทั้งหลายจะอยู่ได้นาน 3-4 วันจากนั้นก็ควรนำไปแช่แข็งหรือทิ้งไปเลย ส่วนอาหารที่มีความเป็นกรดสูง เช่น พริกโฮมเมดหรือซอสมารีนาร่าสามารถอยู่ได้นานถึง 5 วันเนื่องจากกรดจะทำหน้าที่เหมือนกับวัตถุกันเสียและชะลอการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย

6. ไม่ใช้ไหมขัดฟัน

หากคุณแปรงฟันวันละสองครั้ง ขัดฟันวันละครั้ง และไปพบทันตแพทย์เป็นประจำ รับรองว่าฟันของคุณจะอยู่สวยทนไปอีกนาน เว้นแต่ว่าคุณใช้ฟันเป็นเครื่องทุ่นแรงในการดึงป้ายพลาสติกแข็งๆหรือฉีกห่อขนมซึ่งอาจทำให้ฟันร้าวหรือแตกได้ และในที่สุดส่วนที่ปกป้องเนื้อฟันก็จะหลุดร่อนออก คุณอาจต้องเผชิญกับอาการเสียวฟันและฟันผุขั้นรุนแรง

7. ซุกตัวในผ้าคลุมเตียงของโรงแรม

การวิจัยพบว่ามีเชื้อโรคจำนวนมหาศาลในชุดเครื่องนอนของโรงแรมไม่ว่าจะเป็นเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียสและอีโคไล ส่วนอ่างอาบน้ำในโรงแรมก็น่ากลัวไม่แพ้กัน ความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์กับอุปกรณ์ที่ล้มเหลวอาจทำให้สารเคมีกำจัดแมลงเกิดความไม่สมดุลและเกิดการระบาดของเชื้อโรคจนเป็นปอดอักเสบได้

8. สวมรองเท้าเดินในบ้าน

กลุ่มนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยแอริโซน่าที่ทำการทดลองเมื่อปี 2008 พบว่าที่พื้นรองเท้ามีเชื้อแบคทีเรียต่างๆมากถึง 9 ชนิดและร้อยละ 90 ของเชื้อแบคทีเรียเหล่านั้นจะย้ายไปยังพื้นบ้านด้วย ขณะเดียวกันก้นกระเป๋าถือของคุณก็อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียนับหมื่นตัว เช่น สแตปฟิโลคอคคัส ซูโดโมนาส ซัลโมเนลล่า อีโคไล และ MRSA เป็นต้น ทางที่ดีหากเป็นไปได้คุณควรซักกระเป๋าถือหรือใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดทำความสะอาดก้นกระเป๋าเป็นประจำ

9. สูบบุหรี่

ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากการดมควันบุหรี่ซึ่งเต็มไปด้วยสารพิษมากถึง 41,000 ราย ร้อยละ 70 ของสารเคมีเหล่านี้คือสารก่อมะเร็งและการหายใจเข้าไปก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคมะเร็งปอด และโรคหลอดเลือดสมองด้วย หากคุณอยู่ในพื้นที่สูบบุหรี่ การย้ายที่ในร้านอาหารไม่มีประโยชน์อะไรเลยเนื่องจากควันบุหรี่จะลอยอยู่ในอากาศจนกว่าพวกเขาจะเลิกสูบบุหรี่และเดินออกไป ทางที่ดีควรออกจากร้านไปเลยและบอกเหตุผลกับพนักงานด้วย

10. พิมพ์ข้อความขณะขับรถ

การพิมพ์ข้อความขณะที่กำลังนั่งอยู่หลังพวงมาลัยจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 6-7 เท่า ส่วนการคุยโทรศัพท์ขณะขับรถหรือกำลังจะจอดรถก็ไม่สมควรอย่างยิ่งเช่นกัน การเดินบนทางเท้าแบบไร้สติก็เป็นปัญหาที่น่าวิตกกังวลเนื่องจากพวกเขาอาจทำให้ตัวเองต้องเจอกับอันตราย เช่น เดินลงถนนโดยไม่รู้ตัว สะดุดขอบถนน หรือตกหลุม ที่สำคัญจำนวนของอุบัติเหตุอาจสูงขึ้นมากหากผู้คนยังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม คุณสามารถหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ หกล้ม กระดูกหัก หรืออันตรายถึงแก่ชีวิตได้หากไม่เอาแต่เล่นโทรศัพท์โดยที่ไม่มองดูทาง

Blogger : Nancy RonesSource : realsimple.com



บทความแนะนำ


บวชแทนคุณพ่อแม่วู้ดดี้ไร่เชิญตะวันท่านทำผมง่ายๆความรักการทะเลาะว.วชิรเมธีคู่รักทรงผมง่ายๆทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก