ไปตะวันออกกลางกันมั้ย? กางคู่มือ 10 ข้อ โอมาน อิหร่าน มีอะไรน่าเที่ยว?

อ่าน 4,127

ขาเที่ยวหลายคนคงเห็นเหมือนกันใช่มั้ย?

ค่ายหางแดงปล่อยโปรตั๋วบินตรงดอนเมืองสู่โอมานและอิหร่าน

กรี๊ด?ดีใจเบอร์ใหญ่สุดอะ ใครอยากเที่ยวดินแดนตะวันออกกลางมีเฮ

(เราก็เป็นหนึ่งในนั้น อิอิ) ใครบุ๊กตั๋วบุ๊กวันที่เดินทางไว้เรียบร้อยแล้ว

ยกมือขึ้น?

วันนี้ คู่มือเที่ยว ไทยรัฐออนไลน์

ขอเอาใจคนอยากเที่ยวตะวันออกกลาง จะชวนไปทำความรู้จัก 2

ประเทศดินแดนอาหรับให้มากขึ้นอีกนิด พร้อมแชร์ทริกเด็ดๆ

สำหรับการเตรียมตัวไปเที่ยวกรุงมัสกัต และกรุงเตหะราน

รับรองว่าได้ใช้ประโยชน์แน่ๆ ส่วนจะต้องทำยังไงบ้าง มาดูกัน

1. อัตราค่าเงิน แพงมั้ย?

สำหรับอัตรค่าเงินของทั้ง 2 ประเทศนี้

ขอบอกว่าค่อนข้างถูกใช้ได้สำหรับประเทศโอมาน มีสกุลเงินคือ OMR (Rial

Omani) สามารถแลกเงินสกุลไทยเป็นสกุลเรียลโอมานได้ที่ซุปเปอร์ริชทุกสาขา

ง่ายมากๆ โดยอัตราค่าเงิน 1 THB แลกได้ 91.80 OMR หรือ 100 THB แลกได้

9,180 OMR (ราคา ณ วันที่ 23 พ.ค. 2559) ทั้งนี้ควรแลกเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

เตรียมเผื่อไปด้วย สำหรับค่าทำวีซ่าตอนเข้าเมือง

ค่าเงินถูกดี น่าเที่ยวอะ

ส่วนประเทศอิหร่าน มีสกุลเงินคือ IRR (Iranian Rial) คนอิหร่านนิยมเรียก

Toman เงินสกุลนี้ไม่เห็นขึ้นชาร์ตให้แลกที่ซุปเปอร์ริชนะ

แต่เราเดาว่าสามารถแลกที่ธนาคารได้ แต่เพื่อความชัวร์

ควรแลกเงินไทยเป็นเงินสกุลยูโร หรือดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้ก่อน (สามารถใช้ 2

สกุลนี้ใช้จ่ายในอิหร่านได้)

จากนั้นเมื่อเดินทางถึงอิหร่านค่อยไปแลกจากสกุลดอลลาร์เป็นสกุล Iranian

Rial ได้ ค่าเงินก็ประมาณ 1 THB แลกได้ 850.3721 IRR หรือ 100 บาท แลกได้

85,037 IRR (ราคา ณ วันที่ 23 พ.ค. 2559)

2. การแลกเงิน แลกเท่าไรดี

ถ้าจะไปเที่ยวประมาณ 3 วัน สำหรับโอมานค่าที่พักค่อนข้างแพง

ขนาดโรงแรมเล็กๆ ยังตกประมาณเกือบ 3,000 บาท ควรแลกเงินไปประมาณ

500,000-600,000 เรียลโอมาน เผื่อใครที่ชอบช็อปปิ้งเนอะ

ส่วนอิหร่านแลกไว้ประมาณ 250,000-350,000 เรียล

แลกเงินไว้ให้พร้อม

3. การขอวีซ่าล่ะ ยากป่ะ?

สำหรับการขอวีซ่าไปโอมาน นักท่องเที่ยวสามารถทำได้แบบ Visa on Arrival

ที่สนามบินมัสกัตได้เลย ไม่ต้องกรอกใบ ตม.ขาเข้า-ขาออก

เมื่อเข้าสู่ตัวอาคารผู้โดยสาร จะมีเครื่อง Visa on Arrival

เป็นตู้อัตโนมัติ ก็เข้าไปกดเลือกภาษา เลือกระยะเวลาที่ต้องการ

(เลือกได้ว่าจะเที่ยว 10 วัน หรือ 30 วัน ราคาต่างกัน) เลือกสัญชาติ ใส่เลข

Passport จากนั้นก็สอดเงินจ่ายค่าวีซ่า แล้วก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ ตม.

ได้เลย

ส่วนไปอิหร่านใช้เวลาทำวีซ่านานกว่า และยุ่งยากมากกว่า คือ

ต้องติดต่อบริษัททัวร์ในประเทศอิหร่านให้เป็นผู้ดำเนินการขอ Code Visa

ใช้เวลา 5-7 วัน เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย เขาจะดำเนินการขอ code

ให้เมื่อได้รับ Code แล้ว ก็ตรวจสอบกับทางสถานทูตอิหร่าน

จากนั้นเดินทางไปสถานทูตอิหร่าน อยู่ในซอยสุขุมวิท 49/11 โดยเตรียม Visa

code, รูปถ่าย 2 นิ้ว พื้นขาว 2 ใบ, เงินสดจ่ายค่าวีซ่า และ Passport

อายุมากกว่า 6 เดือน รอรับวีซ่า 3 วัน สามารถเที่ยวในอิหร่านได้นาน 30 วัน

เดินทางไปต่างประเทศ

4. ควรเตรียมเสื้อผ้าแนวไหนไปดี

ทั้ง 2 ประเทศส่วนใหญ่ผู้คนนับถือศาสนาอิสลาม

ซึ่งมีข้อบังคับทางศาสนาที่ผู้หญิงไม่ควรเปิดเผยร่างกาย

สำหรับนักท่องเที่ยวหญิงควรแต่งกายสุภาพมิดชิด ห้ามใส่กางเกงขาสั้น

หรือเสื้อสายเดี่ยว เตรียมเสื้อคลุมแขนยาว

และควรพกผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่เอาไว้คลุมศีรษะด้วย

ส่วนผู้ชายก็ควรแต่งตัวสุภาพ เสื้อสุภาพกับกางเกงขายาว อ้อ!

ฤดูกาลที่เหมาะที่สุด และนิยมไปท่องเที่ยวกันในช่วงฤดูหนาว

5. การเดินทางไปมายังไง ลำบากมั้ย?

สำหรับโอมาน ไม่มีรถประจำทาง ผู้คนนิยมสัญจรโดยรถตู้ รถแท็กซี่

หรือรถส่วนตัว แนะนำว่าให้ใช้บริการรถแท็กซี่ดีที่สุด

เพราะได้ยินมาว่ารถตู้นั้นเก่ากึกโบราณ ไม่น่านั่งเท่าไร

อาจจะไปแบบเหมาจ่ายสำหรับเที่ยวเต็มวันในราคา 1,000-2,000 บาท

ส่วนอิหร่านก็แนะนำให้ใช้แท็กซี่เช่นกัน

ไปเที่ยวแบบครอบครัวก็ได้

6. แหล่งท่องเที่ยวกรุงมัสกัต ประเทศโอมาน

มัสกัต เป็นเมืองหลวงของรัฐสุลต่านโอมาน

นครหลวงแห่งนี้มีเทือกเขาสูงเป็นฉากหลังอยู่ทางทิศตะวันตก

ในขณะเดียวกันเบื้องหน้าทางตะวันออกนั้น ก็อยู่บนชายฝั่งของทะเลอาหรับ

ทำให้เป็นศูนย์กลางสำคัญของการค้าขายระหว่างโลกตะวันตกและตะวันออกมายาวนาน

เกือบ 2,000 ปี

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ได้แก่ ทะเลทรายวาฮิบา (Wahiba Desert) ทะเลทรายกว้างสุดสายตา ทรายละเอียดสีทองตัดกับผืนฟ้าสีเข้ม สวยงามแบบบรรยายไม่ถูก และป้อมนิซวา (Nizwa Fort) ป้อมปราการขนาดใหญ่ อนุสรณ์สถานแห่งชาติของโอมาน หอคอยขนาดใหญ่ และห้องมากมายที่ซับซ้อนเหมือนกับเขาวงกต

ทะเลทรายวาฮิบา (Wahiba Desert)

7. มัสยิดสุดอลังการ

กรุงมัสกัตยังมีแหล่งท่องเที่ยวดีๆ อีกแห่ง คือ มัสยิดกลางสุลต่านกาบูส์

(Sultan Qaboos Grand Mosque)

เป็นมัสยิดขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในคาบสมุทรอาหรับ สีขาวสวยงาม

ภายในมีพรมทอมือผืนเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก ขนาดกว้าง

4,343 ตารางเมตร หนักกว่า 21 ตัน และใช้เวลาทอกว่า 4 ปี

มัสยิดกลางสุลต่านกาบูส์ (Sultan Qaboos Grand Mosque)

8. แหล่งท่องเที่ยวกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน

เตหะราน เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

ดินแดนแห่งอารยธรรมเปอร์เซียอันรุ่งเรือง

แหล่งอารยธรรมโบราณอันเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ

ได้แก่ จัตุรัสอาซาดี (Azadi Square) จัตุรัสแห่งเสรีภาพ

คือความหมายของ อาซาดี สแควร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกรุงเตหะราน

เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ผู้มาเยือนต้องแวะมาถ่ายภาพ

9. ที่นี่มีเมืองเก่ามรดกโลก

นอกจากนี้ กรุงเตหะรานยังมี อิหม่ามสแควร์ (Imam

Square) จัตุรัสขนาดใหญ่กลางเมือง อิสฟาฮาน นครใหญ่อีกแห่งของอิหร่าน

สถาปัตยกรรมแบบเปอร์เซียที่สวยงามและสมบูรณ์ ตั้งอยู่ใกล้ๆ

กับพระราชวังของจักรพรรดิแห่งเปอร์เซียในอดีต แถมด้วย แพร์ซโพลิส (Persepolis) โบราณสถานที่เป็นมรดกโลก สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ และความเจริญก้าวหน้าของเปอร์เซียที่รุ่งเรืองมายาวนาน

วิวทะเลทรายสวยๆ

10. ของฝากเด็ดๆ ดินแดนอาหรับ

ทั้ง 2 ประเทศดังกล่าว มีตลาดไนท์บาร์ซ่าให้เลือกช็อปปิ้งมากมาย

ร้านรวงเปิดประมาณ 8 โมงถึงบ่ายโมง และเปิดอีกที 4 โมงเย็นถึงประมาณ 1 ทุ่ม

ร้านอาหารก็มีหลากหลายสไตล์ ทั้งอาหารไทย อินเดีย ปากีสถาน เลบานอน ตุรกี

ถ้าดวงดีก็จะได้ชมงานมัสกัตเฟสติวัล ส่วนของฝากยอดนิยม ได้แก่ อินทผลัม

และกำยาน

เที่ยวเมืองนอกกันเถอะ

ที่มาภาพบางส่วน : superrichthailand



บทความแนะนำ


เครื่องสำอางถูกและดีเครื่องสำอางVaccinesประเทศอังกฤษวงร็อคกีต้าร์Theภาพยนตร์PartMockingjayทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก