โอะฮะโย! เที่ยวเมืองคุมะโมะโตะ พร้อมทำความรู้จัก 'คุมะมง' เจ้าหมีตัวดำสุดทะเล้น

อ่าน 6,630

เพื่อนๆ รู้ไหมว่า .. เมืองคุมะโมะโตะ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นนั้น

มีแหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติ น่าสนใจหลายที่เลยล่ะค่ะ

มีอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อนั้นก็คือ เนื้อม้าอีกด้วย

รวมถึงถ้าใครมาที่เมืองนี้แล้วไม่รู้จักเจ้าหมีตัวดำสุดทะเล้น

ไม่ได้เด็ดขาด! เพราะเป็นมาสคอตประจำเมืองนี้นี่เอง .

ก่อนอื่น! อย่างที่เราทราบกันดีว่าไม่กี่วันมานี้

ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองคุมาโมโตะ ภูมิภาคคิวชู ประเทศญี่ปุ่น

อย่างรุนแรงขนาด 7.3 แมกนิจูดเลยทีเดียว

ซึ่งทำให้บ้านเรือนพังเสียหายและมีผู้เสียชีวิตหลายราย ทาง Travel.mthai

ก็ขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต

และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านเหุตการณ์นี้ไปได้โดยเร็วนะคะ ..

ทำความรุ้จัก?คุมะโมะโตะ?

เมืองคุมะโมะโตะอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น

เป็นเมืองต้นกำเนิดของหมี (ชื่อคุมาโมโตะแปลว่า ?ต้นกำเนิดของหมี?)

อีกทั้งยังเป็นประตูที่จะพาไปสัมผัสความงดงามทางธรรมชาติในแบบคิวชู

คุมาโมโตะ เมืองแห่งปราสาทเป็นที่ตั้งของศาลากลาง

จังหวัดและที่อยู่อาศัยของประชากรถึง 720,000 คน

แต่เสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หลงใหลก็คือความหลากหลายทางธรรมชาติ

ในแบบคิวชู เพียงชั่วโมงเศษๆ

ด้วยการขับรถก็สามารถเดินทางจากชายหาดกึ่งร้อนในอะมะกุซะ (Amakusa)

ไปยังยอดภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นใน อะโสะ (Aso)

นอกจากนี้ ในเมืองก็ยังเต็มไปด้วยธรรมชาติอันรื่นรมย์อย่าง แม่น้ำชิราคาวา

(Shirakawa River) ที่แยกออกหลายสายและไหลไปยังตัวเมือง

รวมทั้งพื้นที่สีเขียวรอบๆ อันกว้างใหญ่ ที่ทำให้ที่นี่ถูกกล่าวขานว่าเป็น

แดนแห่งป่าสวยและน้ำใสบริสุทธิ์ (City of Woods and Fresh Water)

และแน่นอนแม้จะไม่ได้เห็นหมีเดินเพ่นพ่านอยู่ตามถนน แต่มัสคอตยอดนิยมอย่าง คุมะมง (Kumamon) ก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป

สภาพภูมิกาศ

คุมาโมโตะ มีสภาพภูมิกาศแบบกึ่งร้อนชื้น

และอาจจะได้พบกับฝนตกในระหว่างการท่องเที่ยว ในช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม

อากาศในฤดูร้อนจะปลอดโปร่งโดยมีอุณหภูมิประมาณ 30 องศาเซลเซียส

ส่วนฤดูหนาวจะเย็นกว่ามาก โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดใกล้กับจุดเยือกแข็ง

ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงอากาศจะอบอุ่นขึ้นเมื่อมีความชื้น

เทศกาลโคมไฟไม้ไผ่มิซูอาคาริ (Mizuakari Festival)

งานเทศกาลต่างๆ

ในเดือนตุลาคม ก็จะมีการจัดงานเทศกาลคันทรี่โกลด์ (Country Gold

Festival) อันน่าตื่นตาตื่นใจด้วยวัฒนธรรมโคบาลแบบญี่ปุ่น

อีกทั้งเทศกาลโคมไฟไม้ไผ่มิซูอาคาริ (Mizuakari Festival)

ที่พร้อมมอบประสบการณ์ในแบบดั้งเดิม

เทศกาลฟูจิซากิ ฮาชิมันกู (Fujisaki Hachimangu Festival)

ส่วนเดือนกันยายนจะมีการจัดเทศกาลฟูจิซากิ ฮาชิมันกู (Fujisaki Hachimangu

Festival) หรือที่เรียกว่าเทศกาลม้า (Horse Festival) ซึ่งจะจัดเป็นเวลา 5

วัน โดยมีการตกแต่งและกวดม้าไปตามถนนท้องถนนในตัวเมือง

การเดินทางมายังเมืองคุมาโมโตะ

  • จากสนามบิน การเดินทางสู่ใจกลางเมือง 20 กิโลเมตรใช้ระยะเวลา 35 นาที
  • แท็กซี่ ราคาประมาณ 5,000-7,000 เยน
  • รถบัส ราคาประมาณ 730-800 เยน ใช้ระยะเวลาเดินทาง 50 นาที โดยรถบัสส่วนใหญ่จะออกทุกๆ ชั่วโมงระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม

นอกจากนี้ยังมีรถบัสอีกหลากหลายสายที่ให้บริการไปสู่อะโสะ (Aso)

เมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อน คุโรคาว่า (Kurokawa) และเมืองอัศจรรย์แห่งน้ำตก

ทาคาชิโฮะ (Takachiho)

การเดินทางเที่ยวในเมืองคุมาโมโตะ

นอกเหนือไปจากบริการรถบัส

ที่นี่ยังมีรถรางสองสายที่วิ่งทั่วเมืองคุมาโมโตะ

ซึ่งทั้งสองสายจะวิ่งผ่านย่านใจกลางเมือง โดยสาย A

จะวิ่งไปสู่สถานีคุมาโมโตะทางด้านทิศใต้ของเมือง และสาย B

จะวิ่งไปทางทิศเหนือสู่สถานีคามิ-คุมาโมโตะ ด้วยราคา 150 เยน ตลอดสาย

ไม่ว่าระยทางจะใกล้หรือไกลก็ตาม

นอกจากนี้ ยังมีบัตรโดยสารแบบหนึ่งวัน (All-day Pass) ในราคา 500 เยน

ที่สามารถใช้ได้ทั้งรถบัสและรถราง

พร้อมส่วนลดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกด้วย

ที่นี่ยังมีรถ Kumamoto Loop Bus ที่เชื่อมต่อไปยังจุดต่างๆ

ที่น่าสนใจของเมือง ด้วยราคาหนึ่งเที่ยว 150 เยน

หรือตั๋วที่ใช้ได้อย่างไม่จำกัดในราคา 400 เยน

ที่มีส่วนลดค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวให้มาด้วย

สิ่งที่ต้องทำเมื่อมาที่ ?คุมาโมโตะ?

cr. pic ? jpninfo.com

1. ชมภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso) และปล่องภูเขาไฟ

ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso) ตั้งอยู่ใจกลางของอุทยานแห่งชาติอะโสะ-คูจู

(Aso-Kuju National Park) อันกว้างใหญ่

โดยมีปากปล่องภูเขาไฟซึ่งนับเป็นหนึ่งในโลกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

ด้วยเส้นผ่าศูนย์กลาง 25 กิโลเมตร ซึ่งใหญ่เท่ากับเมืองถึง 3

เมืองเลยทีเดียว นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีระบบรถไฟ การทำกสิกรรม

และทุ่งเลี้ยงสัตว์ อีกทั้งภูเขาเล็กๆ 5 ลูก

ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับหมอด

ทั้งหมดนี้ล้วนตั้งอยู่ริมขอบของปากปล่องภูเขาไฟดังกล่าว

ที่ไม่ควรพลาดไปเที่ยวชม

cr pic. www.pref.kumamoto.jp

2. ตามล่าหาหมี

ตัวมัสคอตของคุมาโมโตะคือ หมีสีดำเพศผู้แสนน่ารักที่ชื่อว่า คุมะมง (Kumamon)

และความน่ารักนี้ก็ทำให้เจ้าหมีมัสคอตตัวนี้โด่งดังไปทั่วโลกและสามารถสร้าง

รายได้ถึง 293 ล้านเยนในปีที่ผ่านมา

อีกทั้งได้ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์ของราชวงศ์ญี่ปุ่น

หรือแม้แต่การเป็นผู้บรรยายที่ฮาร์วาร์ด

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนคุมาโมโตะจะพบเห็นหน้าของเจ้าหมีตัวนี้ทุกหนทุกแห่ง

แต่หากอยากพบตัวจริงแบบตัวเป็นๆ ก็ต้องที่ จัตุรัสคุมะมง (Kumamon Square)

คุมะมงสร้างโดยรัฐบาลท้องถิ่นของจังหวัดคุมะโมะโตะ ในปี พ.ศ.

2553และเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับการเปิดเส้นทางการเดินรถไฟชิงกัน

เซ็งสายคิวชู ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาค

จากนั้นไม่นานคุมะมงก็ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว

ในปลายปีเดียวกันคุมะมงได้รับการโหวตจากชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศจนได้รับรางวัล

ชนะเลิศการประกวดตุ๊กตาสัญลักษณ์จากจำนวน 350

ตัวที่แต่ละท้องถิ่นส่งเข้าประกวด

ปราสาทคุมาโมโตะ-โจ (Kumamoto Castle)

3. ปราสาทดั้งเดิม

ญี่ปุ่นนั้นเต็มไปด้วยปราสาทมากมาย แต่ปราสาทคุมาโมโตะ-โจ

นั้นนับเป็นหนึ่งในปราสาทที่ยิ่งใหญ่และน่าประทับใจเป็นที่สุด

ซึ่งตัวปราสาทส่วนใหญ่นั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ตามแบบฉบับของยุคศตวรรษที่

17 ด้วยฝีมือที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง

พระราชวังฮอนมารุ โกเทน (Honmaru Goten Palace)

โดยเฉพาะพระราชวังฮอนมารุ โกเทน (Honmaru Goten Palace)

บ้านพักที่หรูหราของไดเมียว อีกทั้งต้นซากุระที่เรียงรายเป็นร้อยต้นบนสนาม

ที่ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชมดอกซากุระบาน

บะซาชิ (Basashi)

4. ความสุของคนกินเนื้อ

หากกล้าพอที่จะลิ้มลอง หนึ่งในเมนูจานพิเศษที่มีชื่อเสียงที่สุดในคุมาโมโตะก็คือ บะซาชิ (Basashi)

หรือเนื้อม้าดิบ แต่ถ้าคิดว่าหรูหราเกินไป เนื้อคุโรกิว (Kurogyu เนื้อดำ)

หรืออะคากิว (Akagyu เนื้อแดง)

ก็เป็นตัวเลือกระดับไฮเอนด์ของท้องถิ่นที่น่าลิ้มลองเช่นกัน

คะระชิ เร็นคอน (Karashi Renkon)

สำหรับผู้รับประทานมังสวิรัติต้องหลงรัก คะระชิ เร็นคอน (Karashi Renkon)

ซึ่งเป็นรากบัวยัดไส้ด้วยพริกคะระชิสุดเผ็ด

และอีกหลากหลายเมนูที่ชื่นชอบก็มีพร้อมบริการที่ร้าน Umasakura

cr. pic ? commons.wikimedia.org

5. รถไฟ A-Train

อะมะกุซะ (Amakusa) หมู่เกาะทั้ง 120

เกาะที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของคุมาโมโตะ

นั้นพร้อมมอบความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วยวิวชายฝั่งที่เต็มไป

ด้วยผาหินขรุขระ ชายหาดยาวทรายขาวละเอียด สุดยอดการดำน้ำ

การชมปลาโลมาตลอดปี หรือแม้กระทั่งไดโนเสาร์

ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ คือ การนั่งรถไฟ A-Train

โดย A นั้นย่อมาจากคำว่า Adult (ผู้ใหญ่)

แต่อย่าจินตนาการถึงอะไรที่เซ็กซี่

เพราะมีเพียงแค่โบกี้บาร์เครื่องดื่มพ่วงไปด้วยเท่านั้น A-Train

พร้อมให้บริการในวันสุดสัปดาห์และวันหยุดพักผ่อนในช่วงฤดูกาลการท่องเที่ยว

ขอบคุณข้อมูลจากwww.jetstar.com



บทความแนะนำ


ฮ่องกงโปรโมชั่นข่าวบันเทิงOshoppingทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก