เคล็ดลับการเที่ยวเชียงใหม่ ฉบับไม่มีรถส่วนตัว ไม่มีไกด์

เที่ยวเชียงใหม่ ไปเที่ยวเชียงใหม่ต้องเริ่มอย่างไร มีอะไรน่าสนใจ ต้องเตรียมตัวยังไงดี เรามีเคล็ดลับเที่ยวเชียงใหม่ดี ๆ มาบอกกัน

จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังไม่เคยไปเที่ยวเชียงใหม่ เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มไปเที่ยวเชียงใหม่อย่างไร วันนี้เรามีเคล็ดลับการเที่ยวเชียงใหม่มาฝากกัน ที่สำคัญคนที่ไม่มีรถส่วนตัว ยังสามารถเที่ยวเชียงใหม่ได้อย่างง่าย ๆ อีกด้วย จะมีเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับเชียงใหม่อะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

ทำไมใคร ๆ ก็หลงรักเชียงใหม่ และใฝ่ฝันอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต

เชียงใหม่ เป็นเมืองที่มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา จึงทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นสบาย เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ประกอบกับเชียงใหม่เป็นเมืองเก่าแห่งอารยธรรมล้านนา จึงยังคงมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมดั้งเดิมหลงเหลืออยู่มาก คนท้องถิ่นก็ยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว บรรยากาศทั่วไปเงียบสงบ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สวยงามมากมาย อีกทังยังมีอาหารอร่อย ๆ ให้ได้ลิ้มลองมากมาย แล้วแบบนี้จะไม่ให้หลงรักเชียงใหม่ได้อย่างไร :)

* เที่ยวเชียงใหม่ เริ่มต้นอย่างไรดี

อันดับแรก ถามตัวเองก่อนค่ะว่าลางานได้กี่วัน เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ เยอะมาก (ใส่ ก.ไก่เยอะ ๆ) เมื่อรู้วันเวลาที่แน่นอนแล้วก็จะสามารถวางแผนขั้นต่อไปได้อย่างง่ายดาย และรู้แนวทางการท่องเที่ยวว่าควรจะเที่ยวแค่ในตัวเมืองเชียงใหม่หรือจะไปเที่ยวอำเภออื่น ๆ ด้วย ถ้ามีเวลาแค่ประมาณ 3 วัน 2 คืน แนะนำให้เก็บเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองก่อนค่ะ หรือจะพ่วงที่เที่ยวในอำเภออื่น ๆ อาทิ ดอยอินทนนท์ หรือที่เที่ยวทางแม่ริมอีกเล็กน้อยก็ได้ เพราะเชียงใหม่รถไม่ได้ติดเหมือนกรุงเทพฯ ขับรถกันสบาย ๆ :) หลังจากได้กำหนดการเรียบร้อยก็เริ่มวางแผนขั้นต่อไปได้เลย

* ไม่มีรถไปเที่ยวเชียงใหม่อย่างไรได้บ้าง

การเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ มี 3 วิธี คือ

1. เครื่องบิน นักท่องเที่ยวสามารถใช้นั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ หรือสนามบินอื่น ๆ ที่มีสายการบินให้บริการเส้นทางบินเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45-60 นาที ซึ่งจะมีให้บริการทุกวัน วันละหลายเที่ยวบิน ลองเช็กตารางจากสายการบินในดวงใจของคุณได้เลย

2. นั่งรถไฟ จากสถานีขนส่งกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) เปิดให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ทุกวัน มีหลายแบบให้เลือก ใครอยากนั่งชิล ๆ ไม่เร่งงรีบก็ตีตั๋วชั้นธรรมดา แต่ถ้าไม่อยากเสียเวลาก็ตีตั๋วรถด่วนพิเศษ บอกก่อนว่าถ้าใช้วิธีนี้คุณควรมีเวลาอย่างน้อย 4 วัน เพราะแค่นั่งรถไฟขาเดียวก็ใช้เวลาไปประมาณ 10-12 ชั่วโมงแล้ว

3. รถโดยสารประจำทาง มีหลายบริษัทที่ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โดยส่วนใหญ่จะต้องมาขึ้นที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ หรือตามบริษัทรถประจำทาง ใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมง โดยส่วนมากนักท่องเที่ยวจะเลือกเดินทางตอนกลางคืน เพื่อจะได้ไปถึงเชียงใหม่ในตอนเช้า

* ที่พักเชียงใหม่

ที่พักในเชียงใหม่มีหลากหลายมาก ๆ ค่ะ ตั้งแต่โฮมสเตย์ไปถึงโรงแรมหรูหราที่ได้รับรางวัลโรงแรมดีเด่นระดับโลก เพราะฉะนั้นลองถามเงินในกระเป๋าเลยค่ะว่าไหวแค่ไหน หากต้องการแค่ที่พักเอาไว้นอนเฉย ๆ ก็มีโฮสเทลหลายแห่งในเชียงใหม่ที่ออกแบบอย่างสวยงาม สะอาดสะอ้าน อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว แต่ราคาเบา ๆ ไว้รองรับเพียบ

แต่ถ้าหากคุณชอบแนว Full-Service มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ก็ต้องยอมจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อพักโรงแรมมีระดับ ก็อยู่ที่คุณเลือกแล้วละค่ะ ว่าชอบแบบไหน

* ถึงเชียงใหม่แล้วไปไหนต่อ

ไม่ว่าจะเดินทางมาถึงเชียงใหม่ด้วยวิธีไหน อยากจะแนะนำให้ไปเช็กอินที่โรงแรมก่อน ถึงแม้ว่าทางโรงแรม หรือเกสต์เฮาส์จะยังไม่ให้เช็กอินก็ตาม แต่ส่วนใหญ่จะให้ฝากกระเป๋าไว้ก่อนได้ ในกรณีนี้ต้องไม่ลืมหยิบข้าวของที่มีค่าไปด้วยนะคะ แต่ถ้ามาถึงช่วงสาย ๆ หรือเที่ยงก็กินข้าวก่อนแล้วก็ไปเช็กอินได้เลย

* จะเดินทางไปไหนอย่างไรในเชียงใหม่

มาถึงเชียงใหม่แล้วจะไปไหนมาไหนยังไงดีล่ะ จะเข้าไปเช็กอินที่ที่พักก่อนก็ไม่รู้จะไปยังไง ขับรถยนต์หรือขี่รถมอเตอร์ไซค์เป็นไหมคะ ?...ถ้าตอบว่าเป็น คราวนี้การเที่ยวเชียงใหม่ของคุณก็จะสะดวกขึ้นอีกเท่าตัว เพราะในเชียงใหม่มีบริษัทให้เช่ารถยนต์และร้านให้เช่ามอเตอร์ไซค์มากมาย ก็จัดการเช่าตั้งแต่ตอนมาถึงเชียงใหม่ได้เลยค่ะ

แต่ถ้าใครยังไม่อยากเช่าในวันแรกที่เดินทางมาถึง หรือขับรถยนต์และขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ได้ ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ คุณยังมีตัวเลือกอีกเยอะ ให้สังเกตดี ๆ ค่ะ บริเวณรอบ ๆ สนามบิน สถานีรถไฟ หรือสถานีขนส่งเชียงใหม่จะมีรถสองแถวสีแดงจอดอยู่มากมาย ชาวเชียงใหม่จะเรียกว่า "รถแดง" ให้ลองเข้าไปถามกับคนขับโดยตรงเลยค่ะ ว่าเราจะไปโรงแรมนั้น โรงแรมนี้ อยู่ตรงถนนเส้นนี้ ผ่านไหมคะ/ครับ (กรณีพักในตัวเมืองเชียงใหม่) ถ้าคนขับบอกว่าผ่านให้ตกลงราคาให้ดี ๆ ถามว่าจะออกกี่โมง ถามให้ละเอียดไปเลยนะคะ เพราะรถแดงในเชียงใหม่มีเยอะมาก หากไม่โอเคก็สามารถเลือกคันอื่น ๆ ได้

หากยังไม่มั่นใจในรถแดง ก็ยังมีบริการรถตุ๊กตุ๊กและแท็กซี่ค่ะ เช่าเหมาคันไปเลย ตกลงราคาให้ดีนะคะ ไม่ควรไปถามตอนขึ้นรถแล้ว เพราะหากถูกเรียกราคาแพงเกินไป เราก็ต้องจ่ายอยู่ดี หรือจะลงกลางทางก็ได้นะ ^^

ส่วนเรื่องราคาคงต้องพิจารณากันเองจริง ๆ ค่ะ เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับเส้นทางของที่พักและจำนวนคน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าคุณพักในตัวเมือง ราคาต่อคนก็ไม่ควรเกิน 20-200 บาท

* ตะลอนเที่ยวเชียงใหม่ได้อย่างไรบ้าง

สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว การเที่ยวในเมืองเชียงใหม่ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพราะปัจจุบันมีบริษัทให้เช่ารถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์มากมาย ใครที่สามารถขับรถยนต์ได้ เราว่าวิธีนี้เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่เล่นเลย ยิ่งถ้ามากับเพื่อน 3-5 คนยิ่งคุ้ม หารค่าเดินทางกันไป สบายมาก

แต่ถ้ามาสองคนหรือคนเดียวล่ะ ? ขับรถยนต์หรือขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็นด้วย ไม่ต้องร้องไห้ค่ะ เดินไปยืนรอริมถนนเลย เห็นรถสองแถวคันสีแดง ก็โบกเลยแล้วบอกจุดหมายปลายทาง ถามราคาให้เรียบร้อย ให้มั่นใจว่าราคานี้ต่อคนหรือทั้งหมู่คณะ ตกลงให้ดีก่อนขึ้นรถ ถ้าราคาแพงไปไม่ถูกใจก็ค่อยเรียกคันใหม่ รถแดงในเชียงใหม่มีเยอะมาก ถ้าระยะทางไม่ไกล ก็จะเริ่มต้นที่ 20-30 บาท ถ้าไกลหน่อยก็อาจจะอยู่ที่หลักร้อย

หากยังไม่โอเคกับการเดินทางด้วยรถแดง ก็โบกตุ๊กตุ๊กได้เช่นกัน วิธีการเหมือนเดิม บอกที่หมาย ถามราคาให้เรียบร้อย ถ้าพอใจก็กระโดดขึ้นรถโลด การเดินทางด้วยตุ๊กตุ๊กจะมีข้อดีอยู่หนึ่งอย่างค่ะ คือเราสามารถที่จะมองเห็นวิวสองข้างทาง ถ่ายรูปบรรยากาศรอบ ๆ ได้อย่างสะดวก เผลอ ๆ คนขับรถตุ๊กตุ๊กยังจะเป็นไกด์ไปในตัวให้เราได้อีกด้วย และที่สำคัญถ้าเราถูกใจในบริการของคนขับรถตุ๊กตุ๊กก็สามารถบอกให้เขาพาเที่ยวแบบเต็มวันไปเลยก็ยังได้ หลายคนใช้วิธีนี้เพราะสะดวกและประหยัด

* แผนที่เชียงใหม่ ควรมีติดกระเป๋าไว้

หากต้องเดินทางท่องเที่ยวในเชียงใหม่ด้วยตัวเอง สิ่งที่สำคัญมาก ๆ ก็คือแผนที่ สามารถขอได้จากที่พัก หรือโหลดจากอินเทอร์เน็ตเก็บไว้ในโทรศัพท์ก็ได้ หรือถ้ามั่นใจในสัญญาณโทรศัพท์และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ ก็ส่องดูแผนที่ได้จากในมือถือเช่นกัน เมืองเชียงใหม่จะค่อนข้างซับซ้อนเล็กน้อยสำหรับคนที่เพิ่งไปเที่ยวครั้งแรก ถ้ามีแผนที่ไว้ก็จะทำให้การขับขี่รถเที่ยวในเชียงใหม่ง่ายยิ่งขึ้น บอกไว้นิดหนึ่งว่าถนนรอบ ๆ คูเมืองเชียงใหม่จะเป็นแบบวันเวย์ เพราะฉะนั้นเล็งเป้าหมายให้ดี ถ้าหากพลาดไปอาจจะต้องวนอีกรอบเลยก็ได้ แต่ถ้าไม่มีแผนที่จริง ๆ ก็ใช้สิ่งที่เรามีในตัวนี่แหละค่ะ นั่นก็คือปาก ถามคนท้องถิ่นได้เลย คนพื้นเมืองใจดีมาก ๆ เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว รับรองได้ว่าต่อให้หลงกี่รอบก็จะมีคนเชียงใหม่ใจดีมาคอยบอกทางให้แน่นอน

* แหล่งท่องเที่ยวเชียงใหม่ห้ามพลาด

เรามาดูสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์กของเชียงใหม่กันก่อนค่ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนมักพูดว่าถ้าไม่ได้ไปเที่ยวเหมือนมาไม่ถึงเชียงใหม่ อาทิ

- วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ และดอยปุย (อยู่ในเส้นทางเดียวกัน) - อุทยานหลวงราชพฤกษ์ - ดอยอ่างขาง - ดอยอินทนนท์ - ถนนคนเดินประตูท่าแพและถนนวัวลาย - วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร - วัดสวนดอก หรือวัดบุปผาราม - ร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ ๆ ร้านเค้ก บนถนนนิมมานเหมินทร์ - สวนสัตว์เชียงใหม่ - น้ำพุร้อนสันกำแพง - เชียงใหม่ไนท์บาร์ซา - วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร

* แหล่งท่องเที่ยวเชียงใหม่ตัวเลือกใหม่ ๆ

นอกจากที่เที่ยวเชียงใหม่ที่เป็นแลนมาร์กแล้ว เชียงใหม่ก็ยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ อีกเพียบ ซึ่งตอบโจทย์กับนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ได้อย่างดี อาทิ

- โครงการบ้านข้างวัด - แกรนด์แคนยอน หางดง - พัทยา เมืองฮอด - วัดต้นเกว๋น - วัดพันเตา - อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า - เขื่อนแม่งัด - สตาร์ เอวีนิว ไลฟ์สไตล์ มอลล์ - เดอะ ฮาร์เบอร์ - ต้นไม้ในเรือนกระจก และสะพานลอยฟ้า canopy walkway ที่สวนพฤกษ์ศาสตร์สิริกิติ์ - พระตำหนักดาราภิรมย์ - ไร่สตรอว์เบอร์รีสะเมิง - หลองข้าวสะเมิง

* แหล่งท่องเที่ยวบรรยากาศดีในเชียงใหม่

- หมู่บ้านแม่กำปอง - ม่อนแจ่ม, ม่อนม่วน - นาข้าวขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง - นาข้าวขั้นบันไดแม่กลางหลวง - สวนสนบ่อแก้ว - ดอยหลวงเชียงใหม่ - ดอยผ้าห่มปก - ดอยหลวงเชียงดาว - ดอยม่อนจอง - โครงการหลวงป่าสนวัดจันทร์ - โครงการหลวงตีนตก

* ของอร่อยเด็ดห้ามพลาดในเชียงใหม่

เชียงใหม่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีของกินอร่อย ๆ รวมตัวกันอยู่เยอะมาก ทั้งอาหารพื้นเมือง อาหารไทย และอาหารนานาชาติ แต่อาหารที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คืออาหารพื้นเมือง ไม่มีที่ไหนอร่อยเท่าเชียงใหม่อีกแล้ว มาถึงเชียงใหม่แล้วก็ต้องลิ้มลองเมนูข้าวซอยกันหน่อย ซึ่งร้านข้าวซอยเด็ด ๆ จะอยู่แถววัดฟ้าฮ่าม บอกเลยว่ารสชาติอร่อยกลมกล่อมจนลืมไม่ลงจริง ๆ

อีกเมนูที่ไม่อยากให้พลาดก็คือขนมจีนน้ำเงี้ยว ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของคนเหนือที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ลองหาทานได้เลยค่ะมีให้เลือกกินทั่วเชียงใหม่เลย ร้านที่ขึ้นชื่อของเชียงใหม่ อาทิ ขนมจีนช้างม่อย, ขนมจีนสันป่าข่อย, ขนมจีนลุงพงษ์, ขนมจีนเตาถ่านป้าป้อม เป็นต้น

แต่ถ้าอยากเข้าถึงความเป็นคนเชียงใหม่ ต้องจัดหนักไปเลยค่ะกับการกินอาหารสไตล์ขันโตก ซึ่งก็จะมีอาหารพื้นเมืองหลากหลายเมนูจัดใส่ถ้วยเล็ก ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับภาชนะที่เรียกว่าขันโตก โดยอาหารในขันโตกจะมีอยู่ประมาณ 5 เมนูด้วยกัน อาทิ แกงอ่อม, แกงฮังเล, น้ำพริกหนุ่มแคบหมู, ไส้อั่ว, หมูยอ, หมูย่าง, ผักสด, ข้าวเหนียว ฯลฯ ลองจัดกันสักมื้อนะคะ

* สายชิล สายกิน ต้องฟินกับร้านกาแฟ

หากมาเที่ยวเชียงใหม่แล้วไม่ได้เช็กอินในร้านกาแฟบรรยากาศดี ๆ สักแห่ง อยากจะบอกว่าคุณพลาดบางอย่างไปแล้วล่ะ เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีร้านกาแฟ ร้านขนม ร้านเค้ก บรรยากาศดีเยอะมาก ที่สำคัญยังอร่อยอีกต่างหาก มีให้เลือกลิ้มลองหลากหลายแบบ ตั้งแต่ขนมสไตล์ไทย ๆ ไปจนถึงขนมหวานสไตล์นานาชาติ ร้านกาแฟแต่ละร้านยังคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพดีมาประชันกันอีก และยังตกแต่งร้านให้มีความกิ๊บเก๋ไม่ซ้ำใคร ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ น่านั่งพักผ่อน นั่งชิลมาก ๆ เพราะฉะนั้นถ้าไปเชียงใหม่อีกครั้ง ลองเลือกร้านกาแฟดี ๆ สักร้าน เพื่อดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟแท้อันหอมกรุ่นและบรรยากาศที่ผ่อนคลายกันดูนะคะ ^^

* ตกเย็นไม่รู้จะกินอะไรดี ให้พุ่งตรงไปที่นี่

เย็นนี้กินอะไรดี? เป็นปัญหาโลกแตกที่เรามักจะเจอกันในชีวิตประจำวัน แม้แต่การไปเที่ยวก็ตาม ยังมีคำถามนี้มาหลอกหลอน แต่ถ้าไม่ได้คำตอบจริง ๆ เราแนะนำให้ไปที่นี่เลยค่ะ กาดมาลิน หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า กาดหน้ามอ (หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่) ที่นี่จะมีร้านค้าขายอาหารมากมายหลายร้อยร้านค้า ใครชอบกินอะไร ก็เดินเลือกซื้อได้ตามใจชอบ แล้วมานั่งกินด้วยกัน ส่วนข้าง ๆ และบริเวณใกล้เคียงยังมีร้านค้าขายเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า เครื่องประทับ ให้ได้เดินช้อปปิ้งกันอีกด้วย

อีกหนึ่งแห่งที่น่าสนใจก็คือตลาดประตูเชียงใหม่ มีร้านค้าขายอาหารที่หลากหลายเช่นกัน มีเมนูให้เลือกกินมากกว่า 30 อย่าง ทั้งของหวาน ของคาว กินกันให้จุกไปเลย

* อยากไปเที่ยวอำเภออื่น ๆ ทำอย่างไร

สถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ไม่ได้มีแค่ในตัวเมืองเชียงใหม่เท่านั้น อำเภออื่น ๆ ก็มีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ อีกเพียบ คนส่วนใหญ่นิยมที่จะเช่ารถยนต์เพื่อท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ เพราะทั้งสะดวกและประหยัดเวลา แต่ถ้าไม่สามารถที่จะขับรถได้ ก็สามารถที่จะใช้โดยสารประจำทางที่วิ่งระหว่างอำเภอได้เช่นกัน แต่ถ้ามีหลายคน ก็เหมารถแดงให้พาเที่ยวรอบ ๆ อำเภอเมืองเชียงใหม่อย่างอำเภอแม่ริมและอำเภอสะเมิงได้เลยค่ะ แต่ถ้าเช่ารถแดง จะต้องตื่นเช้า มีเวลาเที่ยวน้อย แนะนำให้พักค้างคืนที่อำเภอนั้น ๆ สักคืน แล้วค่อยว่าจ้างรถให้มาส่งในตัวเมืองอีกครั้งค่ะ

* ของฝากจากเชียงใหม่

ถ้าเป็นคนชอบกิน แนะนำให้ซื้ออาหารพื้นเมืองอย่างไส้อั่ว แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม หมูยอ แหนม สตรอว์เบอร์รีอบแห้ง ผลไม้เมืองหนาวอบแห้ง เป็นต้น ส่วนใครที่ชอบงานฝีมือ เชียงใหม่ก็มีสินค้าแฮนด์เมดให้ได้เลือกช้อปปิ้งเยอะมาก ลองไปเดินเลือกซื้อได้ที่ถนนคนเดินเลยค่ะ ทั้งกระเป๋าผ้า เสื้อผ้าพื้นเมือง ผ้าถุงพื้นเมือง เครื่องเงิน และสินนค้าแฮนด์เมดอื่น ๆ อีกเพียบ บอกเลยว่าให้เตรียมเงินไปเยอะ ๆ เพราะมีน่ารัก ๆ ให้ช้อปปิ้งเพียบเลย

* ใส่เสื้อผ้าอะไรไปเที่ยวเชียงใหม่

เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีอากาศเย็นสบาย ถ้าไปเที่ยวในช่วงหน้าร้อนแค่เพียงเสื้อยืดกางเกงยีนส์หรือกางเกงขาสั้นก็สามารถที่จะลั้ลลากับเมืองนี้ได้แล้ว แต่แนะนำให้ใส่ขายาวมากกว่า เพราะว่าบางสถานที่อย่างวัดวาอารามก็ต้องแต่งกายให้สุภาพ จะได้ไม่ต้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้วุ่นวายและเสียเวลา แต่ถ้าใครไปเที่ยวในช่วงหน้าฝนก็พกเสื้อแขนยาวไปด้วยสักตัว เพราะอากาศจะเริ่มเย็น โดยเฉพาะถ้าไปเที่ยวบนดอย อากาศจะเย็นกว่าในตัวเมือง ส่วนหน้าหนาวนั้นควรยัดเสื้อกันหนาวลงไปในกระเป๋าเลยค่ะ เพราะที่เชียงใหม่หน้าหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 8-16 องศาเซลเซียส

* ฤดูกาลไหนควรไปเชียงใหม่

เชียงใหม่เป็นเมืองที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปีจริง ๆ ค่ะ แม้กระทั่งในฤดูร้อน บริเวณบนเขาอากาศก็ยังเย็นสบาย มีแหล่งท่องเที่ยวให้คลายร้อนเพียบ นักท่องเที่ยวไม่หนาแน่น เที่ยวได้แบบชิล ๆ ที่พักไม่ต้องจองล่วงหน้านาน ไม่ต้องแย่งต่อคิวร้านอาหาร เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ชิลมาก ๆ แต่ถ้าชอบแบบอากาศเย็นสบาย ได้เห็นเชียงใหม่เป็นสีเขียว ก็ต้องไปเที่ยวหน้าฝนค่ะ มีแหล่งท่องเที่ยวอย่างนาข้าวขั้นบันไดให้ไปถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก

ส่วนหน้าหนาวจะเป็นฤดูกาลที่เชียงใหม่คึกคักมากที่สุด นักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลมาที่นี่เพื่อเที่ยวชมภูเขา สัมผัสอากาศเย็น บรรยากาศดีมาก และในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็ยังได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะดอกนางพญาเสือโคร่งจะเบ่งบานอวดโฉมอย่างสวยงามบนยอดดอย ใครชอบแบบไหน ก็วางแผนมาเที่ยวกันได้เลยค่ะ

* มีคำถามมากมาย ถามใครดี

หากนักท่องเที่ยวมีคำถาม หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0 5324 8604-5

นี่เป็นเพียงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเที่ยวเชียงใหม่เท่านั้น แต่เพียงแค่เตรียมตัวเท่านี้ก็สามารถเที่ยวเชียงใหม่ได้ด้วยตัวเองแล้ว ไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ ถ้ามีความฝันว่าครั้งหนึ่งต้องไปเยือนเชียงใหม่ ทำความฝันนั้นให้เป็นจริงกันเถอะ :)

ขอขอบคุณข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่