เหวอีอ่ำ (ปราจีนบุรี) มันส ว ย มากกกก!! 2วัน 1คืน 700 บาท ราคาชุ่มฉ่ำจริงๆ

อ่าน 10,107

ได้เวลาเที่ยวฤดูฝนแล้วครับ แล้วจะไปไหน....ไม่ต้องคิดเลย ก็น้ำตกไงละ น้ำตกในพื้นที่ป่าเขตร้อนอย่างบ้านเรามีเยอะมากๆๆๆๆ ใส่ไม้ยามกไปเยอะๆ เลยแต่ละที่สวยๆ ทั้งนั้น มีทั้งที่ที่มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปไกลถึงนอกโลก... เด่วๆๆ เอาแค่ในโลกพอ อย่างน้ำตกทีลอซู ไปจนถึงน้ำตกที่ยังไม่มีใครรู้จัก หรือแม้กระทั้งน้ำตกที่ยังไม่เปิดให้เข้าไปท่องเที่ยวก็ตาม สำหรับ เหวอีอ่ำ ก็คือหนึ่งในน้ำตกที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แฝงตัวอยู่ในอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) ที่ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดนครราชสีมา นครนายก ปราจีนบุรี และสระบุรี น้ำตกเหวอีอ่ำ อยู่ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี อ.ประจันตคาม อยู่ในการดูแลของหน่วย ขญ.11(คลองเพกา) การเดินทางนี้ง่ายนิดเดียว และที่สำคัญ ไม่ไกลจากกรุงเทพด้วย เหมาะกับคนกรุงมากๆ

สมาชิกทั้งหมด 11 คน : พี่เก่ง พี่แอ้ม พี่หนุ่ย พี่ฝ้าย พี่กัญ แซม ไก่ น้องซี น้องแบงค์ น้องนก น้องหยก

อุปกรณ์การค้างแรม : เตนท์ เปลมุ้ง ไฟล์ชีท กราวด์ชีท เตาแก๊สสนาม ชุดหม้อสนาม เชือกฟาง อุปกรณ์ทำครัว อาหารแห้ง ขนม ผักฯ

การเดินทาง : เราเดินทางกันด้วยรถส่วนตัว 2 คันครับ เพราะคนเยอะ หารค่าน้ำมันกันไม่กี่บาทเอง ช่วยประหยัดได้เยอะเลย แต่ไม่สามารถขับเข้าไปถึงตัวน้ำตกได้

รถที่สามารถนำเข้าไปถึงน้ำตกได้: คือ รถมอเตอร์ไซต์ และรถโฟวิว เท่านั้นครับ

*** ก่อนเดินทางต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อนนะครับ จะได้เตรียมเจ้าหน้าที่นำทางไว้ให้เราในกรณีที่ไปค้างคืน 086-2475936 (ขญ.11) : โทรคุยสอบถามก่อนเดินทางได้เลยครับ

ปล.ข้อมูลบางอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้ อยากรู้อะไรเพิ่มเติม หลังไมค์ ได้เลยครับ ^^

ขับไปเส้น กทม-นครนายก-ปราจีนบุรี-อ.ประจันตคาม แล้วแยกซ้ายที่ตลาดปิงติดกับโลตัส เข้าเส้นทางหลวงชนบท 1020 ตรงเข้าไปยังหน่วย ขญ.11(คลองเพกา) ตามแผนที่เลยครับ ^^

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2558 (กทม. - น้ำตกเหวอีอ่ำ)

นัดรวมตัวกัน 7 โมงเช้าเพื่อเตรียมตัวเดินทาง รอโน้นรอนี้ กว่าจะได้ออกก็เกือบ 9 โมง โน้นนน สายตามคาดครับ 5555 ไม่เป็นไรไม่รีบ ปราจีนแค่นี้เอง ขับไปตามแผนที่ด้านบนนั้นได้เลยครับ แต่กว่าจะไปถึง ก็ 11 โมง ก็พี่แกเล่นแวะตลอดทาง เข้าปั๊ม 5 รอบ แวะซื้อแตงโมอีกกก กะจะเอาไปกินฟินๆ ริมน้ำตก 555 งานนี้ก็เลยต้องเลื่อนนัดพี่เจ้าหน้าที่เค้า มาถึงก็ต้องลงทะเบียนนักท่องเที่ยว แบ่งสัมภาระกัน เพราะพวกเราไม่ได้จ้างลูกหาบก็ต้องแบกกันเอาเองครับ ทางคงชิวๆ เดินสบายอยู่แล้ว งานนี้เลยจัดไปแบกคนละ 10 กว่ากิโลบนหลัง จากจุดนี้ไปยังจุดเดินเท้าเราต้องนั่งรถของเจ้าหน้าที่ไป เพราะบริเวณนั้นไม่มีที่จอดรถ และไม่มีคนดูแล ฉะนั้นต้องจอดไว้ที่ ขญ.11

ได้เวลา... เดินแล้วครับ จากนี้ไป เราต้องเดินไปพิชิตน้ำตกด้วยระยะทาง 4 กิโลเมตร เดินช่วงแรก สบายๆ เพราะแต่ก่อนเป็นทางที่เอาไว้ให้รถยนต์วิ่ง ตอนนี้ปิดห้ามไม่ให้เอารถยนต์ส่วนตัวเข้าไปแล้ว ต้องเดินเข้าไปได้อย่างเดียว และสามารถเอารถโฟวิวเข้าไปได้ แต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อน

เห็นเดินชิวๆ แบบนี้ จริงๆ แล้วไม่ชิวเลยนะครับ แอบโหดอยู่นะ ทางที่นี้

เดินไปสักพัก ทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดชัน ยิ่งเดินก็ยิ่งไต่ขึ้นไปสูงเรื่อยๆ ไม่มีทางราบให้ได้เห็นเลย เดินไปพักไป ของบนหลังก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่อยากจ้างลูกหาบเองนิครับ งานนี้เรียกเหงื่อได้เยอะเลย

เดินมาได้ราวๆ 2 กิโลกว่าๆ ก็มีรถโฟวิวเข้ามา เป็นรถที่เข้ามาเที่ยวน้ำตกเหมือนกัน แต่ไปกลับไม่ได้ค้างคืน โชคดีของเราละที่นี้ก็โบกสิครับ ขอฝากสัมภาระทั้งหมดที่มีไปกับรถเลย เอาไปแต่ของพอ ส่วนตัวเองและเพื่อนๆ ขอเดินเล่นซึมซับบรรยากาศธรรมชาติของสองข้างทางไปเรื่อยๆ ดีกว่า ครับ (พูดดูดีมาก แต่เปล่าเลย ของมันเต็มรถพอดี 5555) ทางจะชันแบบนี้ได้ ตลอด 3 กิโลเมตร จน กิโลเมตรสุดท้าย จะเป็นทางราบ คราวนี้ก็เดินสบายแล้ว แถมยังเดินตัวปลิวอีก ชีวิตดี๊ดี พูดเลย

ทางราบสุดท้ายก่อนถึงตัวน้ำตกจะเป็นพื้นที่ป่าปลูก ส่วนใหญ่เป็นพวกยางนา ปลูกเต็มสองข้างทางเลย ก็เดินชิวๆ ไปเรื่อยๆ ไม่นานก็ได้ยินเสียงน้ำตกดังอื้ออึง....(เดี๋ยวๆ อื้ออึงนี้มันเสียงน้ำตกเหรอวะครับ) อยู่ไม่ไกลแล้ว ตอนนั้นความเหนื่อยทุกอย่างได้มลายหายไปหมดสิ้นแล้ว เพราะใจมันจดจ่อที่จะได้ไปกระโดดน้ำตกแล้ว จนลืมความเหน็ดเหนื่อยไปหมดเลย เย้...

ข้าสู่ช่วงคนแคระนำทาง สองคนนี้กำลังเถียงกันว่าใครสูงกว่ากัน ??

ได้ยินแค่เสียงก็ดีใจแล้วครับท่าน อีกอึดใจเดียวเท่านั้น ตอนนี้ บ่าย กว่าๆ แล้ว ข้าวเที่ยงก็ยังไม่ได้กินเลยครับ หิวก็หิว เพราะพวกเราตั้งใจว่า จะไปกินข้าวเที่ยงที่เตรียมมาที่ริมน้ำตก...ใช่เหรอออ ได้ข่าวว่า ฝากของทั้งหมดไว้ที่รถหมดแล้ว น้ำอะไรก็ไม่ได้ติดตัวไว้ ห่ะๆๆๆ ห่วงแต่สบายจนลืม น้ำลืมอาหารหมดเลย ดีจริงๆ

***อย่าลืมพกอาหารเที่ยงขึ้นมากินระหว่างทางด้วยนะครับ เน้นพวกอาหารแห้งกินง่ายๆ เช่น ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ไก่ย่าง ที่สามารถเก็บไว้ได้นานๆ

สวรรค์... พวกเรามาถึงแล้วครับ น้ำตกเหวอีอ่ำใช่เวลาทั้งหมด ราว 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่จุดที่เรายืนอยู่คือด้านบนของตัวน้ำตกครับ ไม่ใช่ด้านล่างที่จะเห็นตัวน้ำตกทั้งหมด ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดที่เราใช้ในการพักค้างคืนกันที่นี้

สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ กางเตนท์ คลุมไฟล์ชีท เนรมิตสถานที่นอนให้เหมือนเพระราชวังกลางป้าใหญ่ 555 ทุกอย่างรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ เพราะหิวข้าวมาก ๆๆ อาหารเที่ยงวันนี้คือ ข้าวเหนี่ยวหมูย่าง/หมูฝ๋อย เพิ่มระดับความอร่อยโดยการไปนั่งกินริมน้ำตกกันเลยทีเดียว ตบท้ายด้วยแตงโม 1 ลูก กลางป่าได้กินแค่นี้ก็สุดๆ แล้วครับ เห้อ นี้แหละเค้าเรียกว่า "ความสุข"^^

ด้านบนน้ำตกจะเป็นแค่ลำธารน้ำไหลธรรมดามากๆ สามารถเล่นน้ำได้ ถ้ามองจากด้านบลลงมาด้านล่าง ในช่วงเที่ยง-บ่าย เราจะเห็นสายรุ้งออกมาเล่นน้ำด้วยครับ ประทับใจจริงๆ

แต่ความสุข มันกำลังจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้ต่างหากละครับ เพราะพวกเรากำลังจะลงไปถ่ายรูปเล่นน้ำกันข้างล่างตัวน้ำตก ทางลงจะอยู่ ใกล้ๆกับห้องน้ำ ที่นี้มีห้องน้ำด้วยนะครับ แต่ว่ายังใช้ไม่ได้ ทางลงค่อนข้างชันมากๆ ได้โหนเถาวัลย์กันมันเลยครับ

ก่อนจะดูภาพต่อจากนี้ไป รบกวนเปิด เพลง ฟิน ของ 25 Hour ท่อนฮุก หรือไม่ก็ คำตอบที่ใช่ ตามไปเลย รับรองเข้าถึงเพลงแน่นอน 555

?ดื่มด่ำวันนี้ให้ชื่นใจ ปล่อยวันพรุ่งให้มันเป็นไป อยู่ตรงนีทั้งหัวใจ เธอทำฉันฟินที่สุดกว่าใคร?

ไปโดดน้ำตกกันครับ...

โห มันสวยมาก ยิ่งใหญ่อลังการสุดๆ ไม่เคยคิดเลยว่า ที่เขาใหญ่จะมีน้ำตกที่สวยขนาดนี้ มาก่อน ผมว่าสวยกว่า น้ำตกดังๆ ในเขาใหญ่อีก ซ้ำยังเล่นน้ำได้อีกด้วย เดินทางก็ไม่ไกล คุ้มค่ากับการเหนื่อยมาก ตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกมาที่นี่อีกครั้งจากที่พลาดมาเมื่อปีที่แล้ว สุดจะบรรยายภาพแห่งความประทับใจตรงหน้าจริงๆ

เห็นน้ำแรงขนาดนี้ ก็สามารถเล่นน้ำได้นะครับ โดดน้ำกันสนุกไปเลยยยย เป็นการเล่นน้ำตกที่สนุกมาก ถึงแม้ว่ามันจะหนาวมากๆ ก็ตาม ห่ะๆๆ ตัวสั่นกันหมดเลย

มากันเป็นหมู่คณะ อย่าถ่ายแต่ภาพเดี่ยวครับ รูปหมูก็ต้องมา

เห็นภาพเบลอๆ แบบนี้ แต่ความสนุกไม่เบลอเหมือนภาพเลยครับ มันชัดเเจ๋วเลย

-----------------

แต่ละคนก็พกตัวละครประจำตัวมาด้วยครับ พากันมาอวดโฉมริมน้ำตก

เล่นน้ำข้างล่างเสร็จแล้ว ก็กลับขึ้นมาล้างตัวกันต่อข้างบนครับ มานอนแช่อ่างน้ำออนเซ็น เห้อออออ ถอนหายใจด้วยความฟิน ฟิน ฟิน แล้วก็ฟิน เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ ครับ แปปเดียวพระอาทิตย์ก็ตกแล้ว เป็นสัญญาณบอกว่า ได้เวลา ทำอาหารแล้วววว

ทีมแม่บ้านทำเป็นอย่างเดียวคือ... เด็ดผัก ???

-----------------

ค่ำนี้ เราทำสุกี้กินกัน เป็นสุกี้หม้อใหญ่มากๆ ใส่ทุกอย่างที่ทุดคนในกลุ่มอยากจะใส่ลงไป ใช้เตาแก๊สสนามในการต้มสุกี้หม้อนี้ กองไฟเราก็ก่อนะครับ แต่ไม่ยอมไปใช้กันไม่รู้ทำไม 555 มาใช้เตาสนามให้เปลืองแก๊สกันเล่นๆ กองไฟก็ปล่อยให้มันทำหน้าที่ไล่แมลงไปเล่นๆ ไป กิจกรรมยามดึกก็ไม่มีไรมากครับ พูดคุยสังสรรค์ กันตามปรกติทั่วไป ช่วงดึกฝนตกหนักเลยครับ โชคดีที่เราอยู่ในร่มไม้ ลมจึงไม่แรงมาก วังของเราจึงปลอดภัย

วันอาทิตย์ ที่ 30 สิงหาคม 2558 : น้ำตกเหวอีอ่ำ-น้ำตกธารทิพย์-เนินพิศวง-กทม.

นี้ครับ ที่นอนของพวกเรา คือรกมากกกก 5555 อย่างนี้แหละครับ ชีวิตกลางป่า

เป็นเช้าของการท่องเที่ยวที่พวกเราตื่นสายมากๆ เพราะปกติไปเที่ยวต้องตื่นก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แต่นี้ เล่นตื่นกัน 8 โมงเช้า ห่ะๆๆๆ เป็นการพักผ่อนจริงๆ อาหารเช้าเป็นมาม่าต้ม กินง่ายๆกิจกรรมเช้านี้เราปล่อยตามอัทธยาศัย ใครอยากเล่นน้ำเล่น ใครอยากลงไปถ่ายน้ำตกด้านล่างก็ไป ใครจะนอนต่อก็นอนไป มีกำหนดการออกจากที่นี้ ตอน 11 โมงเช้า

วันนี้น้ำตกจะน้ำเยอะกว่าเมื่อวานเยอะมากๆ เพราะเมื่อคืนฝนตก ฉะนั้นน้ำตกวันนี้จึงสวยกว่าเมื่อวานเยอะมากๆ ด้วยจำนวนน้ำที่เยอะกว่า ทำให้น้ำไหลแรงกว่า สงผลให้ละอองน้ำฟุ้งกระจายมากขึ้น เป็นอุปสรรคแก่การถ่ายรูปมากจริงๆ รูปที่ได้จึงได้แค่มุมนี้มุมเดียว

มาถ่ายรูปตอนเช้าก็สวยดีนะครับ ได้เห็นรุ้งมาเล่นน้ำหน้าน้ำตกด้วยครับ

ละอองน้ำแรงมากครับ ถ่ายภาพยากที่สุด

เห็นมั้ยครับ ว่าต่างกันแค่วันเดียวปริมาณน้ำก็ต่างกันได้ถึงขนาดนี้ ฉะนั้นเราไม่ควรคาดหวังกับธรรมชาติมากว่าเราไปเราจะต้องได้เจอแบบนี้ เห็นแบบนี้เหมือนกับในรีวิวที่เราเห็น บางทีเราอาจจะไปเห็นภาพที่สวยกว่าในรีวิว หรือมุมอื่นๆ ที่ไม่เคยมีในรีวิว และบางที่เราอาจจะไม่ได้เจอเหมือนในรีวิวก็ได้ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา สภาพอากาศ และ ฤดูกาลที่เราไป

ก่อนกลับขอเก็บภาพประทับใจกับน้องเด๋อด๋าและผองเพื่อน กับความประทับใจไม่รู้ลืม

พวกเราเดินออกจากน้ำตกกันจริงๆ ก็ตอน 12.10 น. จากเดิมที่กำหนดไว้ 11 โมง ห่ะๆๆ เหลตตลอดเลย ขากลับนี้เร็วมาก ใช่เวลาแค่ 1 ชั่วโมงเราก็มาถึงจุดขึ้นรถแล้ว เร็วมากๆ นั่งรถกลับ ขญ.11 เอารถแล้วไปกินข้าวเที่ยงที่น้ำตกธารทิพย์ ระหว่างทางเราจะผ่าน สะพาน 3 จะเป็นจุดที่ชาวปราจีนนิยมไปเล่นน้ำกันมาก ถึงมากที่สุด ถึงขั้นมีดีเจมาเปิดเพลงแดนซ์กันริมน้ำเลยครับ โคโยตี้ก็มา โหหหหห อะไรมันจะขนาดนั้น อะแมสซิ่งมากๆ ห่ะๆๆๆๆ ตอนแรกพวกเราก็กะว่าจะไปนั่งเล่นกันที่นี้เหมือนกัน แต่เห็นจำนวนคน รถ แล้ว ผมขอบายดีกว่าครับ คนเยอะมากๆๆๆ นี้ถ้าเป็นช่วงเทศกาลนะผมว่า ในน้ำคงไม่มีที่ให้น้ำอยู่แน่นอน เยอะแค่ไหน ไปดูรูปได้เลย

ทางไปน้ำตกธารทิพย์ก็ต้องขับมาทางเดิมครับ ทางที่ผ่านสะพาน 3 นั้นแหละ เลยไปไม่ไกลเท่าไหร่ ว่าไปแถวนี้น้ำตกก็เยอะมากนะครับ แต่ไม่ค่อยมีคนรู้จักกันเท่าไหร่ น้ำตกธารทิพย์ก็เป็นอีกหนึ่งในน้ำตกที่ผมก็เพิ่งรู้จักได้ไม่นาน เช่นกัน รถยนต์สามารถเข้าไปถึงตัวน้ำตกได้เลยครับ เดินเท้าแค่แปปเดียวก็ถึงตัวน้ำตกแล้ว

โหหหหห นี่มันน้ำตกสไลเดอร์ ชัดๆเลย มันน่าเล่นมาก เสียดายเราไม่รู้มาก่อนว่าเป็นแบบนี้เลยไม่ได้เตรียมชุดมาเปลี่ยนเล่นน้ำ เอาไว้บนรถหมดเลย เซงไปตามๆ กัน ได้แต่ยืนมองคนอื่นเล่นน้ำ แล้วก็ร้องโหหหหหห อย่างเดียวเลย

ดูสิครับ มันน่าสนุกขนาดไหน อิจฉา.... จังหวัดนี้มีที่เที่ยวที่อันซีนเยอะมากจริงๆครับ ที่คนต่างจังหวัดยังไม่ค่อยรู้จักกัน นี้ขนาดคนจังหวัดอื่นยังไม่รู้จักคนยังเยอะขนาดนี้ ถ้ารู้จักกันมากขึ้นผมว่า คนคงไม่ต่างจากสะพาน 3 แน่ๆ 55555

นี้ยังมีจุดให้กระโดดน้ำอีกนะครับ เด็กวัยรุ่นมากระโดดกันเต็มเลย แต่ป้ายด้านบนเขียนว่า ห้ามลงเล่นน้ำเอ๊ะยังไง ห่ะๆๆๆ ตรงจุดนี้ ทัศนียภาพก็สวยใช้ได้เลยครับ เป็นร่องหินที่ดูแปลกตามากๆ ผมก็เลยขอเก็บภาพเด็กน้อยกระโดดน้ำมาฝาก เห็นแล้วอยากย้อนเวลากลับไปสัก 10 ปีจริงๆ นี้เรามาไกลขนาดนี้แล้วเหรอวะเนี่ยยยย

ยืนอิจฉาได้สักพัก ก็ต้องขอตัวกลับก่อนแล้วครับ เอาไว้จะกลับมาใหม่ คราวน่าจะต้องเล่นให้ได้เลย น้ำตกสไลเดอร์ หายากมากๆ ในประเทศไทยของเรา

ระหว่างทางจะกลับ ผมก็นึกชื่อ เนินพิศวง ขึ้นมาได้ เพราะว่าผ่านเส้นนี้บ่อย เห็นป้ายเนินนี้ก็บ่อย เวลายังเหลือนิครับ รถก็ขับมากันเอง ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอแวะสักหน่อยเถอะครับ จะได้หายข้องใจว่ามันพิศวงยังไง

เนินพิศวง จากที่เคยได้ยินมา เค้าว่ากันว่า เป็นเนินที่รถสามารถเคลื่อนที่ขึ้นเนินได้เอง โดยที่รถไม่ต้องติดเครื่อง ห๊ะ.... เคลื่อนที่ขึ้นเนินได้เอง จริงไม่จริงไม่รู้วันนี้เรามาพิสูจน์กัน จะเข้าทางอ่างเก็บน้ำเขาอีโต้ เป็นค่ายทหาร เป็นเส้นทางที่สวยมากๆ เป็นอุโมงค์ต้นไม้ตลอดทางเลย สวยงามตามท้องเรื่องจริงๆ จากอ่างเก็บน้ำ ขับตามป้ายขึ้นมาเรื่อยๆ ราว 7 กิโลเมตร ก็ถึงจุดเริ่มต้นของเนินพิศวงแล้ว ครับ เรามาร่วมพิสูจน์กัน

ขั้นตอนแรก ดับเครื่อง ปลดเกียร์ว่าง ไม่เหยียบแบลก พระเจ้า รถไหลเองจริงๆ ครับ ไม่น่าเชื่อว่าตำนานที่ฟังมาจะเป็นเรื่องจริง รถถอยหลังลงเนินได้เอง โหหหห มันอะแมสซิ่งมากๆ ครับ ไม่น่าเชื่อว่ารถจะสามารถไหลลงเนินได้ เอง ห่ะๆๆๆๆๆๆ ไหนมันขึ้นเนินเองได้ยังไง ผมเห็นมีแต่ไหลลงๆ แล้วก็ไหลลง โธ่ว มันช่างพิศวงสมชื่อจริงๆ เลย พิศวงจนลืมถ่ายรูปเลย มัวแต่ขำ 55555 ตลกวะ เอ้าไม่เป็นไร ข้างหน้าเห็นมีป้ายจุดชมวิว อีก 1.2 กิโลเมตร ไปเที่ยวที่นั้นก็ได้ ไปดูพระอาทิตย์ตกที่นั้นกันครับ ขับไปจนสุดทางเลยครับ จะมีที่จอดรถให้แล้วให้เราเดินขึ้นไปด้านบนครับ โห อะแมสซิ่งอีกแล้ว ครับ จุดชมวิวไม่มีอะไรเลย 5555 มีศาลาด้านบน 1 อัน และด้านล่างอีก 2 อัน เอาไว้ทำอะไรก็ไม่รู้ ที่รู้ๆคือ แม้แต่ตะวันยังไม่มีให้เห็นเลย งานนี้ พิศวงหนักมากกก 5555 เดินขำตลอดทางเลย เดินวนไปมาสุดท้ายออกมาจุดจอดรถเฉยเลย 5555 ขำหนักจริงๆ เลย ยกนิ้วให้เลย สำหรับความพิศวงของสถานที่แห่งนี้ 5555

ไม่เป็นไรๆ ยังมีอีก 1 จุดที่น่าสนใจ อย่างเพิ่งถอดใจไป อยู่ระห่างทางที่เราผ่านมานั้นเอง หวังว่าที่นี้คงไม่สร้างความพิศวงให้พวกเราอีกนะครับ นี่แหละครับ ผาหินซ้อน. ค่อยยังชั่วหน่อยครับ ที่นี้ ห่ะๆๆ หลังจากพิศวงจากที่อื่นมา 2 ครั้ง ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ก่อนจะได้เวลาอำลา สถานที่พิศวงแบบนี้ 55555 ตอนนี้ก็ หกโมงกว่า แล้วครับ ถึงเวลากลับ กทม. อย่างจริงๆจังๆแล้ว

เป็นยังไงบ้างครับ สำหรับที่ท่องเที่ยวสุดอันซีน ที่ชื่อกับความอลังการ มันช่างต่างกันเหลือเกิน ก็เหมือนกับคนนั้นแหละครับ อย่าดูแต่ภายนอก เราต้องดูให้ลึกไปถึงข้างใน เหวอีอ่ำก็เช่นกัน ต้องไปเองกับตัว ไปเห็นเองกับตา ไปสัมผัสเองกับผิวกาย แล้วคุณจะรู้จักเหวอีอ่ำมากขึ้น

ขอบคุณเพื่อนร่วมทางทุกๆ คนมากครับ ที่สร้างประสบการณ์การเดินทางที่แสนสุขสนุกสนานร่วมกัน ขอบคุณเส้นทางที่มีไว้ให้เราได้ก้าวเดินไปข้างหน้า ขอบคุณธรรมชาติที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับพวกเราขอบคุณเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น ขอบคุณทุกสิ่งอย่างขอบคุณครับ

คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับนักท่องเที่ยวนะครับ

อุทยานแห่งชาติมิได้มีไว้เพื่อการนันทนาการเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีหน้าที่สำคัญ ในการคุ้มครองและรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ ทั้งพืชพันธุ์ สัตว์ป่า และสภาพภูมิประเทศที่สวยงาม ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงต้องช่วยกันปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานแห่งชาติอย่างเคร่งครัด โดยมีสิ่งที่พึงปฏิบัติดังนี้

1. ไม่ควรส่งเสียงดัง หรือสร้างคามเดือดร้อนรำคาญให้แก่สัตว์ป่าและนักท่องเที่ยว ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในการแสวงหาความสงบสุขในอุทยานแห่งชาติ

2. โปรดอย่าขีดเขียนในที่ต่าง ๆ เพราะนอกจากจะก่อให้เกิดทัศนอุจาดแล้ว ยังเป็นการประจานนิสัยของผู้เขียนได้อย่างดี

3. ห้ามเก็บพืช ดอกไม้ หิน จับสัตว์ และสิ่งต่าง ๆ ออกจากอุทยานแห่งชาติเพราะทั้งหมดล้วนประกอบกันขึ้นเป็นธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติซึ่งทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในการชื่นชม

4. ทิ้งขยะในถังขยะที่ทางอุทยานแห่งชาติจัดเตรียมไว้ และจะดียิ่งขึ้นถ้าช่วยกันเก็บขยะที่พบเห็นตามสถานที่ หรือเส้นทางท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเท่าที่ทำได้

5. ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

6. ควรมีจิตสำนึกที่ดีต่อการท่องเที่ยวครับผม ^^



บทความแนะนำ


ทุนการศึกษาการศึกษาการศึกษาชุดชั้นในชุดชั้นในสีฟ้าทำนายนิสัยทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก