5 กระเป๋าคลาสสิคไม่มีวันตกรุ่น ขายต่อก็คุ้มสุด คำเดียวควรซื้อ!
นี่เชื่อว่าสาวๆ
ชิคเสพเรื่องกระเป๋ามาก็ไม่น้อยแล้วเนอะ ยิ่งช่วงหลังๆ มานี่ สาวๆ
ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับกระเป๋า ที่นอกจากจะดูสวย คลาสสิคแล้ว
ยังต้องอยู่เหนือกาลเวลาไม่ตกรุ่น
แถมราคาก็แทบไม่ต่างไปจากเดิมเมื่อนำไปขายต่อ พูดง่ายๆ คือ
กระเป๋าต้องเหมาะแก่การนำมาลงทุนในอนาคตนั่นแหละ
ผู้เขียนจะพาไปดูกระเป๋า 5
รุ่นสุดคลาสสิคที่ไม่มีวันตกรุ่นแน่นอน คอนเฟิร์มจากบริษัทสำรวจทั้ง The
RealReal, Tradesy และ Poshmark เลยนะ
ต้องบอกก่อนว่ากระเป๋าที่ทำการสำรวจมา นอกจากจะคลาสสิคแล้ว
ราคาก็ไม่ลดลงตามกาลเวลามากด้วย อย่างแบรนด์ Mansur Gavriel
ถูกวิเคราะห์ว่าคลาสสิคก็จริง
แต่ยังไม่คอนเฟิร์มว่าจะสามารถอยู่ได้นานเหมือนกระเป๋าที่จะพูดถึงต่อจากนี้
หรือเปล่าThe RealReal บอกว่า Louis Vuitton Neverfull
สามารถนำมาขายเป็นสินค้ามือสองด้วยราคา 84% จากราคาเดิม ในขณะที่ Chanel
Boy ทำได้ 82% ไม่ต่างกันมาก และผลสำรวจล่าสุดจาก Baghunter
เคลมว่ามูลค่าของกระเป๋า Hermes Birkin เพิ่มขึ้น 14.2% ในทุกๆปี
ซึ่งผู้เขียนเคยบอกไว้ในคอลัมน์ก่อนหน้าแล้วว่า คุ้มกว่าลงทุนในทองคำหรือแม้แต่ตลาดหุ้นเสียอีก เอาล่ะ! ไม่พิรี้พิไรละ ไปดุกันเลยดีกว่าChanel 2.55
ราคาขาย: 4,900-6,000 เหรียญ ขึ้นอยู่กับไซส์และวัสดุ
ราคาขายต่อ: 1,400-6,000 เหรียญ ขึ้นอยู่กับไซส์และวัสดุ
Goyard St. Louis
ราคาขาย: 1,300-1,600 เหรียญ ขึ้นอยู่กับไซส์และวัสดุ
ราคาขายต่อ: 600-1,600 เหรียญ ขึ้นอยู่กับไซส์และวัสดุ
Louis Vuitton Neverfull
ราคาขาย: 1,200-2,100 เหรียญ ขึ้นอยู่กับไซส์และวัสดุ
ราคาขายต่อ: 1,000-3,000 เหรียญ ขึ้นอยู่กับไซส์และวัสดุ
Chanel Boy
ราคาขาย: 4,300-4,700 เหรียญ ขึ้นอยู่กับไซส์และวัสดุ
ราคาขายต่อ: 3,000-5,000 เหรียญ ขึ้นอยู่กับไซส์และวัสดุ
Herm?s Birkin
ราคาขาย: 12,000-200,000 เหรียญ ขึ้นอยู่กับไซส์และวัสดุ
ราคาขายต่อ: 6,000-100,000 เหรียญ ขึ้นอยู่กับไซส์และวัสดุ แม้ว่าจะเคยประมูลได้ราคาถึง 233,000 เหรียญ
เห็นแบบนี้แล้ว สาวๆ ต้องซื้อเก็บไว้สักรุ่นแล้วล่ะ
Photo:Fashionista
เนื้อหาโดย :
ChicMinistry