งานบุญเดือนสิบลอยเรือสะเดาะเคราะห์ ประเพณีเก่าแก่ของชุมชนชาวมอญ สังขละบุรี วันที่ 15-17 กันยายน 2559

อ่าน 5,737

งานบุญเดือนสิบลอยเรือสะเดาะเคราะห์ ขอเชิญร่วมประเพณีเก่าแก่ของชุมชนชาวมอญ วันที่ 15-17 กันยายน 2559 ณ บริเวณลานหน้าเจดีย์พุทธคยา วัดวังก์วิเวการาม ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

ททท.กาญจนบุรี ชวนร่วมสืบสานประเพณีดั้งเดิมของชุมชนมอญบ้านวังกะ อำเภอสังขละบุรี ในงานบุญเดือนสิบ "ลอยเรือสะเดาะเคราะห์" ชมการต่อเรือขนาดใหญ่ด้วยลำไม้ไผ่ การปล่อยโคมขนาดยักษ์ของชาวบ้าน ร่วมทำบุญสะเดาะเคราะห์และจุดเทียนอธิษฐานให้เคราะห์ร้ายในชีวิตได้ผ่านพ้นไป แล้วร่วมชมพิธีการลากเรือไปลอยกลางแม่น้ำบริเวณ "สามสบ" ในเช้าวันสุดท้ายของงาน

ภาพจาก www.tiewpakklang.com

ประวัติความเป็นมาของประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์นี้ ว่ากันว่าเกิดขึ้นเมื่อครั้งพระเจ้าธรรมเจดีย์ขึ้นครองราชย์ปกครองอาณาจักรมอญ ที่เมืองหงสาวดี พระองค์ทรงเห็นพระภิกษุสามเณรในเมืองหงสาวดี มีความประพฤติย่อหย่อนต่อพระธรรมวินัย จนพระพุทธศาสนาในเมืองมอญเกิดมลทินด่างพร้อยมากมาย จึงมีพระราชประสงค์จะสังคายนาพระพุทธศาสนาเสียใหม่ เพื่อชำระหมู่พระภิกษุสงฆ์ให้มีความบริสุทธิ์ จึงมีพระราชโองการรับสั่งให้พระภิกษุและสามเณรในเมืองมอญลาสิกขาเสียทั้งหมดทั้งสิ้น แล้วทรงส่งปะขาวถือศีล 8 คณะหนึ่ง ซึ่งก็คือ อดีตพระเถระผู้ทรงพระไตรปิฎก ทรงความรู้ ตั้งมั่นในศีล ที่พระองค์มีคำสั่งให้ลาสิกขามาถือศีล 8 เป็นปะขาวนั่นเอง ออกเดินทางไปยังประเทศศรีลังกา เพื่อให้ไปถือการอุปสมบทเป็นพระภิกษุมาใหม่จากคณะสงฆ์ในประเทศศรีลังกา เสร็จแล้วให้เดินทางกลับมาเป็นอุปัชฌาย์อาจารย์ บวชให้แก่คนมอญในเมืองมอญเสียใหม่ คณะของปะขาวนี้ เมื่อเดินทางถึงประเทศศรีลังกา ได้รับการอุปสมบทแล้วก็เดินทางกลับ ในระหว่างทางที่เดินทางกลับนั้น เรือสำเภาลำหนึ่งในจำนวนสองลำโดนพายุพัดให้หลงทิศไป ส่วนอีกลำหนึ่งเดินทางมาถึงเมืองหงสาวดีโดยปลอดภัย เมื่อทราบถึงพระกรรณของพระเจ้าธรรมเจดีย์ พระองค์จึงมีรับสั่งให้ทำเรือจำลองขึ้นมา ข้างในบรรจุด้วยของเซ่นไหว้บูชาเหล่าเทวดาทุกหมู่เหล่า ด้วยเครื่องเซ่นไหว้นั้น ให้เหล่าเทวดาทั้งหลาย ที่ดูแลพื้นดินก็ดี ที่ดูแลพื้นน้ำก็ดี ที่ดูแลพื้นอากาศก็ดี ได้มาช่วยปัดเป่าให้เรือสำเภาที่หลงทิศไปนั้น ได้เดินทางกลับมาโดยปลอดภัย หลังจากที่พระองค์ทรงทำพิธีสะเดาะเคราะห์แล้วไม่กี่วัน เรือที่หลงทิศไปนั้นก็เดินทางกลับมาถึงเมืองหงสาวดีโดยปลอดภัย ชาวมอญจึงถือเอาเหตุการณ์นี้ทำพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ในช่วงกลางเดือน 10 ของทุก ๆ ปี สืบต่อกันมาตราบจนปัจจุบันนี้

ภาพจาก www.tiewpakklang.com

สำหรับประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ชาวไทยรามัญอำเภอสังขละบุรี กำหนดจัด 3 วัน ในวันขึ้น 14-15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบูชาเทวดาที่อยู่ในน้ำ ในป่า และบนบก อีกทั้งเพื่อสืบสานประเพณีดั้งเดิมของกลุ่มชน ตลอดทั้งเป็นการเผยแพร่ประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ให้แก่ชุมชน ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ โดยมีกิจกรรมในงานดังนี้

1. การเจริญพระพุทธมนต์โดยพระสงฆ์

2. การบูชาเรือ โดยนำธงกระดาษ และอาหารคาวหวาน 9 อย่าง ไปบูชาเรือ

3. การสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ โดยการนำธูปเทียน ตามกำลังวันเกิด ไปไหว้ และสะเดาะเคราะห์ โดยจะมีการเผาธูปเทียนในวันสุดท้ายของงาน

4. การเล่นโคม ปล่อยโคมขนาดใหญ่

5. การตักบาตรน้ำตาลทราย น้ำผึ้ง

6. การเลี้ยงอาหารคาวหวานแก่ผู้มาร่วมงาน

7. การนำเรือไปลอยที่แม่น้ำสามประสบ

ภาพจาก www.tiewpakklang.com

ส่วนพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ของชาวมอญที่ทำกันอยู่ จะมีการเตรียมงานดังนี้ ก่อนถึงวันพิธี ชาวบ้านจะร่วมมือร่วมใจกันเตรียมทำธง ร่ม และจัดเครื่องบูชาต่าง ๆ เพื่อถวายวัด โดยมีการแบ่งงานให้หัวหน้าคุ้มต่าง ๆ ในหมู่บ้าน รับไปให้ลูกบ้านช่วยทำแล้วนำมาส่งที่วัด ผู้ชายส่วนหนึ่งจะมารวมกันที่วัดวังก์วิเวการามเพื่อสร้างเรือจากลำไม้ไผ่ประดับตกแต่งด้วยกระดาษหลากสี ในยามหัวค่ำจนถึงเช้ามืดของวันขึ้น 15 ค่ำ ชาวบ้านจะทยอยพากันนำธง ตุง ร่มกระดาษ มาประดับตกแต่งเรือและบริเวณปะรำพิธีอย่างเนืองแน่น พร้อมนำเครื่องเซ่น เช่น กล้วย อ้อย ขนม ข้าว ดอกไม้ ไปวางไว้ในลำเรือ จุดเทียนอธิษฐานให้สิ่งไม่ดี และเคราะห์ร้ายต่าง ๆ ไปให้พ้นจากชีวิตตน และรับฟังบทสวดอิติปิโส 108 จบ และบทสวดสะเดาะเคราะห์จากภิกษุสงฆ์ เมื่อถึงเช้าวันแรม 1 ค่ำ ชาวบ้านก็มารวมตัวกันตั้งเป็นขบวนแห่ มีการเล่นโคม ปล่อยโคมลอยขนาดใหญ่ ประกอบการร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนาน จากนั้นชาวบ้านทั้งหมดจะช่วยกันลากเรือไปปล่อยกลางน้ำบริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำสามสาย ได้แก่ ซองกาเลีย รันตี และบิคลี่ ที่เรียกกันว่า "สามสบ" นั่นเอง

ภาพจาก www.tiewpakklang.com

สำหรับในปีนี้ งานบุญเดือนสิบลอยเรือสะเดาะเคราะห์ของชุมชนมอญ อ.สังขละบุรี กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2559 ททท. สำนักงานกาญจนบุรี จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวผู้สนใจ เดินทางไปเที่ยวชม และเข้าร่วมงานประเพณีครั้งนี้ ณ บริเวณลานหน้าเจดีย์พุทธคยา วัดวังก์วิเวการาม ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และเดินทางเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่าง ๆ ของ อำเภอสังขละบุรี อาทิ เมืองบาดาล วัดสมเด็จ (เก่า) สะพานมอญ ด่านเจดีย์สามองค์ และแหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดอย่าง "น้ำตกนพพิบูลย์"

ทั้งนี้สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี โทรศัพท์ 034 511200 และ 034 512500 ได้ทุกวันในเวลาราชการ หรือคลิก เฟซบุ๊ก เมืองกาญจน์แดนสวรรค์ตะวันตก

ภาพจาก www.tiewpakklang.com

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากเที่ยวภาคกลาง



บทความแนะนำ


ซีฟู้ดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ปูยักษ์สันติฮอนโปรโมชั่นต่างหูรักสนุกทายนิสัยทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก