ไปสัมผัสพระบาทพระนอน วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง
สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน วันนี้ผมจะพาไปชมวัดเก่าแก่ที่สุดวัดหนึ่งของเมืองไทย ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นั่นก็คือ วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง ถิ่นที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และมีวัดวาอารามสวย ๆ จำนวนมาก ซึ่งวัดนี้โดดเด่นด้วยพระนอนองค์ใหญ่ เป็นที่เคารพบูชาของคนท้องถิ่น โดยมีความเชื่อที่เขาเล่าว่า ? สัมผัสที่พระบาทพระนอน ขอให้ท่านประทานพรให้มีอายุยืนยาว
ชมประวัติศาสตร์เก่าแก่ วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทองวัดขุนอินทประมูล ประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่แห่งทุ่งโพธิ์ทอง อยู่ในเขตตำบลอินทประมูล วัดนี้เป็นวัดโบราณ สร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย พิจารณาจากซากอิฐแนวเขตเดิมคะเนว่าเป็นวัดขนาดใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่และ ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาวถึง 50 เมตร เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหารแต่ถูกไฟไหม้ปรักหักพังไปเหลือแต่องค์พระตากแดดตากฝนอยู่กลางแจ้งมานานนับเป็นร้อยๆ ปี องค์พระพุทธรูปมีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับพระนอนจักรสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยเดียวกัน องค์พระนอนมีพุทธลักษณะที่งดงาม พระพักตร์ยิ้มละไม สงบเยือกเย็น น่าเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก
พระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ได้เคยเสด็จมาสักการะบูชา อาทิเช่น พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เสด็จมาเมื่อ พ.ศ. 2296 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯในปี พ.ศ.2421 และ 2451 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน เสด็จฯ มาถวายผ้าพระกฐินต้นในปี พ.ศ.2516 และเสด็จมานมัสการอีกครั้งในปี พ.ศ. 2518
นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดขุนอินทประมูลยังมีซากโบราณสถานวิหารหลวงพ่อขาว ซึ่งเหลือเพียงฐาน ผนังบางส่วนและองค์พระพุทธรูป และ ในศาลาเอนกประสงค์ มีศาลรูปปั้นขุนอินทประมูลและโครงกระดูกมนุษย์ ขุดพบในเขตวิหารพระพุทธไสยาสน์เมื่อปี พ.ศ.2541 ลักษณะนอนคว่ำหน้า มือและเท้ามัดไพล่อยู่ด้านหลัง เชื่อกันว่าเป็นโครงกระดูกขุนอินทประมูล แต่บ้างก็ว่าไม่ใช่ ซึ่งตามประวัติเล่ากันว่า ท่านเป็นนายอากรผู้สร้างพระพุทธไสยาสน์ โดยยักยอกเอาเงินของหลวงมาสร้างเพื่อเป็นปูชนียสถาน ครั้นพระมหากษัตริย์ทรงทราบรับสั่งถามว่าเอาเงินที่ไหนมาสร้าง ขุนอินทประมูลไม่ยอมบอกความจริงเพราะกลัวส่วนกุศลจะตกไปถึงองค์พระมหากษัตริย์จึงถูกเฆี่ยนจนตาย วัดนี้จึงได้ชื่อว่า ?วัดขุนอินทประมูล?ความเชื่อที่เขาเล่าว่า ? สัมผัสที่พระบาทพระนอน ขอให้ท่านประทานพรให้มีอายุยืนยาว
ไปชมพระอุโบสถเก่าแก่กันบ้าง ที่ยังคงทำนุบำรุงอนุรักษ์ไว้ ถ้ามาอ่างทอง อย่าลืมแวะมาเที่ยววัดนี้กันนะครับ
การเดินทาง สามารถใช้เส้นทางได้ 3 สายคือ สายอ่างทอง-อำเภอโพธิ์ทอง (ทางหลวงหมายเลข 3064) แยกขวาที่กิโลเมตร 9 เข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร หรือใช้เส้นทางจากจังหวัดสิงห์บุรีไปทางอำเภอไชโยประมาณกิโลเมตรที่ 64-65 จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าถึงวัดเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร หรือใช้เส้นทางตัดใหม่สายอำเภอวิเศษชัยชาญ-โพธิ์ทอง (ถนนเลียบคลองชลประทาน) เมื่อถึงอำเภอโพธิ์ทองมีทางแยกเข้าวัดอีก 2 กิโลเมตร