เรื่องส่วนตั๊ว ส่วนตัว ของผู้หญิงที่ไม่ควรละเลย
การซักชุดชั้นในให้สะอาดและถูกวิธี ช่วยให้สุขภาพของน้องน้อยไม่ต้องเสี่ยงกับอาการคัน คั้น คัน อีกต่อไป
เรื่องที่ไม่ควรละเลย
ซักชุดชั้นใน
ก่อนซัก ควรแยกชุดชั้นในออกจากชุดชั้นนอก
ซักด้วยน้ำยาซักผ้า หรือผงซักฟอกละลายในน้ำธรรมดา
ไม่ควรใช้สารฟอกขาวทุกชนิดโดยเด็ดขาดซักแต่เบามือ อย่าใช้แปรงขยำขยี้
ตรงไหนที่มีคราบสกปรกก็ให้ใช้แปรงขนนุ่ม ๆ ถูเบา
ๆล้างกางเกงในด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้งตากในที่ร่ม มีลมโกรก
ไม่ควรตากให้ถูกแสงแดดโดยตรง
เพราะจะทำให้เนื้อผ้าและสีเสื่อมสภาพก่อนจะใส่คุ้มราคาคัน คั้น คัน
ในบริเวณจุดซ่อนเร้นของผู้หญิงจะมีความชื้นอยู่ยิ่งเมืองไทยในช่วงหน้า
ร้อนอากาศชื้นมาก เหงื่อออกทำให้เกิดการหมักหมม
สร้างปัญหาให้กับบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ อาการที่พบบ่อย
คือเชื้อราบริเวณช่องคลอด และปากช่องคลอด จะมีอาการตกขาวแสบร้อน คัน
ทำให้ระคายเคืองบริเวณปากช่องคลอด จนทำให้ติดเชื้อในที่สุด
ถ้ายังไม่อยากขึ้นขาหยั่งก่อนวัยอันควรก็อ่านซะส่วนใครซักกางเกงลิง ด้วยเครื่องซักผ้า ให้ใส่ชุดชั้นในลงในถุงตาข่ายแยกซัก เพื่อช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานของชุดนะจ๊ะ
ผ้าที่ควรสวมใส่
เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่เป็นประเภทผ้า cotton จะช่วยระบายอากาศได้ดี
หมั่นทำความสะอาดในจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำสะอาดและสบู่อย่างอ่อนหรือใช้สบู่เหลวอนามัยเฉพาะที่ร่วมด้วย จะช่วยบรรเทาเรื่องกลิ่นได้นะ
หลังจากอาบน้ำแล้วซับ (ไม่ใช่ถู) เบา ๆ ด้วยผ้าเช็ดตัวที่นุ่ม
แห้งและสะอาดเพราะถ้าถูรุนแรงจะทำให้ผิวหนังบริเวณนี้ถลอกและติดเชื้อได้
ง่าย
ใช้ชุดชั้นในที่เป็นผ้าฝ้ายที่มีเนื้อผ้าบางเบา อากาศถ่ายเทสะดวก
เป็นการลดความอับชื้นของน้องน้อย ในขณะที่ผ้าไนล่อนจะอับลม
ทำให้อับชื้นและติดเชื้อราง่ายไม่ใส่กางเกงชั้นในนอน เพราะตอนกลางคืนเราอยู่ในห้องส่วนตัว ควรเปิดโอกาสให้น้องของเราได้ผึ่งลมบ้างจะได้ไม่อับชื้น และมีกลิ่นไม่สะอาด
- ใส่เสื้อผ้ารัดรูปมาก ๆ ทำให้การระบายอากาศไม่ดี จะทำให้เป็นที่สะสมของเชื้อโรคต่าง ๆ ได้
- ใส่สเตย์ เพื่อรักษารูปร่างตลอดเวลา
น้ำยาอนามัย
กลัวไม่สะอาด เลยใช้น้ำยาอนามัยสวนล้างเข้าไปภายใน
ทำให้เชื้อแบคทีเรียชนิดดีที่มีอยู่ในช่องคลอดโดนทำลาย
และทำให้เชื้อโรคภายในช่องคลอดเข้าไปในโพรงมดลูก ซึ่งอาจติดเชื่อลุกลาม
จนทำให้ปีกมดลูกอักเสบได้ปะแป้งบริเวณน้องน้อย
เพราะเหงื่อที่ออกมาเมื่อปนกับแป้งแล้วจะจับตัวเป็นกระจุกแถวขนอ่อน
ทำให้ติดเชื้อราได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยเบื้องต้นออกมาว่า
แป้งที่ทาอาจถูกดูดเข้าไปในโพรงมดลูกแล้วเข้าไปสู่ท่อนำไข่และหล่นไปอยู่ใน
รังไข่ ทำให้โอกาสเป็นมะเร็งรังไข่เพิ่มขึ้นด้วย