เที่ยวยุโรป ชมใบไม้เปลี่ยนสี ใน 5 ประเทศ ที่ไม่ควรพลาด
เก็บตังค์ไปเที่ยวกันน เผื่อฝันของเราาาาา เสียงซู๊งงงงง ?
อีกไม่นานก็จะถึงเดือนกันยายน จุดเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วง ที่ยุโรป
ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารสถานที่สไตล์ดั้งเดิม จะยิ่งมีเสน่ห์เพิ่มเป็นทวีคูณ
เพราะถูกแต่งแต้มด้วยสีเหลือง ส้ม
และแดงของใบไม้ที่เปลี่ยนสีไปจนถึงราวเดือนพฤศจิกายน ในช่วงดังกล่าว
ค่าที่พักและค่าตั๋วเครื่องบินมักจะมีราคาไม่สูงเท่าในช่วงฤดูร้อน
ที่ถือเป็นช่วงพีคของการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ด้วย เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ
เราคงหาราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยาก
เราต้องได้ไปสัมผัสประสบการณ์ใบไม้เปลี่ยนสีสักครั้งในชีวิต
จดลิสต์สถานที่ในฝันไว้ก่อนเลย
1. กรุงปารีส Paris ประเทศฝรั่งเศส
เป็นที่รู้จักกันดีในสมญา ?นครแห่งความโรแมนติก?
ที่มีบรรยากาศสวยเย้ายวนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ต้นไม้ทั้งเมืองกำลัง
เปลี่ยนสี คงเป็นการดีไม่น้อย
หากคุณจะได้เดินจูงมือคู่รักของคุณเดินชมสีสันส้มแดงที่ริมแม่น้ำแซน
(Seine) หรือในสวนสาธารณะลุกซอมบูร์ก (Jardin du Luxembourg)
ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในปารีส นอกจากนี้
ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมายเช่น เทศกาล Nuit Blanche (Sleepless
night)
ที่จะมีการจัดแสดงศิลปะสมัยใหม่กลางแจ้งกลางกรุงปารีสให้บุคคลทั่วไปชมเมื่อ
พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า
2. กรุงโรม Rome ประเทศอิตาลี
ฤดูไม้ใบเปลี่ยนสีในประเทศอิตาลีจะเริ่มต้นประมาณเดือนกันยายนถึง
เดือนธันวาคมของทุกปี
ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าในการไปเยี่ยมชมเมืองหลวงแห่งนี้
เนื่องจากคุณได้จะสัมผัสกับอากาศที่เย็นสบาย
เหมาะกับการขี่จักรยานชมทิวทัศน์และสถาปัตยกรรมที่อลังการรอบๆกรุงโรม
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีนี้ยังเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวแห่งปี
จึงมีการจัดงานเทศกาลอาหารและไวน์ขึ้นอย่างมากมาย
หากคุณชื่นชอบอาหารอิตาเลี่ยนและยังเป็นนักดื่มไวน์ตัวยงด้วยแล้ว
รับรองว่าคุณได้จะฟินชนิดที่ว่าลืมไม่ลงเลยทีเดียว
3. เดรสเดิน Dresden ประเทศเยอรมนี
เดรสเดินเป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในแคว้นแซกโซนี (Saxony)
ทางฝั่งตะวันออกออกของประเทศเยอรมนี
และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่น้อยเลย
ทีเดียว
เนื่องจากมีชื่อเสียงโดดเด่นในด้านศิลปะวัฒนธรรมจนได้รับการขนานนามว่าเป็น
?ฟลอเรนซ์แห่งเอลเบอ? ยิ่งช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
เมืองนี้ยิ่งมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากขึ้น
คุณจะได้เห็นแสงสีทองของพระอาทิตย์ต้องใบไม้สีส้มแดงที่ปกคลุมเนินเขาล้อม
รอบแม่น้ำเอลเบอ (Elbe River)
และเดินชมเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่และประดับประดาด้วยต้นไม้
สีสันสวยงาม ไม่เพียงเท่านี้
ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ชมศิลปะการแสดงที่โรงละครเซมเพอโอเพอ
(Semperoper) ซึ่งเปิดแสดงอีกครั้งหลังจากปิดทำการในช่วงฤดูร้อน
4. บูดาเปสต์ Budapest ประเทศฮังการี
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีถือเป็นช่วงเวลาที่ควรแก่การท่องเที่ยวในเมือง
แห่งนี้ ด้วยสีสันอันตระการตาของธรรมชาติ
ทั้งยังสามารถเดินถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและนั่งจิบไวน์ท่ามกลาง
อากาศที่เย็นสบายได้อีกด้วย
หากคุณหลงใหลหรืออยากลิ้มลองรสชาติอาหารและไวน์สไตล์ฮังกาเรี่ยน
คุณไม่ควรพลาดเทศกาลอาหารและไวน์ที่จัดขึ้นที่นี่ทุกปี
โดยในปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 8-11 กันยายน
รับรองได้ว่าคุณจะต้องตกหลุมรักกับเมืองแห่งนี้อย่างแน่นอน
5. บรัสเซลส์ Brussels ประเทศเบลเยี่ยมเมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศเบลเยี่ยมที่เหมาะกับการ
มาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมากที่สุดเมืองหนึ่ง
คุณสามารถเดินชมสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองแห่งนี้ได้อย่างเพลิดเพลินใจทั้ง
จัตุรัสแกรนด์เพลส หรือ กรองด์ ปลาซ (Grand Palace) หอระฆัง (Belfort)
ทะเลสาบมินน์วอเตอร์ (Minnewater)
ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก นอกจากนี้
ในช่วงเดือนตุลาคมยังมีการขยายเวลาปิดของพิพิธภัณฑ์หลักๆ จากเวลา 17.00 น.
เป็นเวลา 22.00 น. ด้วย
เหมาะสำหรับคนรักศิลปะที่ต้องการใช้เวลาชมผลงานต่างๆ อย่างเต็มที่
ที่มา https://www.skyscanner.co.th/news