คอทุเรียนฟังทางนี้!! ทุเรียนเผา วิตามินลดลง กินเยอะเสี่ยงเป็นมะเร็ง!!
หากจะพูดถึงผลไม้ยอดฮิตในช่วงนี้ ที่เห็นหลายๆ คนทานกัน ก็คงจะหนีไม่พ้น
?ทุเรียน? ที่คอทุเรียนจะทราบดีกว่ามันทั้งหอม
หวานและอร่อยถูกปากเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการแชร์ภาพ ทุเรียนเผา
ลงในโซเชียลมากมาย
ทำให้หลายคนอยากจะไปลิ้มลองรสว่ารสชาติของมันนั้นจะต่างจากทุเรียนธรรมดา
อย่างไร แต่พวกคุณๆ รู้กันหรือไม่ว่า การนำทุเรียนไปเผา
จะทำให้วิตามินและคุณค่าทางอาหารลดน้อยลง
แถมกินเยอะยังเสี่ยงเป็นมะเร็งอีกด้วย!!นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย
เปิดเผยว่า
ขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยใดยืนยันว่าการเผาทุเรียนจะทำให้กำมะถันในทุเรียน
เพิ่มปริมาณมากขึ้นจนเป็นเหตุให้ผู้ที่บริโภคเสียชีวิต
แต่การเผาทำให้วิตามิน เช่น โฟเลต วิตามินบี ซี ลดลง
การเผาทุเรียนจะทำให้น้ำในทุเรียนระเหยออกไป ทุเรียนเผาจึงมีรสชาติหวานขึ้น
กระตุ้นให้อยากกินมากขึ้น ไม่ควรเผาทุเรียนจนไหม้ หากกินสะสมไปนานๆ
ไม่ต่างจากการกินอาหารปิ้งย่างจนไหม้เกรียมเสี่ยงมะเร็ง
กลุ่มผู้ป่วยเป็นโรคไต เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
และหลอดเลือดหัวใจตีบควรระวังเป็นพิเศษหากกินทุเรียนในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้อาการเสี่ยงทรุดได้
เพราะในทุเรียนมีแป้งและไขมันสูง ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
และหลอดเลือดหัวใจตีบ ต้องคุมระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
ควรกินทุเรียนแต่พอเหมาะ ไม่กินเยอะและถี่จนติดกันทุกวัน หากเป็นไปได้
กินไม่เกิน 1 เม็ดเล็กต่อวัน และเนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้มีโพแทสเซียมสูง
ผู้ป่วยโรคไตไม่สามารถขับโพแทสเซียมส่วนเกินได้เท่าคนปกติ จึงควรเลี่ยง
เพราะจะส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะโดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
ระดับ 4 และ 5
ทางด้านแพทย์หญิงนภาพรรณ วิริยะอุตสาหกุล
ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กล่าวเสริมว่า
ทุเรียนจัดเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินแร่ธาตุ เป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตและไขมัน
ใน 1 วันแนะนำให้กินผลไม้ให้หลากหลาย 3-5 ส่วนทุเรียน 1 เม็ด เท่ากับ 2
ส่วน ให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรีหรือเทียบได้เท่ากับข้าวประมาณ 2 ทัพพี
จึงควรกินไม่เกิน 2 เม็ดต่อวัน
และไม่กินถี่ทุกวันเพราะอาจส่งผลให้น้ำหนักเกิน เจ็บคอ
นอกจากนี้ในมื้อที่กินทุเรียนควรลดอาหารประเภทข้าว แป้ง
ขนมหวานควบคู่ไปด้วย เช่น กินทุเรียนแล้วก็ไม่ต้องซ้ำด้วยของหวานอื่น
หรือถ้าจะกินทุเรียนมื้อนี้ควรลดข้าวให้น้อยลง
รวมถึงไม่ควรกินข้าวเหนียวทุเรียนบ่อยเนื่องจากมีความหวานมันอย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นของชอบที่ถูกปาก ก็ควรทานให้อยู่ในปริมาณที่พอดี
หากตามใจปาก ทานมากจนเกินไป ก็อาจส่งผลร้ายต่อร่างกายได้อย่างไม่รู้ตัวได้
เพราะฉะนั้นระวังไว้ก่อน จะดีกว่านะคะที่มา :www.thaihealth.or.th