12 ข้อควรรู้ ถ้าอยากเที่ยวเกาะช้างให้สนุก
"เกาะช้าง"
สถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศทางทะเล
ที่ยังคงความสวยงามของหาดทรายที่ขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าสดสวย อาหารทะเลสด ๆ
จึงไม่แปลกใจที่ว่าทำไม "เกาะช้าง"
ยังคงเป็นทะเลอันดับหนึ่งในดวงใจของใครหลายคน
และด้วยขนาดของเกาะช้างที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ
ที่มีพื้นที่กว่าสองแสนไร่
แน่นอนว่าเราไม่มีทางที่จะรู้จักเกาะช้างได้หมดทุกซอกทุกมุม
วันนี้เราเลยขอคัดเอาไฮไลท์เด็ด ๆ ของเกาะช้าง
เพื่อที่ว่าคุณจะได้รู้จักเกาะช้างได้ดีขึ้น
ไว้เที่ยวครั้งต่อไปคุณจะได้ไม่พลาดกับความสนุกเหล่านี้
1. "เกาะช้าง" ใหญ่สมชื่อ
เกาะช้าง เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะทะเลอ่าวไทย และใหญ่เป็นอันดับ
2 ของประเทศไทย รองจากเกาะภูเก็ต มีเกาะมากมายเรียงตั้งแต่เขตอำเภอแหลมงอบ
อำเภอเมือง และอำเภอคลองใหญ่
ซึ่งภายในเกาะช้างเองนอกจากเราจะได้เล่นน้ำทะเลสวย ๆ แล้ว
ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างน้ำตกและอ่าวต่าง ๆ
ที่ขอบอกว่ายังคงสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม
นั่นเป็นเพราะลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเกาะช้างยังคงเป็นป่าดิบเขา
อันเป็นบ่อเกิดของต้นน้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงสรรพชีวิตบนเกาะแห่งนี้
2. จุดชมวิว "อ่าวกะรัง"หากคุณกำลังมองหาสถานที่เงียบสงบ
เพื่อซึมซับกับบรรยากาศธรรมชาติแบบชาวเกาะอย่างเต็มปอด
อ่าวกะรังคือคำตอบที่ดีที่สุด เมื่อมาถึงคุณจะต้องร้องว้าว !
กับภาพวิวดงมะพร้าวสีเขียวที่เผยฉากหลังเป็นเวิ้งอ่าวและทิวเขาสูง
มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่มากที่มาเล่นน้ำหรือนอนอาบแดดเล่นที่นี่
ทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบเหมือนเกาะในฝัน
เหมาะเป็นที่สำหรับการพักผ่อนและชาร์จพลังงานสำหรับวันหยุดอย่างแท้จริง
3. นั่งเรือมาด พายเรือคายักชมธรรมชาติ
ภาพจาก ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก เกาะช้างใต้
ล่องเรือมาดที่
ชุมชนสลักคอก เป็นกิจกรรมคล้าย ๆ
กับการนั่งเรือกอนโดลาชมเมืองเวนิสของอิตาลี แตกต่างกันก็เพียงแต่บรรยากาศ
โดยนักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือมาดชมธรรมชาติของป่าชายเลน
พร้อมกับแวะทานดินเนอร์ด้วยมื้ออาหารทะเลสด ๆ ที่ชุมชนสลักคอก
แต่อาจจำเป็นที่จะต้องเลือกช่วงเวลาสักเล็กน้อย
เพราะบางช่วงเวลาร่องน้ำอาจแห้งจนไม่สามารถนำเรือร่องไปตามลำน้ำได้
ทางที่ดีควรโทรมาสอบถามก่อนจะเป็นการดีที่สุด
ลองคิดว่าถ้าคุณได้ล่องเรือท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ ฟังเสียงน้ำ
เสียงลม ตัวคุณจะมีความสุขมากแค่ไหน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สลักคอกซีฟู้ด โทร. 087 132 2962, 087 614
0959, 080 479 2947
4. ชมต้นสีระมันอายุกว่า 200 ปีต้นสีระมันหรือต้นลิ้นจี่ป่า ที่ขึ้นกระจายภายในรอบบริเวณวัดคลองนนทรี
ถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่าครั้งหนึ่งเกาะช้างเป็น
ส่วนหนึ่งของเส้นทางค้า เป็นที่หลบลมมรสุม
และพักหาเสบียงน้ำจืดของชาวจีนโพ้นทะเล
ที่ได้นำลิ้นจี่ป่ามากินและทิ้งเมล็ดไว้จนแพร่กระจายทั่วเกาะช้าง
ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ต้นเท่านั้น
ไม่เพียงแต่ในแง่ความผูกพันทางประวัติศาสตร์เท่านั้น
หากแต่ต้นสีระนี้ยังผูกพันกับคนเกาะช้างในแง่วิถีชีวิตชาวประมง
เนื่องจากเนื้อไม้ชนิดนี้มีความแข็งแกร่ง ทนทาน จึงนิยมทำกงเรือ
กระดูกงูเรือ หัวหมูคันไถ และบันไดบ้าน
เรียกได้ว่าสารพันประโยชน์การใช้งานจริง ๆ
5. หลากเรื่องราวของกะลาที่ "บ้านรักกะลา"
ภาพจาก dasta.or.th
แหล่งสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนมากกว่า 10 ปีของชาวบ้านในหมู่บ้านสลักเพชร
ด้วยเพราะหมู่บ้านแห่งนี้มีสวนมะพร้าวเป็นจำนวนมาก
จะทิ้งกะลาให้เสียเปล่าก็ใช่ที่ เลยเกิดการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน
นำกะลามะพร้าวเหล่านั้นมาแปรรูปประดิษฐ์เป็นของที่ระลึกเก๋ ๆ
สร้างมูลค่าและเพิ่มรายได้คืนกลับไปให้กับคนในชุมชน
ไม่เพียงแต่กะลาเท่านั้น ใบมะพร้าวยังนำมาเย็บมุงหลังคา
ก้านนำมาทำเป็นไม้กวาด เปลือกก็เอาไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพ
นักท่องเที่ยวคนไหนที่แวะไปที่ "บ้านรักกะลา" ก็อย่าลืมอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชาวบ้านติดไม้ติดมือกลับมาด้วยนะคะ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บ้านรักกะลา โทร. 089 182 1377, 089 148 1813
6. นมัสการหลวงพ่อเพชร
วัดสลักเพชร วัดเก่าแก่ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของเกาะช้าง
โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ดูแปลกตา
ตั้งแต่รอบตัวโบสถ์ที่ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นของบรรดาเหล่าสัตว์หิมพานต์
เมื่อเดินเข้ามาภายในโบสถ์
คุณจะต้องตะลึงกับความวิจิตรของภาพจิตรกรรมบนฝาผนังที่สวยงาม
ยิ่งเมื่อภาพเหล่านั้นอยู่ทางด้านหลังขององค์พระประธาน
ซึ่งมีลักษณะการลงสีคล้ายกับตัวองค์พระ
ยิ่งสร้างบรรยากาศให้ภายในโบสถ์แห่งนี้สวยงามราวกับสรวงสวรรค์
ข้ามไปอีกฟากถนนจะเจอกับ "พิพิธภัณฑ์วัดสลักเพชร"
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมของเก่าสะสมของชาวเกาะช้างไว้มากมายหลากหลาย
ชนิด
ของแต่ละชิ้นล้วนทำหน้าที่ในการบอกเล่าเรื่องราวและวิถีชีวิตของชาวเกาะช้าง
ได้เป็นอย่างดี
7. เดินทอดน่องชมวิวป่าชายเลนบ้านนาในสลักเพชร
หลายคนที่มาเกาะช้าง
และมีโอกาสได้เยี่ยมชมป่าชายเลนที่บ้านนาในเป็นต้องทึ่งทุกราย
ด้วยเพราะป่าชายเลนที่นี่จัดได้ว่ามีความหลากหลายและสมบูรณ์ของพรรณไม้นานา
ชนิด แต่ที่โดดเด่นต้องยกให้ "ต้นฝาดแดง"
ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับไม้ดัดบอนไซ ลำต้นสีดำ ออกดอกเป็นช่อสีแดง
ที่ทำให้วิวทิวทัศน์รอบ ๆ ป่าชายเลนแห่งนี้สวยงามขึ้นมาถนัดตา
นักท่องเที่ยวสามารถเดินลัดเลาะไปดูปากอ่าว หรือจะนั่งเล่นรับลมเย็น ๆ
เฝ้ามองดูก้อนเมฆเคลื่อนตัวผ่านยอดไม้ ก็ได้บรรยากาศชิล ๆ ไปอีกแบบ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อพท.
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โทร. 089
555 6416
8. ชมพระอาทิตย์ตกที่หาดทรายขาว
หลายคนอยากสัมผัสบรรยากาศยามเย็นมองดูพระอาทิตย์ตกดินที่เกาะช้าง แต่ไม่รู้ว่าที่ไหนสวย เราแนะนำให้คุณมาที่ "หาดทรายขาว"
ลองจินตนาการภาพหาดทรายขาวที่ยาวเป็นกิโล
เผยให้เห็นทัศนียภาพของชายหาดที่เปิดโล่ง ทุกวันช่วงเวลาใกล้ค่ำ
เราจะเห็นนักท่องเที่ยวต่างทยอยมานั่งชมพระอาทิตย์กำลังลาลับเส้นขอบฟ้า
นอกจากวิวสวย ๆ แล้วที่นี่ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อย ๆ
มากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทาน หรืออยากจะนั่งชิล ๆ ฟังเพลงเพลิน ๆ
ก็มีให้เลือกหลากหลาย มาที่ "หาดทรายขาว" รับรองว่าไม่มีคำว่าเหงาเด็ดขาด
9. เริงร่าเล่น "น้ำตกคลองพลู"
น้ำตกที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น สามารถลงเล่นน้ำได้หลายจุด
แต่หากใครอยากเดินขึ้นไปยังน้ำตกชั้นที่ 2 และ 3
จำเป็นต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ของอุทยานเป็นผู้นำทางขึ้นไป เพื่อความปลอดภัย
เพราะบริเวณดังกล่าวค่อนข้างลื่น
แต่รับรองว่าคุณจะได้ซึมซับกับบรรยากาศของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
อากาศที่เย็นสบาย เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนผ่อนคลายความเหนื่อยล้าทั้งปวง
10. ปลดปล่อยอารมณ์ที่หาดท่าน้ำ หรือ Lonely Beach
ภาพจาก kushch_dmitry / shutterstock.com
อยู่ถัดจากหาดไก่แบ้ประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นสวรรค์ของเหล่าแบ็คแพ็กเกอร์
ที่ชื่นชอบบรรยากาศความเงียบสงบ จนทำให้ที่นี่ได้รับฉายาว่า "Lonely Beach"
เป็นอ่าวขนาดใหญ่ หาดทรายสีขาว ผู้คนไม่พลุกพล่าน
ขณะเดียวกันการเดินทางภายในเกาะก็ทำได้โดยสะดวก มีรถสองแถว
หรือใครต้องการเช่ามอเตอร์ไซค์ก็มีไว้ให้บริการ โดยเฉพาะในช่วงค่ำคืน
ย่านนี้มีร้านนั่งชิลหลากหลายสไตล์ รับรองว่าใครได้มาที่ "หาดท่าน้ำ" เป็นต้องอิ่มเอมกับบรรยากาศที่แสนสงบ เปรียบได้ดั่งสวรรค์บนโลกมนุษย์เลยทีเดียว
11. ฤดูกาลท่องเที่ยวของเกาะช้างเกาะช้างเป็นเกาะที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะมาในช่วงฤดูไหน
คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงความงดงามของธรรมชาติที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงฤดู
ถ้าตัดสินใจไม่ได้ว่าจะมาเที่ยวฤดูไหนดี
เป็นไปได้ก็มาเที่ยวเกาะช้างทั้งฤดูร้อน ฝน และหนาวไปเลยก็ดีนะคะ
12. ล่องเรือชมหิ่งห้อย เกาะช้างไฮไลท์สำคัญที่อยู่ในช่วงเวลาพลบค่ำ
นักท่องเที่ยวจะได้พบกับการปรากฏตัวของฝูงหิ่งห้อยจำนวนมาก
ที่จะออกมาโบยบินอวดแสงสวยของตัวเอง นับเป็นแหล่งชมหิ่งห้อยที่โรแมนติกสุด ๆ
อย่างไรก็ตามหากต้องการชมหิ่งห้อยควรโทรจองล่วงหน้าจะได้ไม่พลาดชมความสวย
งามนะ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวท่าโสม
โทรศัพท์ 039 516 051-4 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด
โทรศัพท์ 039 597 259-60
ไม่
น่าเชื่อว่า "เกาะช้าง" ที่รายล้อมไปด้วยทะเล
จะมีที่เที่ยวที่น่าสนใจมากมายเต็มไปหมด
บางทีเราอาจไม่เคยได้สังเกตเลยด้วยซ้ำไป รู้อย่างนี้แล้ว?คราวหน้าถ้าเพื่อน
ๆ คนไหนมีโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนที่เกาะช้าง
ก็อย่าลืมแวะหรือทำกิจกรรมตามที่เราบอกไปนะคะ
เผื่อว่าไปเที่ยวเกาะช้างครั้งนี้ เพื่อน ๆ จะได้สนุกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ททท, เฟซบุ๊ก ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก เกาะช้างใต้, dasta.or.th