7 วิธีรีเฟรชตัวเองให้สดชื่นภายใน 5 นาที เปลี่ยนจากลุคโทรมเป็นลุคปัง!
เพราะเป็นสาวทำงานยุคดิจิทัลที่ชีวิตแสนจะ
วุ่นวาย ตารางชีวิตแน่นเอี๊ยดจนบางครั้งไม่มีเวลาดูแลตัวเอง
ไม่ว่าเจ้านายจะเรียกประชุมด่วน ลูกค้าตามงานที่ค้างไว้
แถมต้องหมั่นเติมความหวานนัดเดทกับคุณแฟนอยู่บ่อยๆ
มีเรื่องต้องเคลียร์มากมายขนาดนี้ความโทรมความพังจึงมาเยือนพวกเราอย่างหลีก
เลี่ยงไม่ได้ หนักกว่านั้นคือระดับความเฟรชตกวูบ
และเพื่อไม่ให้สาวๆแบกสภาวะแบตเตอรี่ต่ำไปทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ issue247
จึงมาพร้อมวิธีรีเฟรชตัวเองให้สดชื่นมาฝากกัน ที่สำคัญใช้เวลาแค่ 5
นาทีเท่านั้น มาดูกันซิว่ามีอะไรบ้าง1. ดื่มน้ำเติมความสดชื่น
ทราบกันอยู่แล้วว่าน้ำคือองค์ประกอบส่วน
ใหญ่ของร่างกายมนุษย์ ทุกครั้งที่เราดื่มน้ำความสดชื่นก็เกิดขึ้นได้ทันที
เมื่อมีน้ำเข้าสู่ร่างกายทุกเซลล์จะเกิดความชุ่นชื่น
ระบบการไหลเวียนเลือดจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน
รู้สึกเหนื่อยหรือเพลียเมื่อไหร่ก็หยิบน้ำมาดื่มสักแก้ว2. แค่หวีผมชีวิตก็เปลี่ยน
ไม่มีอะไรง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว
แค่หยิบหวีคู่ใจขึ้นมาหวีผมที่ดูยิ่งเหยิงให้เข้าที่เข้าทาง
เซ็ตให้กลับมาสวยเหมือนตอนเพิ่งออกจากบ้าน ความเป๊ะ
ความเนี้ยบจะช่วยให้เราตื่นตัวขึ้นมาได้
ยิ่งไปกว่านั้นการหวีผมยังช่วยกระตุ้นเลือดบริเวณหนังศีรษะให้ไหลเวียนจึงทำ
ให้เรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า3. เติมหน้าให้สวยฉ่ำ
สำหรับสายเมคอัพจะทราบกันดีว่าความสวยงาม
ของใบหน้ามีผลมากๆกับประสิทธิภาพในการทำงาน
ถ้าหน้าล่มเมื่อไหร่นิ้วที่อยู่บนคีย์บอร์ดจะขยับไม่ค่อยออก
งานเดินยากเหลือเกิน อยากได้ความเฟรชกลับคืนมาเหรอ?
ก็แค่หยิบกระเป๋าเครื่องสำอางขึ้นมาแล้วเติมหน้าให้ฉ่ำไปเลย
ตบแป้งเพื่อลดความมันเยิ้ม เติมปากให้คมกริบ หรือจะเติมไฮไลท์ให้หน้าวาว
สวยจนมงลงขนาดนี้รับรองว่าฟีลสำหรับการทำงานกลับมาเต็มเหมือนเดิมแน่นอน4. ฉีดน้ำหอมสักหน่อย
เรื่องกลิ่นหอมก็เป็นเรื่องสำคัญ
เมื่อได้กลิ่นหอมๆเราจะรู้สึกสดชื่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นกายหอมๆของเราสามารถสร้างความรู้สึกสดชื่นกระปรี้
กระเปร่าไปได้ตลอดทั้งวัน
สาวๆอย่าลืมพกน้ำหอมขวดเล็กๆไว้ในกระเป๋าหรือจะวางไว้ที่โต๊ะทำงานเลยก็ได้
อยากได้ความเฟรชเมื่อไหร่ก็หยิบขึ้นมาฉีดได้เลย
ไม่เพียงตัวเราเท่านั้นที่สดชื่น
คนรอบข้างก็มีความสุขเมื่อได้กลิ่นหอมๆอีกด้วย5. แปรงฟัน บ้วนปากชาร์จพลัง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการแปรงฟันหรือการ
บ้วนปากก็สามารถเพิ่มความสดชื่นระหว่างวันให้เราได้เหมือนกัน
ซึ่งหลายคนอาจจะแค่ต้องการทำความสะอาดฟันหลังรับประทานอาหาร
แต่ผลพลอยได้ก็คือเป็นการรีเฟรชตัวเองด้วยลมหายใจที่สะอาดสดชื่น
สำหรับใครที่สถานที่ไม่เอื้อสำหรับการแปรงฟัน บ้วนปาก
ก็สามารถอมลูกอมหรือเคี้ยวหมากฝรั่งที่ให้ความเย็นซ่าก็ได้
เรียกว่าเฟรชกันไปจนถึงลมหายใจและเพิ่มความมั่นใจขั้นสุดไปเลย6. เหนื่อยหนักมาก ก็ล้างหน้าซะเลย
หากการแปรงฟันยังไม่ฟินพอ
การล้างหน้าก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยเฉพาะในกรณีที่มีความง่วงนอนร่วมด้วย
เมื่อน้ำได้สัมผัสกับใบหน้าของเราความสดชื่นก็บังเกิดขึ้นในทันที
วิธีนี้อาจจะเหมาะกับหนุ่มๆมากกว่าเพราะสาวๆอาจจะไม่สะดวกกับการปรากฏโฉมโดย
ไร้เมคอัพ แต่ถ้าใครมั่นใจในหน้าสดของตัวเองก็จัดเลย
แล้วค่อยแต่งหน้าใหม่อีกรอบก็ไม่ว่ากัน
แต่ถ้าจะให้ง่ายและรวดเร็วสาวๆบางคนเลือกใช้วิธีฉีดน้ำแร่
แค่ฉีดแล้วซับด้วยกระดาษทิชชู่ ตบท้ายด้วยการเติมแป้ง เติมหน้าอีกสักหน่อย
แค่นี้ก็เฟรชแล้ว แถมได้ลุคปังมาแทนลุคพังอีกด้วย7. รีเฟรชผิวด้วยบอดี้มูส
ปิดท้ายด้วยวิธีเก๋ๆในการเพิ่มความสดชื่นพร้อมๆกับการได้บำรุงผิว
นั่นคือการใช้บอดี้มูสสูตรเย็น
และที่เราอยากจะให้ทุกคนได้ลองก็คือผลิตภัณฑ์ชิ้นเด็ดอย่าง Pure Grace Body
Mousse Cooling Fizzy Foam จากแบรนด์ Philosophy ในซีรีส์ Grace
จุดเด่นอยู่ที่เนื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นโฟมเนื้อละเอียด
เมื่อสัมผัสกับผิวจะรู้สึกได้ถึงความนุ่มพร้อมๆกับความเย็นที่ซาบซ่านไปทั่ว
บริเวณที่ทา กลิ่นหอมยังช่วยเพิ่มความรื่นรมย์ทุกครั้งที่ได้ใช้
ซึมซาบสู่ผิวได้ง่าย ผลลัพธ์หลังใช้คือผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้น กระจ่างใส
แลดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
และแน่นอนว่าความเย็นและกลิ่นหอมจะติดผิวของเราไปตลอดทั้งวันอีกด้วยนอกจาก Body Mousse Cooling Fizzy Foam ที่ใช้แล้วจะติดใจ
ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ห้ามพลาดจาก Philosophy Grace Collection อีกหลายชิ้น
ไม่ว่าจะเป็นเจลอาบน้ำ บอดี้โลชั่น และน้ำหอมที่พร้อมจะทำให้สาว issue247
ต้องตกหลุมรัก
สำหรับใครที่ต้องการสัมผัสกับการรีเฟรชตัวเองด้วยบอดี้มูสสูตรเย็น
รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ สามารถเป็นเจ้าของได้แล้วที่เคาน์เตอร์ philosophy
สยามพารากอน, เอ็มโพเรียม, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลบางนา, เซโฟรา
สยามเซ็นเตอร์, เซโฟรา เซ็นทรัลเอ็มบาสซี, เซโฟรา เซ็นทรัลเวิลด์, เซโฟรา
เอ็มควอเทียร์, เซโฟรา เมกาบางนา และเซโฟรา เซ็นทรัลปิ่นเกล้า