เที่ยวปีนัง กับ 10 สถานที่เที่ยวปีนังห้ามพลาด ใครอยากสัมผัสบรรยากาศชิล ๆ ชมวิถีชีวิตแบบสโลวไลฟ์ ต้องลองไปเที่ยวปีนังกันสักครั้ง

อ่าน 2,293

เที่ยวปีนัง กับ 10 สถานที่เที่ยวปีนังห้ามพลาด ใครอยากสัมผัสบรรยากาศชิล ๆ พร้อมทั้งเสพงานศิลป์แบบฮิป ๆ เที่ยวชมวิถีชีวิตแบบสโลวไลฟ์ ต้องลองไปเที่ยวปีนังกันสักครั้ง

ปีนัง เกาะเล็ก ๆ ทางฝั่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย ดินแดนแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริงของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก อดีตปีนังเป็นดั่งไข่มุกแห่งเอเชีย ซึ่งกลิ่นอายแห่งความเจริญรุ่งเรืองภายในอดีตได้ส่งต่อมายังรุ่นลูกรุ่นหลาน เมื่อเมืองเก่าแก่มาหล่อหลอมกับวัฒนธรรมสมัยใหม่ ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของนักเดินทางรุ่นใหม่ที่โหยหาอดีต และอยากมีพื้นที่เล็ก ๆ เพื่อการใช้ชีวิตแบบเนิบช้าในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ปัจจุบันปีนังกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง มีนักเดินทางจากทั่วโลกเข้ามาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย และสำหรับใครที่กำลังวางแผนจะไปเยือนปีนัง วันนี้เรามีที่เที่ยวปีนังมาแนะนำ จะมีที่ไหนบ้างไปดูกัน

1. Camera Museum

ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Camera Museum

Camera Museum พิพิธภัณฑ์กล้องถ่ายรูปแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวมาเมื่อเดือนกันยายน ปี 2013 ตั้งอยู่บนถนน Lebuh Muntri ใจกลางย่านจอร์จทาวน์ เป็นที่เที่ยวสุดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ชอบการถ่ายรูป เพราะที่นี่ได้จัดแสดงกล้องถ่ายรูปไว้มากมายหลากหลายแบบ บ่งบอกเรื่องราวและวิวัฒนาการของการถ่ายภาพตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และยังจัดนิทรรศการให้น่าสนใจ โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยสร้างสีสันให้การเดินเล่นในพิพิธภัณฑ์ไม่น่าเบื่อ สามรถเดินเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน

2. วัดเก็กลกสี่ (Kek Lok Si)

ภาพจาก gracethang2 / shutterstock.com

วัดเก็กลกสี่ หรือชื่อในภาษาอังกฤษเรียกว่า Temple of Supreme Bliss เป็นวัดพุทธลัทธิเต๋าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในปีนัง และยังเป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาอีร์อิตัม (Air Itam) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1891 มีสิ่งที่น่าสนใจ อาทิ หอสวดมนต์ เจดีย์ หอระฆัง และสระเต่า เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงตรุษจีนจะมีการประดับประดาตกแต่งวัดอย่างสวยงามด้วยโคมไฟจีนมากมาย เป็นความประทับใจที่ปีนังมอบให้กับนักท่องเที่ยว วัดแห่งนี้สามารถเข้าได้ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม

3. ชุมชนชาวประมงเก่าแก่ (Chew Jetty)

เกาะปีนัง ล้อมรอบไปด้วยทะเล ซึ่งแน่นอนว่าคนพื้นเมืองในอดีตจะมีอาชีพประมงเป็นหลัก โดยปัจจุบันยังคงมีชุมชนชาวประมงเก่าแก่ตั้งอยู่ คนท้องถิ่นจะเรียกกันว่า Chew Jetty ชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณจอร์จทาวน์ ใกล้กับ Penang Ferry Terminal บ้านเรือนต่าง ๆ จะเป็นอาคารไม้เก่าแก่ ผสมผสานกับศิลปะแบบจีน สามารถเดินเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน มีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก พร้อมทั้งยังมีบรรยากาศเงียบสงบ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ชุมชนแห่งนี้น่าหลงใหล

4. จอร์จทาวน์

ภาพจาก yanatul / Shutterstock.com

จอร์จทาวน์ (George Town) ไฮไลท์สำคัญของเกาะปีนัง เพราะบริเวณนี้รายล้อมไปด้วยบ้านเรือนเก่าแก่สวยงามมากมาย โดยมีสถาปัตยกรรมแบบจีนผสมยุโรป คล้ายกับบ้านเรือนสไตล์ชิโนโปรตุกีสในจังหวัดภูเก็ต เสน่ห์ของจอร์จทาวน์ไม่ได้มีเพียงแค่อาคารบ้านเรือนสวย ๆ เหล่านี้เท่านั้น แต่ยังมีการสอดแทรกงานศิลปะสุดเจ๋งของศิลปินรุ่นใหม่ลงไปที่ผนังเก่า ๆ ทำให้บ้านเมืองแห่งนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น จิบกาแฟโบราณยามเช้า ได้ใช้ชีวิตแบบเนิบช้าที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย

ทั้งนี้จอร์จทาวน์ได้รับการจดทะเบียนให้เป็น World Heritage Site โดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2008

5. คฤหาสน์เฉิงฟัตเจ๋อ (Cheong Fatt Tze Mansion)

ภาพจาก Attila JANDI / shutterstock.com

คฤหาสน์เฉิงฟัตเจ๋อ (Cheong Fatt Tze Mansion) หรือคฤหาสน์สีฟ้า (Blue Mantion) ตั้งอยู่บนถนน Leith ในบริเวณจอร์จทาวน์ด้วยเช่นกัน เคยเป็นคฤหาสน์เก่าแก่ของเฉิงฟัตเจ๋อ บุคคลสำคัญในสมัยที่มีการจัดตั้งเขตช่องแคบปีนัง บ้านมีสถาปัตยกรรมแบบจีนผสมผสานแบบยุโรป โดดเด่นด้วยสีฟ้าเข้ม มีห้องต่าง ๆ ทั้งหมด 38 ห้อง จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่มากมาย และห้องบางส่วนยังปรับเปลี่ยนมาเป็นห้องพักสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ทั้งนี้คฤหาสน์เฉิงฟัตเจ๋อได้รับรางวัล UNESCO?s Most Excellent Project Asia Pacific Heritage Awards ในปี 2000

6. ป้อมปราการคอร์นเวลลิส (Fort Cornwallis)

ป้อมปราการคอร์นเวลลิส (Fort Cornwallis) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของปีนัง ซึ่งสามารถบอกเรื่องราวในอดีตของปีนังได้เป็นอย่างดี ป้อมปราการแห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงยุคปี ค.ศ. 1700 โดย Francis Light โดยมีการตั้งชื่อตามผู้สำเร็จราชการของอังกฤษประจำเมืองเบงกอล คือ ชาร์ล คอร์นเวลลิส ตัวป้อมปราการมีกำแพงสูงประมาณ 10 ฟุต มีทั้งโบสถ์ คุกขังนักโทษ คลังเก็บดินปืน ปืนใหญ่สำริด และอื่น ๆ อยู่ในบริเวณของป้อมปราการแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวได้โดยรอบ ซึ่งจะใช้เวลาแค่เพียง 10 นาทีเท่านั้น

7. ปีนังฮิลล์ (Penang Hill)

ปีนังฮิลล์ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในปีนัง รู้จักกันดีในนามของ Bukit Bendera ยอดเขาแห่งนี้มีความสูงประมาณ 833 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวเมืองปีนังและท้องทะเลโดยรอบที่สวยที่สุด โดยนักท่องเที่ยวสามารถที่จะนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปยังด้านบน มีระยะทางประมาณ 1,996 เมตร จะมีสถานีย่อยระหว่างทางเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมในจุดต่าง ๆ ซึ่งก็จะมีบังกะโล โฮมสเตย์ และที่พักขนาดเล็ก ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย กระเช้าไฟฟ้าที่ขึ้นไปยังยอดเขาจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.30-23.00 น. ตรวจสอบราคาได้ที่ penanghill.gov.my

8. วัดเจ้าแม่กวนอิม

วัดเจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่บนถนน Jalan Masjid Kapitan Keling ในย่านจอร์จทาวน์ สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1728 โดยชาวจีนฮกเกี้ยนและชาวจีนกวางตุ้ง เพื่อบูชาเจ้าแม่กวนอิมที่คอยปกปักรักษาผู้ที่เดินเรือออกทะเลทางไกล ชาวจีนจะให้ความเคารพนับถือมาก ๆ โดยเฉพาะในช่วงวันสำคัญจะมีชาวจีนเดินทางมาจากทั่วสารทิศเพื่อมากราบไหว้ขอพรเจ้าแม่กวนอิม ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมแบบจีนที่สวยงาม รวมทั้งการตกแต่งแบบจีนอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิม 18 มือ ที่งดงามตั้งอยู่ภายในวัด ซึ่งเป็นจุดสำคัญของวัดแห่งนี้

9. Batu Ferringhi Night Market

สำหรับใครที่ต้องการช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ต้องไม่พลาดไปเดินเที่ยวชมตลาดกลางคืน Batu Ferringhi ซึ่งจะมีร้านค้าต่าง ๆ มากกว่า 100 ร้านมาขายสินค้าพื้นเมือง ยาวตลอดประมาณ 1 กิโลเมตร สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นงานหัตถกรรม งานแฮนด์เมด เหมาะสำหรับการซื้อไปเป็นของที่ระลึกและเป็นของฝาก ตลาดแห่งนี้จะเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ไปจนถึงประมาณ 21.00 น.

10. บ้านสกุลคู (Khoo Kongsi)

ภาพจาก R.M. Nunes / shutterstock.com

บ้านสกุลคู (Khoo Kongsi) เป็นบ้านเก่าแก่ของชาวจีนฮกเกี้ยนประจำตระกูลสกุลคู สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1890 โดยมีการเล่าสืบต่อกันมาว่าในสมัยนั้นบ้านหลังนี้มีความสวยงามหรูหราโอ่อ่าเทียบเท่ากับพระราชวังของจักรพรรดิจีน ซึ่งทำให้เทพเจ้าเคืองโกรธจนทำให้ไฟไหม้บ้านตั้งแต่วันแรกที่สร้างเสร็จ และมีการสร้างใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1902 และตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนเกาะปีนังมาจนถึงปัจจุบัน

บ้านหลังนี้มีสถาปัตยกรรมแบบจีน ตัวบ้านใช้เสาไม้ขนาดย่อมรองรับน้ำหนักของหลังคา ซึ่งมีกระเบื้องสีแดงเป็นรูปทรงโค้ง ด้านบนหลังคามีรูปสลักมังกร หงส์ สัตว์ในตำนาน รวมทั้งภาพวาดตามตำนานจีนมากมาย ด้านในบ้านตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และวัสดุอื่น ๆ ที่มีราคาแพงและมีความประณีตละเอียดอ่อน ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของปีนังที่ห้ามพลาดเลยเชียว

เกาะปีนัง แม้ว่าจะเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ แต่ที่นี่ก็มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย สามารถเที่ยวได้โดยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน เดินทางได้ง่ายดายจากกรุงเทพฯ และที่สำคัญยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงอีกด้วย ใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน และอยากลองใช้ชีวิตแบบช้า ๆ ปีนังถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่เล่นเลยล่ะค่ะ :)

ขอขอบคุณข้อมูลจากthaiembassy.org, thecameramuseumpenang.com, malaysia.travel, visitpenang.gov.my, penang.ws, wonderfulmalaysia.com, cheongfatttzemansion.com, penanghill.gov.my, penang.attractionsinmalaysia.com, penang.ws, khookongsi.com.my



บทความแนะนำ


ผู้หญิงคุยกันน้อยลงไม่สนใจทำตัวห่างเหินผู้ชายเซ็กส์ตาตุ่มดำสูตรน้ำมะนาวสูตรเกลือความรักทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก