10 สิ่งไฮไลท์ ที่ต้องทำให้ได้เมื่อไปเยือนญี่ปุ่น
ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี "ญี่ปุ่น"
ก็ยังเป็นหนึ่งประเทศที่สามารถครองใจคนทั่วโลกได้อย่างเหนียวแน่น
นั่นอาจเป็นเพราะคนญี่ปุ่นไม่เคยหลงลืมตัวตนของตัวเอง
และเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงธรรมชาติในประเทศ
พวกเขาจึงไม่ให้วิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีสุดทันสมัยมาทำลายตัวตนที่มีคุณ
ค่าของพวกเขาลงได้
เมื่อวัฒนธรรมดั้งเดิมถูกผสมผสานเข้ากับธรรมชาติสุดอัศจรรย์ของประเทศ
ญี่ปุ่น ที่นี่จึงกลายเป็นดินแดนสวรรค์ที่ใครต่างก็ต้องการที่จะไปสัมผัส และจากที่เราเคยนำเสนอ 30 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในญี่ปุ่นที่ห้ามพลาดไปแล้ว คราวนี้ก็ขอหยิบเอา 10 สิ่งไฮไลท์ที่ต้องทำให้ได้เมื่อไปเยือนญี่ปุ่น โดยเว็บไซต์ stuff ซึ่งได้รวบรวมมาจาก Lonely Planet's Japan ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ตามมาเก็บข้อมูลทางนี้ได้เลยค่ะ
1. วัดและสวนสาธารณะในเกียวโต
เกียวโต เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น
และในอดีตยังเคยเป็นเมืองหลวงอีกด้วย
เป็นที่ทราบกันดีว่าภายในเมืองเกียวโตนั้นเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทาง
วัฒนธรรมมากมาย โดยเฉพาะวัดต่าง ๆ วัดที่ไม่ควรพลาด อาทิ วัดเบียวโดอิน,
วัดโทจิ, วัดโคซันจิ, วัดไซโฮจิ, วัดไดโกะจิ, วัดกินคะคุจิ,
วัดคิโยะมิสึเดระ, วัดคินคะคุจิ, วัดเรียวอันจิ, วัดเท็นริวจิ เป็นต้น
ซึ่งวัดเหล่านี้ก็จะมาพร้อมกับสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม
นอกจากนี้ในเกียวโตยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างศาลเจ้าและปราสาท อาทิ
ปราสาทนิโจ, ศาลเจ้าชิโมะงะโมะ จินจะ, ศาลเจ้าอุจิงะมิจินจะ ฯลฯ
ให้เราไปเที่ยวชมอีกด้วย
2. การแช่ออนเซ็น
ภาพจาก Em7 / shutterstock.com
ประเทศญี่ปุ่นมีภูมิประเทศอยู่ในแนวของภูเขาไฟ
ทำให้ทั่วทั้งประเทศมีบ่อน้ำพุร้อนมากมาย
การนอนแช่น้ำแร่ในบ่อน้ำพุร้อนหรือที่เราเรียกกันว่าออนเซ็น
จึงเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น
และเมื่อเรามีโอกาสได้ไปถึงญี่ปุ่นแล้วก็ต้องลองเข้าถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมของ
ญี่ปุ่นให้ลึกซึ้ง ด้วยการไปผ่อนคลายด้วยการแช่ออนเซ็น
โดยสถานที่แช่ออนเซ็นก็มีกระจัดกระจายอยู่โดยรอบประเทศญี่ปุ่น
นักท่องเที่ยวสามารถดูรายละเอียดสถานที่แช่ออนเซ็นได้ที่ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น
3. ลิ้มลองอาหารญี่ปุ่น
ภาพจาก f11photo / shutterstock.com
คงไม่มีใครปฏิเสธว่าอาหารญี่ปุ่นนั้นมีเอกลักษณ์ในตัวของมันเอง
อีกทั้งยังรสชาติอร่อยเสียด้วย ใครได้ลิ้มลองต่างก็หลงรักไปตาม ๆ กัน
โดยเฉพาะอาหารทะเลในเมนูซูชิ
ที่ข้าวปั้นหวานมันจะมาพร้อมกับปลาดิบและอาหารทะเลอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ ที่ห้ามพลาดด้วยเช่นกัน อาทิ เทมปุระ,
อุด้ง, ราเมน, โซบะ, ซาซิมิ, ยากิโทริ, ทงคัตซึ เป็นต้น
4. นอนพักในเรียวกัง
เรียวกัง (Ryokan) หรือที่พักแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งมีมากกว่า
58,000 แห่งทั่วทั้งญี่ปุ่น ที่พักแบบเรียวกังจะเป็นอาคารสไตล์ดั้งเดิม
ล้อมรอบไปด้วยสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่น เงียบสงบ
มีเพียงไม่กี่ห้องพักในหนึ่งเรียวกังเท่านั้น
ซึ่งผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับธรรมเนียมของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ทั้งอาหาร
รูปแบบการใช้ชีวิต เสื้อผ้า เป็นต้น เอกลักษณ์ของการพักในเรียวกัง
คือการอาบน้ำในบ่อน้ำแร่ มีทั้งแบบส่วนตัวและห้องอาบน้ำรวม
ซึ่งจะต้องถอดเสื้อผ้าทั้งหมดเพื่อลงไปแช่ในน้ำแร่
การนอนพักในเรียวกังจึงเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและไม่ควรพลาด
ค้นหาข้อมูลเรียวกังในญี่ปุ่นได้ที่ ryokan
5. ชมดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่ง
ช่วงปลายเดือนมีนาคมของทุกปี
จะเป็นอีกช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นจะต้องต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองอย่างหนัก
ด้วยผู้คนจากทั่วโลกจะแห่แหนกันมายังดินแดนแห่งนี้
เพื่อชมความงดงามของทะเลดอกไม้อย่างต้นซากุระ
ที่พร้อมใจกันบานสะพรั่งเป็นสีชมพูไปทั่วญี่ปุ่น
เป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นจะมีบรรยากาศสุดโรแมนติก
โดยการบานของซากุระจะเริ่มจากทางด้านภูมิภาคใต้ขึ้นสู่ภูมิภาคด้านเหนือของ
ประเทศ นักท่องเที่ยวสามารถติดตามข่าวสารการบานของซากุระในปี 2016 ได้ที่ jnto
6. ไปเยือนตลาดปลา Tsukiji
ภาพจาก happystock / shutterstock.com
ตลาดปลา Tsukiji
ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว ถือได้ว่าเป็นตลาดปลาที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ
ของญี่ปุ่น ปลาหลากหลายชนิดจากทั่วทุกสารทิศจะถูกส่งมาที่นี่
พ่อค้าปลารายใหญ่ รายเล็ก จะมาทำการประมูลปลากันที่ตลาดแห่งนี้
โดยการประมูลปลาจะไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชม แต่ทางตลาดปลา
Tsukiji จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เป็นเวลา
ซึ่งได้กำหนดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้เพียงวันละ 120 คน เท่านั้น
เวลาให้เข้าชม ดังนี้
1. บริเวณ Wholesale จะเปิดให้เข้าชมหลังจาก 09.00 น.
2. ตลาดทูน่าจะเปิด 2 ช่วงเวลา คือตั้งแต่เวลา 05.25-05.50 น. และ 05.50-06.15 น.
3. ตลาดด้านนอกจะเปิดตั้งแต่เวลา 05.00-14.00 น.
7. การเดินขึ้นเขาพิชิตเจแปนแอลป์
เจแปนแอลป์ (Japan Alps) หรือหลังคาแห่งญี่ปุ่น
เป็นเทือกเขาสูงตั้งอยู่ในจังหวัดโทยามะ ซึ่งมีธรรมชาติสวยงามโดดเด่น
เป็นเขตที่อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ธรรมชาติรอบ ๆ
เจแปนแอลป์มีความสวยงามจนทำให้คุณไม่สามารถลืมที่นี่ได้แน่นอน
ในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะกลายเป็นลานสกีสุดท้าทาย
บริเวณโดยรอบของเจแปนแอลป์มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิ
น้ำตกโชเมียว, เขื่อนคุโรเบะ, กำแพงหิมะ, หมู่บ้านมรดกโลก ไอโนคุระ
กัชโชสึคุริ และ ซุงานุมะ กัชโชสึคุริ, ทะเลสาบมิคุริงะ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีกระเช้าไฟฟ้าพานักท่องเที่ยวขึ้นไปชมความงดงามของเทือกเขา
แห่งนี้ที่จุดชมวิวบนยอดเขาอีกด้วย
8. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดโทไดจิ (Todaiji)
ภาพจาก Luciano Mortula / shutterstock.com
วัดโทไดจิ
เป็นวัดในศาสนาพุทธ ตั้งอยู่ที่จังหวัดนาระ
ชื่อของวัดนั้นหมายความว่ามหาวิหารตะวันออก
มีความสำคัญอย่างมากต่อชาวเมืองและคนญี่ปุ่น
สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของวัดนี้ก็คือวิหารไม้ขนาดใหญ่
ที่ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ มีความสูงถึง 15 เมตร
น้ำหนักโดยรวมมากถึง 500 ตัน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางนั่งขัดสมาธิ
มีรัศมีสีทองอยู่ด้านหลัง มีความสวยงามอย่างมาก
นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังมีประตูทางเข้าเก่าแก่ขนาดใหญ่เรียกว่า "นันไดมง"
เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ผู้ที่มากราบไหว้พระในวิหารสามารถขอพรได้ทุกเรื่อง
โดยเชื่อกันว่าหากอธิษฐานแล้วลอดเสาไม้ในวิหารก็จะสมหวัง
วัดโทไดจิจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น.
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ yokosojapan
9. สวนเคนโรคุเอน (Kenrokuen)
สวนเคนโรคุเอน ตั้งอยู่ที่เมืองคานาซาว่า (Kanazawa)
เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3
สวนที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ภายในสวนแห่งนี้ประกอบไปด้วยสระน้ำขนาดใหญ่
เนินเขา และบ้านสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม
พร้อมทั้งตกแต่งไปด้วยต้นไม้สีเขียวร่มรื่น บรรยากาศภายในสวนเงียบสงบ
นักท่องเที่ยวมักจะมาเดินเล่นพักผ่อน เสพความสุขที่แท้จริงจากธรรมชาติ
โดยนักท่องเที่ยวทั่วไปจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการเข้าชมสวนคนละ 310 เยน
และเด็ก 100 เยน สวนเคนโรคุเอนจะเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ kanazawa
10. โคยะซัง (Koyasan)
ภาพจาก cowardlion / shutterstock.com
โคยะซัง
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บนเนินเขา ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 1,000
เมตร ตั้งอยู่ในจังหวัดวากายามะ เอกลักษณ์ของที่นี่คือบริเวณโอคุโนะอิน
ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์หินและเจดีย์กว่า 200,000 องค์
ท่ามกลางต้นไม้ขนาดใหญ่สีเขียวขจี ทำให้บรรยากาศบริเวณนี้ดูลึกลับ
มีมนตร์ขลัง เป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนที่นี่
ในบริเวณโคยะซัง มีที่พักที่เรียกว่า "ชุคุโบ" เปิดให้บริการ
โดยที่พักเหล่านี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับอาหารที่เรียกว่า "โชจินเรียวริ"
ซึ่งเป็นอาหารมังสวิรัติสำหรับพระสงฆ์ ได้สวดมนต์ไปพร้อม ๆ กับพระสงฆ์
และเข้าร่วมกิจกรรมอื่น ๆ ทางพระพุทธศาสนา
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ wakayama
ทั้ง
หมดนี้เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยเท่านั้นที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น
เพราะดินแดนแห่งนี้ยังมีอะไรให้เราได้ไปค้นหาอีกมากมาย
อยู่ที่คุณแล้วล่ะว่าจะไปตามหามันหรือไม่ หากได้เจออะไรใหม่ ๆ
มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
kyoto.travel, jnto.go.jp, jnto.go.jp, japan-guide.com, yokosojapan.org/th, alpen-route.com, foreign.info-toyama.com