ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลี เพราะเรายกมาให้คุณแล้วที่ "Num Num"

อ่าน 12,649

อยากกินสตรีทฟู้ดสุดแซ่บสไตล์เกาหลีไม่ต้องตีตั๋วไปไหนไกล เพราะ ?Num

Num Korean Street Food? ยกมาไว้ให้คุณแล้วที่สยามสแควร์วัน ชั้น 5

วันนี้วงในจะพาเพื่อนๆ มากินอาหารเกาหลีที่ Num Num Korean Street Foodร้าน

อาหารเกาหลี ใจกลางห้างสยามสแควร์วัน บรรยากาศร้านสวยๆ

ที่ทางร้านบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก ถนนกาโรซูกิลแหล่งช็อปสุดชิคที่เกาหลี

โดยตัวร้านจะตกแต่งด้วยไม้ เน้นโทนสีดำและน้ำเงิน

รวมถึงผนังแบบสตรีทเพ้นท์สวยๆ ถูกใจสายเซลฟี่แน่นอน

ในส่วนของอาหารจะเน้นไปที่แนวสตรีทฟู้ด

แต่มีการปรับรสชาติเพิ่มความแซ่บเข้าไปให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น

มาเริ่มกันเลยดีกว่า เมนูแรกเป็นของทานเล่นที่ใครๆ ก็ต้องชอบ ?Fried Cartilage Spicy Numnum Sauce เอ็นข้อไก่ทอดซอสนัมนัมสไปซี่?

(65.-) ที่ทางร้านทอดด้วยความพิถิพิถันด้วยระยะเวลาที่พอเหมาะ

จึงช่วยให้เอ็นข้อไก่ยังคงความกรอบ

คุลกเคล้ากับซอสสไปซี่นัมนัมสูตรลับของทางร้านทำให้ได้รสชาติที่เผ็ดซี๊ดถูก

ปาก

?Fried Cartilage Spicy Numnum Sauce (65.-)?

มาถึงร้านอาหารเกาหลีแล้วจะขาดเมนูนี้ไม่ได้เลยคือ ?Num Num Fried Chicken? มีให้เลือกสามส่วนคือ
Wing (ปีกบนปีกล่าง) (S) 5 ชิ้น (120.-), (M) 10 ชิ้น (230.-), (L) 18 ชิ้น (380.-)
Drumstick (น่องไก่) (S) 2 ชิ้น (110.-), (M) 4 ชิ้น (190.-), (L) 6 ชิ้น (260.-)
Boneless Chicken (ไก่ไร้กระดูก) (S) 5 ชิ้น (120.-), (M) 10 ชิ้น(230.-), (L) 18 ชิ้น(380.-)
เป็น

ไก่ทอดสูตรพิเศษของทางร้านซึ่งมีเคล็ดลับในการหมักไก่เพื่อให้คงความกรอบได้

นาน แถมยังใช้น้ำมันคาโนลาซึ่งเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพในการทอดอีกด้วย

ทานกับเครื่องเคียงอย่างหัวไชเท้าดองและกิมจิแล้วฟินสุดๆ ไปเลย

?Num Num Fried Chickenสูตรเด็ดของร้านNum Num Korean Street Food?

นอกจากไก่ทอดแล้ว ที่ร้านNum Num Korean Street Foodยังมีเมนูพิเศษไม่เหมือนใครอีกอย่างคือ ?Num Num Fried Fish?(S)

5 ชิ้น(120.-), (M) 10 ชิ้น(230.-), (L) 18 ชิ้น(380.-)

เสิร์ฟแบบเสียบไม้หยิบทานได้สะดวก โดยทางร้านจะใช้เนื้อปลาสด

ซึ่งผ่านกรรมวิธีพิเศษของทางร้าน ไม่ว่าจะเป็นการหมักหรือการทอด

เพื่อให้ปลาทอดคงความกรอบนอกนุ่มใน

?Num Num Fried Fish"

ซึ่งเมนูไก่ทอดและปลาทอดจะมีให้เลือก 4 รสชาติด้วยกัน คือ
Numnum Garlic เข้มข้นกลมกล่อมโดนใจ ซอสกระเทียมสูตรเข้มข้นกลมกล่อมหอมกลิ่นกระเทียมและเครื่องเทศ
Numnum Style รสชาติสำหรับคนมีสไตล์ สูตรลับเฉพาะของทางร้าน มีความหอมและหวานกำลังพอดี
Numnum Spicy รสเผ็ดถึงใจสไตล์เกาหลี ที่นำความเผ็ดสไตล์เกาหลีมาปรับให้จัดจ้านเหมาะกับคนไทยยิ่งขึ้น
Numnum

Overdose (Super Spicy) เผ็ดกล้าบ้าพลัง ใช้พริกที่เผ็ดที่สุด ติดอันดับ 1

ใน 10 ของโลก มาเป็นส่วนผสมเผื่อให้ได้รสชาติที่เผ็ดซี๊ดสุดพลัง

สำหรับผู้กล้าที่ชอบท้าทายความจัดจ้าน

ต่อไปเป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน ?Spicy Tokpokki Cheese ผัดต๊อกปกกีซีฟู้ดเพิ่มชีส?

(190.-) ทีเด็ดอยู่ที่ทางร้านจะใช้เส้นสดที่ทำใหม่ทุกครั้ง

เพื่อให้เส้นต๊อกเหนียวนุ่มกำลังดี รสชาติกลมกล่อมไม่เผ็ดมาก

ใส่กุ้งและหมึกชิ้นโต แถมตบท้ายความฟินด้วยชีสเยิ้มๆ

?Spicy Tokpokki Cheese ผัดต๊อกโปกีซีฟู้ดเพิ่มชีส (190.-)?

ต่อด้วย?Chab Chae Numnum Style ผัดวุ้นเส้นเกาหลีสไตล์นัมนัม? (165.-)

ใช้วุ้นเส้นเกาหลี เส้นกลมใหญ่เหนียวนุ่ม

ผัดกับไข่และซอสสูตรพิเศษของทางร้าน รสชาติหอมหวานนิดๆ กำลังดี

เสริมความอร่อยด้วยถั่วงอกหัวโต ผักต่างๆ และไส้กรอก แต่ถ้าเพื่อนๆ

คนไหนชอบทานเผ็ดก็จะมีเมนู ?Spicy Chab Chae ผัดวุ้นเส้นสไตล์เกาหลีรสเผ็ด? ให้เลือกทานเช่นกัน

?Chab Chae Numnum Style ผัดวุ้นเส้นเกาหลีสไตล์นัมนัม (165.-)?

อีกอย่างเลยที่พลาดไม่ได้คือ?Budae Jjigae บูเดจิเก หม้อไฟเกาหลี?

(380.-) น้ำซุปรสชาติกลมกล่อมแต่แฝงไปด้วยความจัดจ้าน

ท็อปปิ้งในหม้อไฟจะเป็นแนวสตรีทแบบเสียบไม้ โดยเพื่อนๆ

สามารถเลือกท็อปปิ้งและเพิ่มพริกได้ตามความชอบ

?Budae Jjigae บูเดจิเก หม้อไฟเกาหลี (380.-)?

เมนูสุดท้ายคือ ?Kimchi Fried Rice ข้าวผัดกิมจิ? (120.-) ที่ทางร้านบอกว่าใช้กิมจิแท้ๆ จากเกาหลีมาผัดกับข้าวสวย ทำให้รสชาติเข้มข้น เสิร์ฟมาพร้อมกับผักสดกรอบและไข่ดาวให้ทานคู่กัน

?Kimchi Fried Rice ข้าวผัดกิมจิ(120.-)?

เผ็ดซี๊ดกันมามากพอแล้ว มาดับความเผ็ดร้อนกันดีกว่า เพราะทางร้านมีเครื่องดื่มเย็นชื่นใจหลากชนิดให้เลือก อย่างเช่น ?Peach Iced Tea ชาพีช 70.-? , ?La La Lychee ลิ้นจี่โซดา 60.-? , ?Rum Plum Plum บ๊วยโซดา 60.-? และ ?Strawberry Heart สตรอว์เบอรี่โซดา 60.-?