8 เหตุผลที่คุณควรรับประทานดาร์กช็อกโกแลตทุกวัน
อันที่จริงสาวกช็อกโกแลตไม่จำเป็นต้องหาข้อแก้ตัวเพื่อรับประทานมันทุกวันหรอก
การมีไว้ในครัวสักแท่งก็เป็นเหตุผลมากเพียงพอแล้ว
แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกแย่เกี่ยวกับเรื่องนี้เรามีข่าวดีมาฝากคุณ
การรับประทานดาร์กช็อกโกแลตที่มีอัตราส่วนของโกโก้สูงนั้นดีต่อสุขภาพสุดๆ
บางคนอาจพูดได้ว่าควรรับประทานทุกวันกันเลยทีเดียว และนี่คือ 8
เหตุผลที่คุณควรรู้สึกดีเกี่ยวกับพฤติกรรมการหลงใหลดาร์กช็อกโกแลตในตัวคุณ1
ดาร์กช็อกโกแลตจะทำให้คุณมีความสุข นอกจากรสชาติจะอร่อยถูกใจแล้วดาร์กช็อกโกแลตยังมีส่วนผสมของทริปโตเฟนซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่สมองใช้ในการผลิตเซโรโทนินหรือสารสื่อประสาทที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุข
2
ดาร์กช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของโกโก้สูงจะประกอบไปด้วยเส้นใยที่ละลายน้ำ
โดยร้อยละ 70-85 ช็อกโกแลตแท่งขนาด 100 กรัมจะมีเส้นใยละลายน้ำ 11
กรัมซึ่งจะช่วยลดปริมาณคลอเรสเตอรอลลง ทำให้คุณรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น
และดีต่อระบบย่อยอาหารของคุณด้วย3
การรับประทานดาร์กช็อกโกแลตจะดีต่อสมองของคุณและช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อม การศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานช็อกโกแลตเป็นประจำจะสามารถทำข้อสอบได้ดีกว่า
4
ดีต่อหัวใจของคุณด้วย
การรับประทานดาร์กช็อกโกแลตจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
การศึกษาหนึ่งพบว่าการรับประทานช็อกโกแลตสัปดาห์ละห้าครั้งหรือมากกว่านั้นจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้มากถึงร้อยละ
575
ดาร์กช็อกโกแลตจะทำให้เด็กๆมีความสุข
แล้วใครล่ะไม่อยากให้เด็กมีความสุข?
การศึกษาจากฟินแลนด์พบว่าแม่ที่รับประทานช็อกโกแลตขณะตั้งครรภ์จะมีลูกอารมณ์ดีและขี้หงุดหงิดน้อยกว่าปกติ
นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับหญิงตั้งครรภ์ทั่วโลกเลยล่ะ6
มีฟลาโวนอยด์ที่เราต้องการ
ฟลาโวนอยด์คือสารพฤกษเคมีที่มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งพบได้ในโกโก้และเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ดาร์กช็อกโกแลตดีต่อสุขภาพของคุณ
สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้จะช่วยลดความดันโลหิตและคลอเลสเตอรอลแถมยังดีต่อหลอดเลือดของคุณด้วย7
ดาร์กช็อกโกแลตดีต่อสุขภาพผิว การรับประทานช็อกโกแลตจะช่วยปกป้องคุณจากอาการผิวไหม้จากแสงแดดเนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสองชนิดได้แก่ฟีนอลกับแคทีชิน
8
บรรเทาความเครียดได้ ดาร์กช็อกโกแลตมีสรรพคุณช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่คุณควรรับประทานมันเมื่อรู้สึกเครียด
Blogger : Julie R. Thomson
Source : huffingtonpost.com