มาหาคำตอบ คลอโรฟีลล์ มีประโยชน์จริงหรือ? บริโภคแค่ไหนจึงจะปลอดภัย!

อ่าน 11,856

คุณเคยได้ยินสารที่ชื่อ "คลอโรฟีลล์" ไหม

แล้วรู้หรือไม่ว่ามันคืออะไร ให้ประโยชน์กับร่างกายคุณมากน้อยแค่ไหน

วันนี้เราพาคุณมาทำความรู้จักกับคลอโรฟีลล์กัน

คลอโรฟีลล์เป็นสารสีเขียว มักพบได้ในพืชผักทั่วไป

และในสาหร่ายสีเขียว (chlorella)

สารคลอโรฟีลล์ในธรรมชาติจะอยู่ในรูปของคลอโรฟีลล์ที่ละลายในน้ำมัน

ส่วนคลอโรฟีลล์ที่นำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

จะเป็นสารสังเคราะห์ที่มีชื่อว่า โซเดียมคอปเปอร์คลอโรฟีลลิน (Sodium

copper chlorophyllin) ซึ่งเป็นการดัดแปลงโครงสร้างคลอโรฟีลล์ตามธรรมชาติ

ทำให้ได้สารคลอโรฟีลลิน ที่ยังคงมีสีเขียวอยู่

แต่มีความคงตัวและสามารถละลายน้ำได้ดี

สามารถนำมาผสมในอาหารและเครื่องดื่มได้

การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบว่า คลอโรฟีลล์ ยา และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของคลอโรฟีลล์

มีฤทธิ์ยับยั้งเนื้องอกที่เต้านม ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งตับ

ช่วยเพิ่มจำนวนและประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาว ช่วยลดกลิ่นตัว

กลิ่นของอุจจาระ และกลิ่นของปัสสาวะ

ช่วยให้รอยแผลบริเวณผิวหนังซึ่งเกิดจากการฉายแสงเพื่อรักษามะเร็งหายเร็วขึ้น

และช่วยขับสารพิษ อย่างไรก็ตาม อะไรที่มากเกินไปมักไม่ดีเสมอ เพราะการได้รับคลอโรฟีลล์มากเกินไป อาจก่อให้เกิดการสะสมและมีผลเสียต่อตับและไตได้

สำหรับข้อมูลด้านความปลอดภัย PDR (Physicians, Desk Reference) for Health มีข้อกำหนดดังนี้

ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้หรือไวต่อสิ่งกระตุ้นที่มีคลอโรฟีลล์และคลอโรฟีลลินเป็นส่วนประกอบ

ข้อควรระวัง: การรับประทานคลอโรฟีลล์และคลอโรฟีลลินเสริมนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในหญิงตั้งครรภ์และมารดาที่ให้นมบุตร

ผลข้างเคียง

: การรับประทานคลอโรฟีลล์และคลอโรฟีลลินเสริม

อาจทำให้ปัสสาวะและอุจจาระมีสีเขียว ลิ้นเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเกือบดำ

อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย

นอกจากนี้ยังพบรายงานการเกิดอาการแพ้สารคลอโรฟีลลิน

โดยอาจพบผื่นแพ้ขึ้นตามตัว มีอาการเวียนศีรษะ

เหงื่อออกมากและความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็วได้

ขนาดที่ใช้ : โดยทั่วไปขนาดที่นิยมใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคือ 100 มก./วัน

ในอเมริกากำหนดความปลอดภัยของสารคลอโรฟีลลินในผลิตภัณฑ์

เสริมอาหารหรือใช้เป็นสีผสมอาหารได้ไม่เกิน 300 มก./วัน สำหรับผู้ใหญ่

ส่วนเด็กอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป สามารถรับประทานคลอโรฟีลลินได้ในขนาด 90

มก./วัน

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลวิจัย

จะเห็นได้ว่าคลอโรฟีลล์มีประโยชน์พอสมควร แต่การจะเลือกบริโภคนั้น

ต้องคำนุงปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ความปลอดภัย คุณภาพ ความจำเป็น

รวมไปถึงราคา

ซึ่งเราสามารถได้รับสารคลอโรฟีลล์โดยตรงได้จากการทานผักใบเขียว

แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องบริโภคคลอโรฟีลล์ที่เป็นสารสังเคราะห์จริงๆ

ก็ควรใช้ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

และควรสังเกตร่างกายของตัวเองอย่างสม่ำเสมอว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า

อย่างน้อยก็เพื่อรักษาสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง

ที่มา : พนิดา ใหญ่ธรรมสาร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล



บทความแนะนำ


Enamorateโปรโมชั่นDVICIOแอพฯเกมอเมริกันฟุตบอลBloodBowlPowerMallทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก