12 ที่เที่ยววันหยุดยาว มีเวลาพักผ่อนหลายวันไปนอนฝันหวานที่ไหนดี
ที่เที่ยววันหยุด ซึ่งเป็นที่เที่ยวไทยสวย ๆ ที่รอต้อนรับให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัส ทั้งธรรมชาติ บ้านเรือนเก่าแก่ และวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ พักผ่อนกันได้อย่างชิล ๆ
ช่วงวันหยุดยาวเวียนกลับมาอีกครั้ง
ถ้าใครไม่อยากเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศไกล ๆ
เมืองไทยของเราก็ยังมีที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ได้ไปชื่นชมอีกเพียบ
วันนี้เราจึงคัด 12 ที่เที่ยววันหยุดยาวมาเป็นไอเดียให้กับคนที่อยากเที่ยว ไม่อยากนั่งว่าง ๆ อยู่บ้านตลอดช่วงวันหยุดยาว จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง เราไปชมกัน
1. สัมผัสหมอก กอดธรรมชาติเขียว ๆ ณ ภูทับเบิก
เริ่มต้นอีกครั้งกับช่วงเวลาแห่งการไปเอาแขนโอบกอดหมอก
สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชื่นฉ่ำใจ โดยเฉพาะที่ "ภูทับเบิก"
ดินแดนแห่งสายหมอกสุดอลังการ ขับรถเล่นขึ้นเขาไปอย่างเนิบช้า
สองฟากฝั่งเป็นป่าเขาสีเขียวขจี
กลิ่นไอดินและหยาดน้ำฝนจะทำให้คุณยิ่งรู้สึกสดชื่น
ชมไร่กะหล่ำปลีบนภูเขาที่มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา
แล้วกางเต็นท์นอนรอเวลาที่ดาวจะโผล่มาทักทายในยามค่ำคืน
และสายหมอกที่จะยกขบวนกันมาต้อนรับกันอย่างคึกคักในช่วงเช้า
เมื่อชมทะเลหมอกจนหนำใจ ก็ต้องไม่พลาดที่จะลองชิม ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น
เลือกซื้อผักสด ๆ ผลไม้เมืองหนาวสุดอร่อย
แล้วก็ไปเยือนที่เที่ยวใกล้เคียงอย่างอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าหรือเขา
ค้อ จบทริปเที่ยวภูทับเบิกอย่างสมบูรณ์แบบ
ภาพจาก Korkusung / Shutterstock.com
2. เดินทอดน่องบน Canopy Walkway ชมธรรมชาติที่แม่ริม เชียงใหม่
อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
มีลักษณะภูมิประเทศที่เอื้อต่อการเที่ยวชมป่าเขา
ภูเขาน้อยใหญ่รายล้อมไปทั่วทั้งอำเภอ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เขียวขจี
อากาศเย็นสบาย บรรยากาศเงียบสงบ สูดอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่นได้อย่างเต็มปอด
ซึ่งที่นี่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
แหล่งรวบรวมพรรณไม้ทั้งในและต่างประเทศ
เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมพรรณไม้นานาชนิดในอาคารเรือนกระจก
และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติอื่น ๆ ที่น่าสนใจมากมาย
สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
ก็คือการขึ้นไปเดินเล่นบน Canopy Walkway
ทางเดินเหนือยอดไม้ที่มีความสูงกว่า 20 เมตรเหนือพื้นดิน ระยะทางประมาณ 400
เมตร นักท่องเที่ยวจะได้เดินอยู่ท่ามกลางต้นไม้สูงใหญ่
สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขารอบข้างได้อย่างชัดเจน
บรรยากาศเงียบสงบและอากาศก็ยังเย็นสบายอีกด้วย
นอกจากนี้ในอำเภอแม่ริมยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ ปางช้างแม่สา,
น้ำตกแม่สา, ม่อนแจ่ม, ม่อนม่วน, ไร่องุ่นเอเดน เป็นต้น
3. นอนนับดาวบนดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน
ดอยเสมอดาว ที่เที่ยวน่านสุดโรแมนติก ไม่ว่าใครได้ไปเยือนต่างก็ต้องหลงรัก
เป็นยอดดอยที่ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย
สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 888 เมตร
มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่ แม่น้ำน่าน
และทะเลหมอกได้อย่างสวยงามสุด ๆ
ไม่เพียงเท่านั้นยามค่ำคืนของที่นี่ยังเงียบสงบ ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
จะสามารถมองเห็นดาวนับแสนนับล้านดวง
ลอยเด่นส่องแสงระยิบระยับอยู่บนฟากฟ้าอย่างอลังการ
จนเหมือนกับว่าสามารถเอื้อมมือไปแตะดวงดาวเหล่านั้นได้เลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวผาหัวสิงห์อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
ซึ่งสามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา ไม่ว่าจะพระอาทิตย์ขึ้นหรือลง
ก็สามารถมองเห็นได้หมดจากจุดนี้
4. นั่งจิบกาแฟสดรสชาติหอมเข้มกลางทุ่งนาในแม่ลาน้อย แม่ฮ่องสอน
อำเภอแม่ลาน้อย เป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยหุบเขาน้อยใหญ่มากมาย
มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ภูเขายังเขียวขจี มีพืชพรรณนานาชนิด
ระหว่างหุบเขายังมีนาข้าวกว้างใหญ่ มองไปทางไหนก็เป็นสีเขียวขจีไปเสียหมด
ยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว ที่นี่จะมีอากาศหนาวเย็นมาก
ยามเช้ายังมีทะเลหมอกลอยละล่องหยอกล้อกับยอดข้าว มีแสงแดดอ่อน ๆ
ส่องกระทบบนสายหมอกสีขาวจนกลายเป็นสีทอง
ใครได้มานอนเล่นพักผ่อนกับบรรยากาศแบบนี้
รับรองได้เลยว่าจะต้องนอนหลับสบายตลอดทั้งวันทั้งคืนแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นบนภูเขาอันสูงใหญ่ของอำเภอแม่ลาน้อย
ยังเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่มีคุณภาพดีอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยอีกด้วย
การมาลิ้มลองกาแฟในชุมชนแม่ลาน้อย จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด
และอย่าลืมไปให้อาหารแกะที่ชาวบ้านเลี้ยงกันไว้ด้วยนะคะ ^^
5. ถ่ายรูปคู่กับดอกกระเจียวสีชมพูหวานที่บานสะพรั่งทั่วทั้งป่า ณ ชัยภูมิ
ช่วงฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้ป่าหลากหลายชนิดเผยโฉมความสวยงามให้เราได้
เห็นกัน หนึ่งในนั้นก็คือ ดอกกระเจียว
ซึ่งจะมีให้ได้ชมมากที่สุดในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต
และอุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ
ดอกกระเจียวมากมายหลายหมื่นหลายแสนดอกจะเบ่งบานอวดโฉมสีชมพูหวานไปทั่วทั้ง
ป่า จะมีเส้นทางเดินเล็ก ๆ
ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมดอกกระเจียวอย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะช่วงเช้าที่ฝนเพิ่งตกไปหมาด ๆ จะมีสายหมอกบาง ๆ
ลอยอยู่เหนือดอกกระเจียว
ทำให้มองเห็นสีชมพูและสีเขียวตัดกับสีขาวของสายหมอกเป็นหย่อม ๆ
สร้างทัศนียภาพที่งดงามสุด ๆ
ทั้งนี้ภายในอุทยานแต่ละแห่งก็มีจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ
ให้นักท่องเที่ยวได้เก็บความประทับใจด้วยเช่นกัน
ภาพจาก gubgib / Shutterstock.com
6. ใช้ชีวิตเนิบช้า ณ เชียงคาน เมืองที่ไม่เคยขึ้นคาน
ถ้าให้เปรียบเชียงคานเป็นผู้หญิง
เธอก็จะเป็นหญิงสาวชาวบ้านทางแถบอีสานที่สวยงามแบบเรียบง่าย อ่อนหวาน
แต่ทว่าก็ยังแข็งแกร่ง เข้มแข็ง
ซึ่งเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้ชายหนุ่มต้องหลงใหล
เข้ามาขายขนมจีบให้เธอแทบทุกวัน เมืองเชียงคาน จังหวัดเลยแห่งนี้ก็เช่นกัน
ที่ไม่เคยหลับใหล มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย
บ้านเรือนไม้เก่า ๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขง กับวิถีชีวิตของผู้คนสุดเรียบง่าย
ผู้เฒ่าผู้แก่จะตื่นกันตั้งแต่เช้า มานั่งรอใส่บาตรข้าวเหนียว
พระสงฆ์ไม่ต่ำกว่า 10 รูป จะเดินเรียงแถวฝ่าสายหมอกเข้ามาในชุมชน
บรรยากาศรอบข้างเงียบสงบ
แม้แต่เสียงกระซิบก็แทบจะกลายเป็นเสียงตะโกนไปเสียอย่างนั้น
มีเสียงสวดมนต์อันแผ่วเบา ลอยข้ามฝั่งมาจากประเทศลาว
สร้างบรรยากาศให้ยิ่งน่าหลงใหล นี่คือเสน่ห์ที่ทำให้ใคร ๆ
ก็ต้องหลงรักเชียงคาน ยิ่งไปกว่านั้นในเมืองเชียงคานยังมีร้านอาหารอร่อย ๆ
ให้ไปลิ้มลองกันอีกมากมายอีกด้วย
7. เที่ยวฟาร์มออแกนิกส์ เดินเล่นชมป่าชายเลน ดำน้ำทะเลเมียนมาจากทางระนอง
จังหวัดระนอง เป็นอีกจังหวัดของภาคใต้ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เงียบสงบ
แตกต่างจากจังหวัดอื่น ๆ ที่มักจะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว
ซึ่งนั่นก็เป็นข้อดีที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวระนองได้รับความเป็น
ส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ได้อยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง
โดยในจังหวัดแห่งนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มออแกนิกส์อย่างไร่ไออรุณ
ที่สถาปนิกหนุ่มได้พลิกฟื้นผืนดินธรรมดาให้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิง
เกษตรที่เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร หรือจะไปชมวิว ณ ภูเขาหญ้า
ซึ่งในช่วงฤดูฝนมีหญ้าสีเขียวขึ้นปกคลุมแนวเขาที่ทอดตัวจากทิศเหนือลงสู่ทิศ
ใต้สวยงามยิ่งนัก
ยิ่งไปกว่านั้นจากทางจังหวัดระนองยังสามารถที่จะไปดำน้ำดูปะการัง
ชมธรรมชาติใต้ท้องทะเลเมียนมาได้อย่างง่าย ๆ อีกด้วย
ซึ่งท้องทะเลเมียนมาก็มีความสวยงามไม่แพ้ทะเลที่ไหนในโลก
ทั้งน้ำทะเลใสสะอาด หาดทรายขาวนุ่ม มีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์
เป็นสวรรค์เล็ก ๆ ที่อยากให้ได้ไปสัมผัสกันสักครั้ง
8. ว่ายน้ำชมปะการังในท้องทะเลสีฟ้าใสบริเวณเกาะกูด จังหวัดตราด
ใครว่าหน้าฝนไปเที่ยวทะเลไม่ได้
ด้วยประเทศไทยมีทะเลทั้งทางฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน
ซึ่งแต่ละฝั่งจะมีช่วงมรสุมที่แตกต่างกัน โดยในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม
ฝนจะพากันไปหาน้ำทะเลทางฝั่งอันดามัน
เพราะฉะนั้นเราก็สามารถที่จะไปเที่ยวทะเลทางฝั่งอ่าวไทยได้อย่างสบาย ๆ
ซึ่งในท้องทะเลอ่าวไทยก็มีที่เที่ยวหลายแห่งที่มีความสวยงาม
ที่อยากจะแนะนำก็คือ "เกาะกูด" เพราะที่นี่อยู่ห่างไกลจากแผ่นดิน
สภาพของท้องทะเลจึงยังสวยงาม ราวกับสวรรค์เลยทีเดียว
ที่สำคัญยังเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นที่สุด ยิ่งถ้าใครชอบดำน้ำ
บริเวณโดยรอบของเกาะกูดก็จะมีสถานที่ดำน้ำที่มีความสวยงามมาก ๆ
อยู่หลายแห่ง
ถือได้ว่าที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ
อย่างแท้จริง
ภาพจาก SONGPAN JANTHONG / Shutterstock.com
9. เดินชมเมืองเก่าสงขลา เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคใต้ที่พัทลุง
ทางภาคใต้ของไทยไม่ได้มีดีแค่ท้องทะเลที่สวยงาม
แต่ที่นี่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยป่าเขา ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
พร้อมทั้งวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ถ้าใครชอบงานสถาปัตยกรรมเก๋ ๆ
ต้องไม่พลาดการไปเยือนเมืองเก่าสงขลา
ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของทะเลสาบสงขลา ในเขตอำเภอเมืองสงขลา
ซึ่งเป็นจุดที่มีบ้านเรือนเก่าแก่ ผสมผสานระหว่างศิลปะจีนและศิลปะตะวันตก
คล้ายกับบ้านเรือนสไตล์ชิโนโปรตุกีสในเขตเมืองเก่าภูเก็ต สิ่งที่โดดเด่นมาก
ๆ ของเมืองเก่าแห่งนี้ก็คือการนำศิลปะแนวสตรีทอาร์ตอันทันสมัย
เข้ามาช่วยสร้างสีสันให้กับที่นี่ ปลุกให้เมืองเก่าดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกใจเหล่าฮิปสเตอร์ไปได้อย่างง่ายดาย อ๊ะ
อ๊ะ...อย่าเดินเล่นเพลิน จนลืมชิมของอร่อย ๆ อันขึ้นชื่อของที่นี่ด้วยนะคะ
ถัดจากเมืองเก่าสงขลา ข้ามฝั่งทะเลสาบไปยังจังหวัดพัทลุง
ชมวิวของทะเลน้อยอันกว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตาจากบนสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80
พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ได้เห็นควายน้ำกำลังนอนเล่นในบ่อโคลนอย่างเริงร่า
พร้อม ๆ กับพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ลาลับขอบฟ้าหลังเขาที่อยู่ไม่ไกล
แล้วไปต่อในตัวเมืองพัทลุง ชิมอาหารพื้นเมืองแสนอร่อย
และชมการแสดงโนราที่มีความสวยงามมากที่สุดในเมืองไทย
เก็บความประทับใจกลับบ้านมาแบบล้นเหลือแน่นอน
10. พักผ่อนนอนชิลริมเขื่อน ณ บ้านกกกอด กาญจนบุรี
ถ้าคุณต้องการเพียงแค่ธรรมชาติ เพื่อการเติมเต็มพลังงานในร่างกาย
การได้เดินทางไปนอนพักผ่อนแบบเงียบสงบริมเขื่อนท่าทุ่งนา ณ บ้านกกกอด
ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่เล่นเลยล่ะ เพราะที่นี่ไม่มีทีวี ไม่มีแอร์
ไม่มีอินเทอร์เน็ตไร้สาย มีเพียงแค่ธรรมชาติล้วน ๆ
รอบข้างพื้นที่แห่งนี้จะมีเพียงภูเขา ทุ่งหญ้า และอ่างเก็บน้ำ
คุณจะได้นั่งอ่านหนังสือเล่มโปรดริมเขื่อนอย่างเงียบ ๆ
ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากยิ่งขึ้น
ได้มีเวลาพิจารณาว่ากาแฟในถ้วยนั้นมีรสชาติหอมเข้มเพียงใด
อีกทั้งยังได้นั่งมองสายน้ำที่นิ่งสงบ รับอากาศที่เย็นสบาย
ดูพระอาทิตย์ตกดินลงหลังเขาอย่างช้า ๆ หรือถ้าใครไม่ชอบอยู่นิ่ง ๆ
ก็สามารถกระโดดเล่นน้ำ พายเรือคายักเล่นไปรอบ ๆ ได้อย่างชิล ๆ
สร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับวันหยุดได้อย่างน่าประทับใจ
11. ล่องแก่งหินเพิงสุดมัน ความสนุกสนานบนสายน้ำของปราจีนบุรี
ภาพจาก topten22photo_720 / Shutterstock.com
สำหรับคนที่ชอบกิจกรรมผจญภัย
ช่วงวันหยุดยาวนี้ต้องไปท้าประลองความมันกับการล่องแก่งที่ได้ชื่อว่าสนุก
สนานที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย อย่างการล่องแก่งหินเพลิง
จังหวัดปราจีนบุรีกันค่ะ ซึ่งการล่องแก่งที่นี่จะมีความยากอยู่ที่ระดับ 3-5
แพยังจะนำคุณล่องไปตามสายน้ำ หลบหลีกแก่งหินในลำน้ำอย่างสนุกสนาน
บางช่วงยังท้าทาย ทั้งกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก และซอกหินเล็กแคบ
ที่ต้องฝ่าฟันไปให้ได้ เป็นความมันที่ต้องไปลองกันสักครั้ง
นอกจากนี้จังหวัดปราจีนบุรียังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ
ดาษดาแกลเลอรี่, เขาทุ่ง, The Verona at Tublan,
พิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร, อุทยานแห่งชาติทับลาน, น้ำตกเขาอีโต้,
โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ เป็นต้น
12. เริงร่าไปกับผีเสื้อหลากสีและสายพันธุ์ ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา สระแก้ว
เทศกาลชมผีเสื้อปางสีดา จะมีเป็นประจำในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกปี
ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว
ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของผีเสื้อมากกว่า 450-500 สายพันธุ์
รวมแล้วมีผีเสื้อนับแสนตัว
โดยนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเข้าไปชมผีเสื้อได้อย่างใกล้ชิด
มีจุดชมผีเสื้อที่ทางอุทยานจัดไว้ให้หลายจุด
โดยจุดที่มีความสวยงามมากที่สุด จะอยู่บริเวณลานหินดาด
ซึ่งต้องนั่งรถของเจ้าหน้าที่ผ่านป่าที่อุดมสมบูรณ์เข้าไป
บริเวณลานหินดาดจะมีผีเสื้อนับพันบินว่อนสร้างสีสันตัดกับป่าสีเขียวอย่าง
สวยงาม โดยเฉพาะในวันที่ฟ้าเปิด จะมีผีเสื้อบินออกมาหาอาหารอย่างละลานตา
นักท่องเที่ยวจึงควรไปเที่ยวชมตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น.
ในวันที่ไม่มีฝนตก ท้องฟ้าเปิด
ก็จะได้เห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในอีกรูปแบบ
แอบปักหมุดที่ไหนไว้กันบ้างคะ ถ้าชอบแนวไหน พอมีเวลา
ก็ชวนเพื่อนหรือคนในครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนกันได้เลยค่ะ
ไม่แน่นะ...คุณอาจจะค้นพบที่เที่ยวไทยใหม่ ๆ
ที่สวยงามมากกว่าโดยไม่รู้ตัวก็ได้ :)