โกจิเบอรี่คือผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด
หลายปีที่ผ่านมานี้โกจิเบอร์รี่หรือเก๋ากี้มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ในตลาดยุโรปและอเมริกา
โกจิเบอร์รี่มีต้นกำเนิดอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยซึ่งได้รับความนิยมมานานหลาย
ร้อยปีแล้วเนื่องจากเป็นส่วนผสมที่พบได้ในสูตรอาหารและยารักษาโรคจำนวนมาก
มายโกจิเบอร์รี่หรือเก๋ากี้มีชื่อภาษาอังกฤษ
ว่า Wolf Berries เป็นพืชไม้พุ่มในตระกูล Lycium Barbarum ซึ่งสูงประมาณ
1-3 ฟุต มีผลเป็นสีส้มแดงยาว 1-2 เซนติเมตร
โกจิเบอร์รี่แต่ละผลจะมีเมล็ดราว 10-60
เมล็ดและโตเต็มที่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม
เราสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสดหรือแบบแห้งซึ่งมีรสหวานและหาซื้อได้ในรูป
แบบของชาและน้ำผลไม้
ส่วนประเทศที่เพาะปลูกและส่งออกมากที่สุดในโลกคือประเทศจีนโกจิเบอร์รี่มีประโยชน์ยังไง?
โกจิเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ
ที่สำคัญมีการนำมาใช้ในแพทย์แผนจีนเป็นเวลานานมากแล้ว ขณะที่โลก ?ตะวันตก?
เพิ่ง ?ค้นพบ?
เมื่อช่วงสิบปีที่ผ่านมาและมีการจัดอันดับให้เทียบเท่ากับสุดยอดอาหารเพื่อ
สุขภาพด้วย เพราะเหตุใด?โกจิเบอร์รี่เป็นผลไม้ชนิดแรกของสหรัฐ
อเมริกาที่ใช้ค่า ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity)
ซึ่งเป็นมาตราส่วนที่ใช้วัดคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของอาหาร ถ้าค่า ORAC
สูงแสดงว่าอาหารมีประสิทธิภาพในการทำลายอนุมูลอิสระ ในผลโกจิเบอร์รี่ 100
กรัมจะมีค่า ORAC มากถึง 25,300
หน่วยเมื่อเทียบกับลูกพลัมในอันดับสองซึ่งมีเพียง 5,770 หน่วยเท่านั้น
ด้วยเหตุผลนี้โกจิเบอร์รี่จึงเป็นอาหารที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย
และชะลอกระบวนการชราภาพ โกจิเบอร์รี่ประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรตร้อยละ 68
โปรตีนร้อยละ 12 ไฟเบอร์ร้อยละ 10 และไขมันร้อยละ 10
ดังนั้นในผลโกจิเบอร์รี่ 100 กรัมจึงมีแคลอรี่ประมาณ 370 แคลอรี่วิตามินที่เยี่ยมยอดสำหรับร่างกายของโกจิเบอร์รี่
ผลโกจิเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซี ธาตุเหล็ก และสารอาหารจำนวนมาก รวมถึงสารพฤกษเคมีหรือไฟโตนิวเทรียนท์ เช่น
- กรดอะมิโน 18 ชนิด ( 8 มีความสำคัญและจำเป็นในชีวิตประจำวัน)
- วิตามินที่จำเป็น 6 ชนิด (เช่น ไรโบเฟลวิน/วิตามินบี 2/วิตามินบี 1/วิตามินซี)
- แร่ธาตุ 21 ชนิด (เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี ซีลีเนียม แคลเซียม โพแทสเซียม)
- โพลีแซคคาไรด์ 8 ชนิดและโมโนแซคคาไรด์ 6 ชนิด
- กรดไขมันไม่อิ่มตัว 5 ชนิด เช่น กรดไลโนเลอิกและกรดไขมันแอลฟาไลโนเลนิกซึ่งจำเป็นต่อสมองและระบบประสาท
- เบต้า-ซิโตสเตอรอล (ซึ่งช่วยลดระดับคอเรสเตอรอล) และไฟโตสเตอรอลอื่นๆ
- แคโรทีนอยด์ 5 ชนิด (เบต้า-แคโรทีน ซีแซนทิน ลูทีน ไลโคปีน คริฟโตแซนทิน แซนโทฟิลล์)
- เม็ดสีฟีนอลที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ
โกจิเบอรรี่มีบทบาทสำคัญในการแพทย์แผนโบราณของจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และทิเบตมานานหลายปีแล้ว
ปฏิกิริยาเชิงบวกต่อสุขภาพของโกจิเบอร์รี่
ทุกวันนี้โกจิเบอร์รี่มีสรรพคุณเพื่อ
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- ทำให้สายตาดีขึ้น
- เพิ่มการไหลเวียนเลือด ผ่อนคลายหลอดเลือด และส่งผลดีกับความดันโลหิตสูง
- ปกป้องตับและไต
- มีผลกระทบเชิงบวกต่อผิวสีแทน
- มีผลกระทบเชิงบวกต่อระบบทางเดินปัสสาวะและการผลิตอสุจิ
- ลดผลข้างเคียงของเคมีบำบัดและการฉายแสง
- บรรเทาอาการปวดหลัง
- โรคเบาหวาน
โกจิเบอร์รี่มักจะถูกเรียกว่า ?เบอร์รี่แห่งความสุข?
เนื่องจากผู้คนจะรู้สึกดีและมีพลังเมื่อรับประทานเป็นประจำ
อย่างไรก็ตามโกจิเบอร์รี่ไม่ใช่เป็นยารักษาโรคและเป็นเพียงหนึ่งในอาหาร
เสริมตามธรรมชาติที่ดีที่สุดเพื่อผลประโยชน์ของสิ่งมีชีวิตทั้งมวลSource : womansneed.com