9 ลานกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ สถานที่พักผ่อนช่วงวันหยุด ใช้เวลาเดินทางไม่นานจากกรุงเทพฯ
ลานกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ สถานที่พักผ่อนช่วงวันหยุด ใช้เวลาเดินทางไม่นานจากกรุงเทพฯ ก็จะได้พบกับธรรมชาติสวย ๆ และใกล้ชิดธรรมชาติแบบเต็ม ๆ
เชื่อแน่ว่าน่าจะมีหลายคนที่หลงใหลและชื่นชอบการนอนเต็นท์ เพราะนอกจากจะได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบเต็มที่แล้ว ค่าใช้จ่ายในการนอนเต็นท์ก็ไม่ได้แพงเหมือนกับนอนตามโรงแรมทั่วไป แถมยังได้บรรยากาศการท่องเที่ยวที่แตกต่างไปจากเดิมอีกด้วย หลายคนคงกำลังมองหาลานกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ เอาไว้ใช้เป็นที่พักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์แบบใช้เวลาเดินทางไม่นาน เชื่อไหมว่ามีลานกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ สวย ๆ มากมาย รับรองว่าไม่ต้องไปนอนเต็นท์ที่ดอย ก็มีธรรมชาติสวย ๆ มาให้ฟินอยู่ตรงหน้า เราไปดูกันว่ามีที่ไหนเด็ดและน่าสนใจบ้าง เริ่มกันที่
1. ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่จัดได้ว่ามีธรรมชาติที่สมบูรณ์ พื้นที่ภายในมี "อ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน" กว้างใหญ่ โดยพื้นที่ด้านหนึ่งเปิดเป็นลานกางเต็นท์กว้าง พร้อมด้วยศาลาพักผ่อน และพื้นที่สำหรับทำอาหาร บรรยากาศลานกางเต็นท์ที่นี่จัดได้ว่าสวยพอ ๆ กับปางอุ๋งเลยทีเดียว นอกจากบรรยากาศสวย ๆ บริเวณที่พัก และลานกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำแล้ว ที่นี่ยังมีจุดชมวิว และน้ำตกใกล้ ๆ อีกหลายแห่ง และยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนแบบนี้แนะนำว่าอย่าพยายามตั้งเต็นท์ใกล้ริมอ่างเก็บน้ำมากนัก เพราะอาจได้รับอันตรายจากลมและพายุได้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ ทางศูนย์มีบริการเต็นท์ให้เช่า (เต็นท์ขนาด 2 คน ราคา 200 บาท/เต็นท์ขนาด 3 คน ราคา 300 บาท) และชุดอุปกรณ์การนอนราคา 150 บาท/คน ทางศูนย์มีบริการร้านค้าและร้านอาหารที่เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า โทรศัพท์ 089 237 8659, 085 968 3520 และ 080 019 2762
2. ลานกางเต็นท์ลำตะคอง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ภาพจาก Umnaj / shutterstock.comลานกางเต็นท์ลำตะคอง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นลานกางเต็นท์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ มีทำเลที่ตั้งเต็นท์ให้เลือกมากมาย ทั้งริมน้ำ ใกล้ชายป่า หรือบนเนิน ที่สำคัญบรรยากาศดีเพราะอยู่ติดริมน้ำลำตะคอง มีห้องน้ำบริการหลายจุด อากาศเย็นกำลังสบาย แม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าร้อน ก็ไม่ได้ร้อนจัด หลายคนจึงนิยมเดินทางมากางเต็นท์สูดอากาศบริสุทธิ์กันที่นี่ สถานที่โล่ง โปร่ง สบายตา น้ำใสสะอาด ทั้งยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวให้ทำมากมาย บางคนอาจเดิน วิ่ง หรือปั่นจักยาน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน อาจจะเดินไปผากล้วยไม้ หรือจะวิ่งออกกำลังกายรอบ ๆ สถานที่กางเต็นท์ เพราะมีพื้นที่กว้างขวาง แต่ต้องไม่ลืมระวังอันตรายจากช้างป่าที่ออกมาหากินด้วยนะ อย่าลืมว่าเขาใหญ่เป็นบ้านของสัตว์ป่า
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ ทางอุทยานมีบริการให้เช่าเต็นท์ (เต็นท์ขนาด 3-4 คน ราคา 225 บาท) และชุดอุปกรณ์การนอน ราคา 50-100 บาท/คน หรือถ้านักท่องเที่ยวคนไหนมีเต็นท์มาแล้ว จะต้องเสียค่าธรรมเนียมสถานที่คนละ 30 บาท โดยบริเวณลานกางเต็นท์มีร้านค้า ร้านอาหารเปิดให้บริการทุกวัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โทรศัพท์ 086 092 6529, 086 092 6531, 037 356 033, 044 249 305
3. อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้วสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ ที่น่าสนใจอีกที่หนึ่ง โดยเฉพาะการศึกษาเรื่องสัตว์ป่า เพราะที่นี่มีสัตว์ป่าและนกหายากกว่า 300 ชนิด รวมถึงสภาพป่าที่สมบูรณ์ และทิวทัศน์ที่สวยงาม มีน้ำตกสวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตกปางสีดา น้ำตกนาโตร น้ำตกผาน้อย และยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำบางปะกง ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมในภาคตะวันออก โดยจุดกางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติปางสีดา อยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติปางสีดาที่ 5 (ห้วยน้ำเย็น) ซึ่งเป็นบริเวณที่นักนิยมไพรทั้งหลายจะได้ดื่มด่ำไปกับการชมแมกไม้ เส้นทางศึกษาธรรมชาติสวย ๆ หลากหลายเส้นทาง ที่รับรองได้ว่าคุณจะต้องประทับใจ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ หากนักท่องเที่ยวนำเต็นท์มาเองจะต้องเสียค่าธรรมเนียมสถานที่ให้กับทางอุทยานคนละ 30 บาท หรือสามารถเช่าเต็นท์กับทางอุทยาน (เต็นท์ขนาด 3 คน ราคา 300 บาท) ทั้งนี้นักท่องเที่ยวควรเตรียมอาหารและเสบียงมาให้พร้อม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติปางสีดา โทรศัพท์ 081 862 1511
4. ห้วยคอกหมู จังหวัดราชบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Timond Oilแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมสำหรับนักกางเต็นท์ อยู่ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 137 หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เสน่ห์ของห้วยคอกหมูอยู่ตรงที่นักท่องเที่ยวจะได้ยืนชมวิวทิวทัศน์ของทิวเขาในฝั่งพม่าได้ไกลอย่างสุดลูกหูลูกตา ยิ่งถ้าวันไหนอากาศดี คุณอาจได้เห็นกลุ่มหมอกที่ค่อย ๆ ลอยตัวเคลื่อนผ่านทิวเขาด้านล่าง ที่สำคัญมีหมอกเกือบตลอดทั้งปี ทั้งหมอกหนาว หมอกฝน หากเป็นในวันที่ฝนตก คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศชุ่มฉ่ำของป่าเขา ที่สวยงามแปลกตาไปอีกแบบ ห้วยคอกหมู จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักกางเต็นท์ที่ไม่อยากสมบุกสมบันมากนัก เพราะสภาพเส้นทางที่นี่ค่อนข้างสะดวกสบาย มีจุดชมวิวสุดเขตแดนประเทศไทยที่สวยอีกจุดหนึ่ง แถมนักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ และยังคงมีความเป็นธรรมชาติอยู่มากเลยทีเดียว
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ ห้วยคอกหมูมีลานกางเต็นท์อยู่ทางด้างล่างจุดชมวิวลงไปประมาณ 8 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมอุปกรณ์การนอนและเต็นท์มาเอง (ไม่มีบริการให้เช่าเต็นท์) ทั้งนี้โดยรอบบริเวณมีร้านค้าและร้านอาหารคอยให้บริการนักท่องเที่ยวมากมาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 137 โทรศัพท์ 084 884 5245
5. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ไว้สำหรับเป็นที่พักผ่อนหลบหลีกความวุ่นวายจากเมืองหลวง ภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ จุดชมวิวสันเขื่อน, พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก ที่แสดงความรู้ด้านธรรมชาติ และวัฒนธรรม เป็นต้น ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของอ่างเก็บน้ำและภูเขา หลายคนจึงนิยมเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนและนอนกางเต็นท์ที่นี่ เป็นกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันกับเพื่อนและครอบครัว ปิ้งย่างอาหารยามเย็น หรือจะปั่นจักรยานชมวิวทิวทัศน์โดยรอบเขื่อนก็สามารถทำได้แบบชิล ๆ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ หากนักท่องเที่ยวนำเต็นท์ไปเองจะต้องเสียค่าธรรมเนียมค่าพื้นที่ 80 บาท/คน หรือสามารถเช่าเต็นท์จากทางศูนย์ได้ (เต็นท์ขนาด 2 คน ราคา 280 บาท และเต็นท์ขนาด 6 คน ราคา 500 บาท) และชุดอุปกรณ์การนอนราคา 80 บาท/คน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไปเองให้พร้อม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สวัสดิการ เขื่อนป่าสักชลสิทธ์ โทรศัพท์ 036 494 243, 086 135 0533
6. อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี
อุทยานแห่งชาติเพียงหนึ่งเดียวของจังหวัดสุพรรณบุรี มีลักษณะเป็นพื้นที่ภูเขาสลับซับซ้อน มียอดเขาสูงสุดคือ "ยอดเขาเทวดา" เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย ภายในมีป่าสนสองใบธรรมชาติที่สวยงามมากถึงมากที่สุด ยิ่งถ้ามาในช่วงหน้าฝนคุณจะได้ดื่มด่ำไปกับวิวสองข้างทางที่เขียวชอุ่ม ภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น ป่าสนสองใบธรรมชาติ วนอุทยานถ้ำเขาวง หมู่บ้านกะเหรี่ยงตะเพินคี่ น้ำตกตะเพินคี่น้อย น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ เป็นต้น นับได้ว่าอุทยานแห่งชาติพุเตยเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ ท่ามกลางความเงียบสงบ ป่าเขา น้ำตก ความงดงามของธรรมชาติ และวิถีชีวิตชนชาวกะเหรี่ยง
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ หากนำเต็นท์มาเองจะต้องเสียค่าธรรมเนียมพื้นที่ราคา 30 บาท/คน หรือสามารถเช่าเต็นท์กับทางอุทยาน ราคา 250 บาท (นอนได้ 2-3 คน) ทั้งนี้นักท่องเที่ยวควรเตรียมชุดอุปกรณ์การนอนต่าง ๆ อาหารและเครื่องดื่มไปให้พร้อม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติพุเตย โทรศัพท์ 081 934 2240, 035 446 237
7. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวตั้งอยู่ที่อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เป็นพื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งต้นกำเนิดของธารน้ำหลายสาย และไหลตกลงมาเป็นน้ำตกเขาสอยดาวขนาดใหญ่ ท่ามกลางป่าลึกที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้บริเวณธารน้ำตกยังมีผีเสื้อจำนวนมาก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักและชื่นชอบการดูผีเสื้อและศึกษาพรรณไม้ ทั้งคุณยังจะได้พบสัตว์ป่าหายาก เช่น ไก่ฟ้าหลังขาวจันทบูร นกสาลิกาเขียวหางสั้น เป็นต้น ตลอดเส้นทางของการชมน้ำตก นอกเหนือไปจากความงดงามแล้ว ยังจะได้พบกับความตื่นเต้นท้าทาย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าเข้าไปชม รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติเต็มทุกอณู
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ หากนักท่องเที่ยวนำเต็นท์มาเอง ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมสถานที่ใด ๆ ทั้งสิ้น หรือนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์จากทางอุทยาน (เต็นท์ขนาด 2-3 คน ราคา 200 บาท) ซึ่งมีให้เลือกหลายขนาด หลายราคา พร้อมชุดอุปกรณ์เครื่องนอนต่าง ๆ ราคา 100 บาท ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ มีร้านค้า ร้านอาหาร เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวทุกวัน เวลา 08.30-15.30 น. (ทางที่ดีนักท่องเที่ยวควรเตรียมอาหารและเครื่องดื่มมาให้พร้อม) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว โทรศัพท์ 039 460 404
8. อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาแหลมจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์มากที่สุดของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม น่าจะหนีไม่พ้นตรงบริเวณจุดชมวิวป้อมปี่ ว่ากันว่าเป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามและโรแมนติก แถมยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบมาพักผ่อนแบบไม่ลำบากมากเท่าไร บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ มองเห็นท้องน้ำของอ่างเก็บน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ์ ทิวทัศน์ภูเขาอยู่ไกลสายตาออกไป หน้าหนาวได้เห็นไอหมอกละเลียดตามผิวน้ำ เป็นภาพความสวยงามแบบไร้คำบรรยาย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนอนกางเต็นท์เพื่อชมบรรยากาศ ดูพระอาทิตย์ตกได้อย่างเต็มที่ มีระเบียงยื่นออกไปในอ่างเก็บน้ำ พร้อมม้านั่ง ไว้สำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ หากนำเต็นท์มาเองเสียค่าธรรมเนียมสถานที่คนละ 30 บาท หรือสามารถเช่าเต็นท์จากทางอุทยาน (เต็นท์ขนาด 3 คน ราคา 200 บาท) และอุปกรณ์เครื่องนอนต่าง ๆ ราคา 30 บาท/คน ทั้งนี้รอบบริเวณกางเต็นท์มีร้านค้า ร้านอาหารให้บริการนักท่องเที่ยวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม โทรศัพท์ 034 510 431
9. อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง จังหวัดระยอง
สถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ ชอบชมป่าเขา ลำเนาไพร น้ำตก ต้นไม้ ที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มากเลยทีเดียว ทั้งยังมีสัตว์ป่าให้เห็นจำนวนมาก และเป็นแหล่งต้นกำเนิดต้นน้ำที่สำคัญ อย่างแม่น้ำประแส ในอำเภอแกลง ด้วยความมีชื่อเสียงในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ จึงทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการนอนเต็นท์ และจุดกางเต็นท์ของที่นี่มีความสวยงาม มีลักษณะเป็นลานกว้างสนามหญ้า ที่มีต้นไม้น้อยใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมคอยให้ร่มเงาอยู่ตลอดเวลา
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ ทางอุทยานมีบริการให้เช่าเต็นท์พร้อมเครื่องนอน ร้านอาหารสวัสดิการเปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00-16.30 น. และสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะขนาดใหญ่สามารถติดต่อสำรองพื้นที่กันก่อนได้อีกด้วย สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง โทร 038 020 510, 038 894 378
เป็นยังไงบ้างคะ...น่าจะถูกใจเหล่าบรรดานักกางเต็นท์ที่อยากสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด จริง ๆ แล้วสถานที่กางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ ยังมีอีกมากมาย เอาเป็นว่าลองเลือกที่ชอบแล้วหาโอกาสไปสูดอากาศบริสุทธิ์ เฝ้ามองธรรมชาติที่เขียวขจีกันดูนะคะ ^^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2559
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก, , , , , , เฟซบุ๊ก ตชด.137 สวนผึ้ง ราชบุรี, pasakdam.com, suphan.biz, เฟซบุ๊ก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว