วัดขึ้นชื่อ 5 แห่ง ที่ต้องมาเยือนให้ได้เมื่อมาญี่ปุ่น
การไปเที่ยวญี่ปุ่นนอก
จากการไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองเด่นดังต่าง ๆ
พร้อมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมายของญี่ปุ่นแล้ว
สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อไปเยือนญี่ปุ่นอีกหนึ่งสิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่าง
ชาติ
ก็คือการไปเคารพและกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำท้องถิ่นของญี่ปุ่น
นั่นเอง ซึ่งวัดในญี่ปุ่นก็มีมากถึง 77,000 แห่งเลยทีเดียว
แต่จะให้ไปเที่ยวทั้งหมดนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เว็บไซต์ mcha-th.com
จึงได้คัดสรร 5 วัดขึ้นชื่อ ที่ไม่ควรพลาดของญี่ปุ่น
มาเป็นแนวทางให้กับมือใหม่ตะลอนเที่ยวญี่ปุ่น
จะมีวัดไหนบ้างนั้น...ไปชมกันเลยค่ะ
เพื่อน
ๆ ทราบไหมคะว่าในญี่ปุ่นมีวัดทั้งหมดกี่แห่ง ? คำตอบก็คือ 77,000
แห่งเลยทีเดียว
เรียกได้ว่ามีจำนวนมากกว่าร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศญี่ปุ่นเสียอีก (ปี 2015)
ในบทความนี้เราจะขอมาแนะนำวัดยอดนิยม 5
แห่งซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวคัดสรรพิเศษจากบรรดาวัดทั่วประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ
1. วัดโฮริวจิ (นารา)ภาพจาก gtknj on flickr
วัดโฮริวจิ ใน
จังหวัดนารา เป็นวัดสถาปัตยกรรมไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ซึ่งสร้างขึ้นที่นาราในปี 607 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กร
UNESCO ครั้งแรกของญี่ปุ่นในปี 1993
ภายในสถาปัตยกรรมและพระพุทธรูปของวัดโฮริวจิ
มีสิ่งที่ถือเป็นสมบัติของชาติมากมาย
เพียงแค่ยืนอยู่ภายในตัววัดโฮริวจิก็สามารถสัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์อันยาว
นานแล้วล่ะค่ะ
วัดโฮริวจิโด่งดังจากการที่มีพระ
พุทธรูปประดิษฐานเป็นจำนวนมาก คุเซะคันนง
(รูปปั้นยืนของพระโพธิสัตว์กวนอิม)
ซึ่งเป็นสมบัติของชาติไม่ได้เปิดให้เข้าชมได้ทั่วไป แต่ในฤดูใบไม้ผลิ (11
เมษายน-18 พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (22 ตุลาคม-23 พฤศจิกายน)
ของทุกปีจะมีการเปิดให้เข้าไปสักการบูชาเป็นโอกาสพิเศษ ยังไงเพื่อน ๆ
ก็ลองแวะไปเยือนตามช่วงเวลากันดูนะคะ
และที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารสำหรับการท่องเที่ยว ?โฮริวจิ I เซ็นเตอร์?
ยังมีบริการฟรีไกด์ภาษาอังกฤษอีกด้วย
ถ้าใครอยากทราบข้อมูลรายละเอียดของวัดโฮริวจิก็ขอแนะนำให้จองไว้ค่ะ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์หลัก
ที่อยู่ : 1-1 Horyuji Sannai, Ikaruga-cho, Ikoma-gun, Nara Prefecture เบอร์โทรศัพท์ : 0745-75-2555 เว็บไซต์หลัก : วัดโฮริวจิ 2. วัดเซ็นโซจิ/วัดอาซากุสะ (โตเกียว)ภาพจาก ?????????????????????????????
วัดเซ็นโซจิ เป็น
วัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 628 ทั้ง ๆ
ที่เป็นวัดใจกลางเมืองหลวงแต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของเอโดะ
(ชื่อเรียกของโตเกียวในยุคซามูไร) ได้ง่าย ๆ เลย
จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศเลยล่ะค่ะ
แต่ละฤดูกาลก็จะมีการจัดงานเทศกาลมากมาย เช่น โฮสึคิอิจิ และ โทชิโนะอิจิ
เป็นต้น สำหรับใครที่ไปก็ขอแนะนำให้เช็กข้อมูลงานเทศกาลให้ดีก่อนนะคะ
ผู้คนจำนวนมากมักจะมาตั้งกล้องถ่ายรูปกันตรงประตูฟูไรจิมมง
(หรือเรียกกันว่า คามินาริมง) ที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าของวัดเซ็นโซจิ
ซึ่งนับเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตเลยค่ะ
ถนนตั้งแต่ประตูยาวไปจนถึงตัววัดจะเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ มากมาย
และมีขนมขึ้นชื่อคืออาเกะมันจู หรือมันจูทอดน้ำมันนั่นเอง
ที่อยู่ : 2-3-1 Asakusa, Taito-ku, Tokyo เบอร์โทรศัพท์ : 03-3842-0181 เว็บไซต์หลัก : วัดเซ็นโซจิ 3. วัดโรคุอนจิ (เกียวโต)ภาพจาก Takeshi Kuboki on flickr
วัดโรคุอนจิ ใน
เกียวโตสร้างขึ้นเมื่อปี 1397 โดยเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า วัดคิงคาคุจิ
ตัวอาคารสีทองแสดงภาพลักษณ์ของดินแดนสุขาวดีน่าประทับใจมาก ๆ ค่ะ
สีทองนี้สร้างขึ้นโดยการแปะแผ่นทองคำจากบนรักจริง ๆ
และภายในวัดโรคุอนจิก็มีบ่อน้ำ เคียวโคจิ
ซึ่งสะท้อนภาพความงดงามของวัดคิงคาคุจิลงบนผิวน้ำควรค่าแก่การมาชมให้ได้สัก
ครั้งในชีวิต
บริเวณรอบบ่อน้ำมีสวนสาธารณะพื้นที่กว้างกว่า 92,400 ตารางเมตร
เหมาะแก่การเดินเล่นชมสวนสาธารณะอย่างสบาย ๆ ไม่รีบร้อนเลยล่ะค่ะ
วัดโรคุอนจินี้โด่งดังเรื่องการให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปตามแต่ละฤดูกาล
โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งงดงามจากภาพที่ตัดกับใบไม้แดงและฤดูหนาวที่เต็ม
ไปด้วยกองหิมะขาวโพลน ยังไงเพื่อน ๆ ก็ลองไปชมในฤดูแนะนำกันให้ได้นะคะ
รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน !
ที่อยู่ : 1 Kinkakujicho, Kita-ku, Kyoto เบอร์โทรศัพท์ : 075-461-0013 เว็บไซต์หลัก : วัดโรคุอนจิ 4. วัดโทไดจิ (นารา)ภาพจาก Jessica Spengler on flickr
วัดโทไดจิ เป็น
สถานที่ประดิษฐานรูปปั้นนั่งของพระไวโรจนะพุทธะ
ซึ่งเป็นองค์พระใหญ่ของนาราที่มีชื่อเสียง
รูปปั้นนั่งของพระไวโรจนะพุทธะมีขนาดใหญ่มโหฬารด้วยความสูงถึง 14.98 เมตร
ว่ากันว่าก่อสร้างตั้งแต่ปี 743 เป็นเวลา 9 ปีโดยใช้กำลังคนถึง 2 ล้าน 6
แสนคนเลยล่ะค่ะ
รูปปั้นนั่งของพระไวโรจนะพุทธะนี้โด่งดังในฐานะที่เป็นสิ่งก่อสร้างจากไม้
ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
ภายในเสาหนึ่งของวิหารที่ประดิษฐานองค์พระใหญ่มีช่องเปิดไว้ซึ่งเรียกว่า?ได
บุทสึโนะฮานะโนะอานะ(ช่องพระนาสิกขององค์พระใหญ่)?มีความเชื่อว่าใครที่ลอด
ผ่านไปได้จะโชคดีมีความสุข แต่ถ้าลอดไม่ได้ก็ห้ามฝืน
เพราะว่าช่องมีขนาดเล็กจึงอาจเกิดอันตรายได้
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์วัดโทไดจิตั้งอยู่ใกล้ ๆ
ให้เราได้เข้าไปชมสมบัติของชาติและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าอย่างพระพุทธรูป
ด้วย สำหรับใครที่ได้ไปเยือนวันโทไดจิก็อย่าลืมแวะชมพิพิธภัณฑ์กันด้วยนะคะ
ที่อยู่ : 406-1 Zoshicho, Nara, Nara Prefecture เบอร์โทรศัพท์ : 0742-22-5511 เว็บไซต์หลัก : วัดโทไดจิ 5.วัดจูซนจิ (อิวาเตะ)ภาพจาก Norio NAKAYAMA on flickr
วัดจูซนจิ จัง
หวัดอิวาเตะมีจูซนจิคนจิคิโด (วิหารสีทองวัดจูซนจิ)
ซึ่งเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
ตัววิหารสีทองโด่งดังเรื่องการปิดทองซ้อนกันทั้งวัด
ที่นี่มีสมบัติของชาติและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่ามากมายมากกว่า 3,000
ชิ้นจนเรียกได้ว่าเป็นขุมทรัพย์ของงานศิลปะเลยทีเดียว
บริเวณโดยรอบวัดจูซนจิอุดมไปด้วยธรรมชาติมากมายให้เราสามารถเพลิดเพลินกับ
การชมใบไม้แดงที่สวยงามในฤดูใบไม้ร่วงได้ นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ติดกับ
ยูเมะยากาตะ โอชูฟุจิวาระเรกิชิโมโนกาตาริ
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของโอชูฟุจิวาระ
ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในตระกูลฟุจิวาระด้วย
จึงขอแนะให้ใครที่มีความสนใจในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นลองแวะไปชมกันนะคะ
ถ้านั่งรถไฟชินคันเซ็นโทโฮคุจากโตเกียวไปฮิโยริซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดจูซนจิ
เราจะสามารถไปถึงฮิไรซุมิได้ภายในเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
ที่อยู่ : 202 Koromonoseki, Hiraizumi, Hiraizumi-cho, Nishi-Iwai-gun, Iwate Prefecture เบอร์โทรศัพท์ : 0191-46-2211 เว็บไซต์หลัก : วัดจูซนจิเรื่องโดย mcha_th
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ