เริงร่าท้าฝน! เปิด 5 เส้นทางเที่ยวกรีนซีซั่น ยิ่งฝนพรำยิ่งสวยไปอีก!

อ่าน 9,447

ได้เวลาสนุกแล้วสิ! สายฝนโปรยปรายลงมาให้เย็นฉ่ำชื่นใจ ถึงฝนจะตกแต่ขาเที่ยวอย่างเรายังคงสตรอง เพราะฤดูนี้มีที่เที่ยวสวยๆ เยอะแยะไปหมด ออกไปสูดอากาศดีๆ ต้อนรับฝนแรกแห่งปี 2559 กันเถอะ

คู่มือเที่ยว ไทยรัฐออนไลน์ สัปดาห์นี้ จะพาคุณไปส่องแหล่งท่องเที่ยวหน้าฝนที่น่าสนใจ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก พอไปกันไหว มีวันหยุดแค่ 2 วัน ก็สามารถเที่ยวได้ชิลๆ ที่กินที่พักก็ไม่แพงเกินไป

เอาล่ะนะ ไม่รอช้าแล้วนะ มีที่ไหนบ้าง ตามมาดู...

1. น้ำตกเจ็ดคต โป่งก้อนเส้า จ.สระบุรี

ที่แรกเลยที่อยากแนะนำ คือ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ที่น่าสนใจเพราะ ข้อแรก ใกล้กรุงเทพฯ, ข้อสอง มีเส้นทางเดินป่าเขียวครึ้มสวยงาม, ข้อสาม มีเห็ดแชมเปญอันเลื่องลือที่ใครๆ ก็อยากไปตามล่าภาพสวยๆ มาให้ได้

นอกจากนี้ ยังมีพืชป่านานาพันธุ์ให้ชม เช่น เอื้องหมายนา ดอกพนมสวรรค์ ต้นไคร้น้ำ เฟิร์นก้านดำ กระแตไต่ไม้ ฯลฯ และสัตว์นานาชนิด เช่น ปูหิน แมลงปอน้ำตก และผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์

งานนี้รีบแพลนรัวๆ ไปช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ก็ได้ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯ แห่งนี้ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สำคัญพอๆ กับเขาใหญ่ มีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทาง มีบริการบ้านพัก มีจุดให้กางเต็นท์ และมีร้านค้าสวัสดิการขายของใช้จำเป็น อาหารแห้ง ของที่ระลึก และขนมขบเคี้ยวบ้างเล็กน้อย

การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ วิ่งไปตามถนนพหลโยธิน แยกขวาไปทางจังหวัดนครราชสีมา (ถนนมิตรภาพ) ประมาณ 20 กม. กลับรถหน้าเทศบาลทับกวาง ตรงไปอีกนิดจะเห็นแยกซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 20 กม. ก็ถึงแล้ว ระยะทางประมาณ 130 กม. ใครอยากติดต่อบ้านพัก สอบถามได้ที่ โทร. 08-9237-8659, 08-5968-3520, 08-0019-2762

2. ทุ่งดอกกระเจียว จ.ชัยภูมิ

เริ่มต้นแล้ว ณ บัดนาว สำหรับเทศกาลท่องเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียว บานเต็มลานหินกว้าง ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต และอุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ช่วงหน้าฝนที่นี่จะคึกคักทุกปี เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ปีนี้เขาจะเปิดป่าให้เที่ยวชมวันที่ 18 มิ.ย. 2559 นี้นะจ๊ะ

ปีนี้ ทุ่งดอกกระเจียว มีให้ชมได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ส.ค. 2559 แพลนวันเที่ยวล่วงหน้าได้ยาวๆ ไม่ต้องรีบร้อน สำหรับงานเทศกาลนี้ นอกจากจะได้พบกับทุ่งดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งแล้ว ยังมีการจัดนิทรรศการต่างๆ เช่น การจำหน่ายสินค้า OTOP การเดินป่าไปชมวิวสุดแผ่นดิน ทุ่งบัวสวรรค์ และลานหินงาม เป็นต้น

การเดินทาง : ใครอยากไป ลองสอบถามที่พัก และกิจกรรมต่างๆ ก่อนก็ได้ที่ อำเภอเทพสถิต 0-4485-7099, อบจ.ชัยภูมิ 0-4481-1376, อุทยานแห่งชาติไทรทอง 08-1877-8485 และ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม 0-4489-0105

3. ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

อีกแห่งหนึ่งที่น่าไปและไม่ต้องรอ สามารถไปเที่ยวล่าทะเลหมอกได้เลยตอนนี้ นั่นคือ ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ จากการสอบถามคร่าวๆ ณ วันที่ 4 พ.ค. 2559 ผู้ให้บริการบ้านพักบนภูทับเบิกบอกว่า ช่วงนี้ฝนตก ทำให้เริ่มมีทะเลหมอกฝนมาให้ชมกันแล้ว ส่วนใครที่กลัวฝนฟ้าคะนอง ไม่ต้องห่วงเพราะฝนไม่ได้ตกหนักแบบพายุเข้า แต่ตกเบาๆ ปรอยๆ เท่านั้นเอง

สำหรับ ภูทับเบิก ถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ชมได้เกือบ 360 องศา สามารถมองเห็นยอดเขาและสายหมอกลอยไหลไปตามท้องฟ้า ยิ่งไปเที่ยวช่วงเดือน มิ.ย.-ต.ค. มักจะเห็นทะเลหมอกได้ง่ายกว่าหน้าหนาว

การเดินทาง : ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ต.วังบาล จากตัวเมืองเพชรบูรณ์ วิ่งมาตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ประมาณ 40 กม. ถึงสี่แยกหล่มสัก ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 ตรงไปจนเห็นป้ายทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ทางหลวง 2011 จากนั้นตัดเขาสู่ทางหลวง 2331 อีก 40 กม. ถึงด่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากนั้นตรงไปอีกแล้วแยกขวาเข้าทับเบิก 6 กม.

4. เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

มาถึงแหล่งท่องเที่ยวหน้าฝนที่ยังคงฮอตฮิตทุกปี อย่าง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขวัญใจคนเดิมของมหาชนคนชอบเที่ยว ที่นี่เขามีเส้นทางธรรมชาติหลากหลายแห่ง ไปชมน้ำตกสวยๆ พืชพรรณไม้ป่าเขียวขจี มีความหลากหลายทางชีวภาพไม่แพ้ผืนป่าแห่งอื่นๆ อ้อ! แต่ระวังทากดูดเลือดด้วยล่ะ

สำหรับเส้นทางเที่ยวป่าที่น่าสนใจ ได้แก่ เส้นทางจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวกรองแก้ว ไปยังอ่างเก็บน้ำเหวสุวัต เดินเท้าประมาณ 8 กม. ต้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยนำทาง ใช้เวลา 4-5 ชม. ระหว่างทางได้ชมพืชพรรณสวยๆ เยอะ และอีกหนึ่งเส้นทางก็คือ จากจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้ ไปยังน้ำตกเหวสุวัต เดินเท้า 3 กม. เดินเลียบลำธาร ผ่านน้ำตกผากล้วยไม้ ไปถึงน้ำตกเหวสุวัต ที่นี่มีบริการบ้านพัก และมีจุดให้กางเต็นท์

การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ วิ่งไปตามถนนพหลโยธิน ผ่านรังสิต-สระบุรี พอเจอทางแยกก่อนถึง อ.ปากช่อง กม.ที่ 58 ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนธนะรัตน์ ผ่านด่านเขาใหญ่ มุ่งตรงสู่ที่ทำการอุทยานฯ ระยะทางประมาณ 190 กม.

5. ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์

อีกหนึ่งสถานที่ที่อยากแนะนำสำหรับปี 2559 ก็คือ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ว่ากันว่าที่นี่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้อยู่มาก ส่วนยอดภูสอยดาว อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว ก็คือช่วงฤดูฝนนี่แหละ เริ่มไปได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ประมาณ ส.ค. 2559

เส้นทางที่น่าไปสัมผัส ได้แก่ จากน้ำตกภูสอยดาว ขึ้นไปยังยอดภู ระยะทางประมาณ 7 กม. ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-5 ชม. ระหว่างทางอาจพบดอกไม้ป่าหายาก เช่น หงอนนาค สร้อยสุวรรณา เอื้องหมายนา ลิลลี่ป่า ลิ้นมังกร กระดุมเงิน ว่านไก่แดง เป็นต้น

การเดินทาง : จากตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1047 (อุตรดิตถ์-น้ำปาด) จนถึงน้ำปาด แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1239 ตรงไปยาวๆ 47 กม. แล้วตัดเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1268 ตรงไปอีก 18 กม. ถึงที่ทำการอุทยานฯ ระยะทางประมาณ 133 กม. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โทร. 0-5543-6001-2

ออกเดินทางท่องเที่ยว เพิ่มพลังชีวิตกันเถอะ



บทความแนะนำ


ผู้หญิงเชฟโรเลตsmartphoneสมาร์ทโฟนโอกินาวาความสวยความงามเฝ้าระวังพายุไต้ฝุ่นไต้ฝุ่นทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก