โกจิเบอรี่คือผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด

อ่าน 10,416

หลายปีที่ผ่านมานี้โกจิเบอร์รี่หรือเก๋ากี้มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

ในตลาดยุโรปและอเมริกา

โกจิเบอร์รี่มีต้นกำเนิดอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยซึ่งได้รับความนิยมมานานหลาย

ร้อยปีแล้วเนื่องจากเป็นส่วนผสมที่พบได้ในสูตรอาหารและยารักษาโรคจำนวนมาก

มาย

โกจิเบอร์รี่หรือเก๋ากี้มีชื่อภาษาอังกฤษ

ว่า Wolf Berries เป็นพืชไม้พุ่มในตระกูล Lycium Barbarum ซึ่งสูงประมาณ

1-3 ฟุต มีผลเป็นสีส้มแดงยาว 1-2 เซนติเมตร

โกจิเบอร์รี่แต่ละผลจะมีเมล็ดราว 10-60

เมล็ดและโตเต็มที่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม

เราสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสดหรือแบบแห้งซึ่งมีรสหวานและหาซื้อได้ในรูป

แบบของชาและน้ำผลไม้

ส่วนประเทศที่เพาะปลูกและส่งออกมากที่สุดในโลกคือประเทศจีน

โกจิเบอร์รี่มีประโยชน์ยังไง?

โกจิเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ

ที่สำคัญมีการนำมาใช้ในแพทย์แผนจีนเป็นเวลานานมากแล้ว ขณะที่โลก ?ตะวันตก?

เพิ่ง ?ค้นพบ?

เมื่อช่วงสิบปีที่ผ่านมาและมีการจัดอันดับให้เทียบเท่ากับสุดยอดอาหารเพื่อ

สุขภาพด้วย เพราะเหตุใด?

โกจิเบอร์รี่เป็นผลไม้ชนิดแรกของสหรัฐ

อเมริกาที่ใช้ค่า ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity)

ซึ่งเป็นมาตราส่วนที่ใช้วัดคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของอาหาร ถ้าค่า ORAC

สูงแสดงว่าอาหารมีประสิทธิภาพในการทำลายอนุมูลอิสระ ในผลโกจิเบอร์รี่ 100

กรัมจะมีค่า ORAC มากถึง 25,300

หน่วยเมื่อเทียบกับลูกพลัมในอันดับสองซึ่งมีเพียง 5,770 หน่วยเท่านั้น

ด้วยเหตุผลนี้โกจิเบอร์รี่จึงเป็นอาหารที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย

และชะลอกระบวนการชราภาพ โกจิเบอร์รี่ประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรตร้อยละ 68

โปรตีนร้อยละ 12 ไฟเบอร์ร้อยละ 10 และไขมันร้อยละ 10

ดังนั้นในผลโกจิเบอร์รี่ 100 กรัมจึงมีแคลอรี่ประมาณ 370 แคลอรี่

วิตามินที่เยี่ยมยอดสำหรับร่างกายของโกจิเบอร์รี่

ผลโกจิเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซี ธาตุเหล็ก และสารอาหารจำนวนมาก รวมถึงสารพฤกษเคมีหรือไฟโตนิวเทรียนท์ เช่น

  • กรดอะมิโน 18 ชนิด ( 8 มีความสำคัญและจำเป็นในชีวิตประจำวัน)
  • วิตามินที่จำเป็น 6 ชนิด (เช่น ไรโบเฟลวิน/วิตามินบี 2/วิตามินบี 1/วิตามินซี)
  • แร่ธาตุ 21 ชนิด (เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี ซีลีเนียม แคลเซียม โพแทสเซียม)
  • โพลีแซคคาไรด์ 8 ชนิดและโมโนแซคคาไรด์ 6 ชนิด
  • กรดไขมันไม่อิ่มตัว 5 ชนิด เช่น กรดไลโนเลอิกและกรดไขมันแอลฟาไลโนเลนิกซึ่งจำเป็นต่อสมองและระบบประสาท
  • เบต้า-ซิโตสเตอรอล (ซึ่งช่วยลดระดับคอเรสเตอรอล) และไฟโตสเตอรอลอื่นๆ
  • แคโรทีนอยด์ 5 ชนิด (เบต้า-แคโรทีน ซีแซนทิน ลูทีน ไลโคปีน คริฟโตแซนทิน แซนโทฟิลล์)
  • เม็ดสีฟีนอลที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ

โกจิเบอรรี่มีบทบาทสำคัญในการแพทย์แผนโบราณของจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และทิเบตมานานหลายปีแล้ว

ปฏิกิริยาเชิงบวกต่อสุขภาพของโกจิเบอร์รี่

ทุกวันนี้โกจิเบอร์รี่มีสรรพคุณเพื่อ

  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • ทำให้สายตาดีขึ้น
  • เพิ่มการไหลเวียนเลือด ผ่อนคลายหลอดเลือด และส่งผลดีกับความดันโลหิตสูง
  • ปกป้องตับและไต
  • มีผลกระทบเชิงบวกต่อผิวสีแทน
  • มีผลกระทบเชิงบวกต่อระบบทางเดินปัสสาวะและการผลิตอสุจิ
  • ลดผลข้างเคียงของเคมีบำบัดและการฉายแสง
  • บรรเทาอาการปวดหลัง
  • โรคเบาหวาน

โกจิเบอร์รี่มักจะถูกเรียกว่า ?เบอร์รี่แห่งความสุข?

เนื่องจากผู้คนจะรู้สึกดีและมีพลังเมื่อรับประทานเป็นประจำ

อย่างไรก็ตามโกจิเบอร์รี่ไม่ใช่เป็นยารักษาโรคและเป็นเพียงหนึ่งในอาหาร

เสริมตามธรรมชาติที่ดีที่สุดเพื่อผลประโยชน์ของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล

Source : womansneed.com



บทความแนะนำ


พงศพัศพงษ์เจริญไอเทมJASPALเสื้อผ้าทิมกุลนวลน้อยความรักอ่อนไหวความรักคึกคักความรักเร่าร้อนบ้านครูน้อยทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก