เตือน! ออกกำลังกายแบบผิดๆ อาจทำให้การเผาผลาญอาหารช้าลง

เราขอแนะนำการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อการออกกำลังกายที่ถูกต้องของคุณ

หากคุณออกกำลังกายแบบเดียวกันทุกเดือน ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวเท่านั้นที่รู้สึกเบื่อ กล้ามเนื้อของคุณก็รู้สึกไม่ต่างกัน

ไม่ว่าจะเป็นการเดิน 30 นาทีทุกวัน หรือการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มระดับความแข็งแรง ซึ่งคุณทำมันทุกวัน ครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากนั้น ร่างกายของคุณจะหยุดตอบสนองต่อความพยายาม และผลสำเร็จที่คุณจะได้รับก็เริ่มลดลง ตามคำแนะนำของ MSN เราขอเสนอกิจกรรมใหม่ ๆ บางอย่างเพื่อการออกกำลังกายของคุณ ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ คุณสามารถแทนที่การเดินออกกำลังกายในทุกๆสัปดาห์ ได้ด้วยการไปปีนเขา หารูปแบบการออกกำลังแบบใหม่เพื่อกล้ามเนื้อของคุณ เปิดดีวีดีในการออกกำลังกายประจำวัน หรือทำอะไรก็ตามอย่างที่ใจคุณอยากทำ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบไหน ก็ล้วนได้รับการต้อนรับทั้งสิ้น

การออกกำลังกายแอโรบิกไม่ควรเป็นแค่ทางเลือกเดียวของคุณ

การออกกำลังกายแอโรบิกนั้นดีและมีประโยชน์ แต่ลองเอามันมารวมกับการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับทุกส่วนของร่างกายคุณ ออกกำลังกายบางท่าที่ช่วยให้ร่างกายคุณแข็งแรงขึ้น ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และฟื้นฟูสภาพทางกายภาพของคุณ เมื่อคุณอายุ 30 ปี ผู้หญิงจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ 2 ปอนด์ไปในทุกปี กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นช้ากว่าในผู้ชาย แต่ในทางกลับกัน มวลกล้ามเนื้อของพวกเขาจะหายไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่ผู้ชายอายุ 60 ปี

การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อทำให้การเผาผลาญอาหารช้าลง นั่นเป็นเพราะกล้ามเนื้อเผาผลาญแคลอรี่ได้แม้แต่ในเวลาที่คุณอยู่เฉยๆ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายแอโรบิกร่วมกับการออกกำลังกายอย่างอื่นเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ช่วยเผาผลาญไขมันได้มากกว่าการออกกำลังกายแอโรบิกเพียงอย่างเดียวถึงสองเท่า ดังนั้นระหว่างที่คุณทำแอโรบิก ควรจะออกกำลังกายท่าอื่นๆที่ช่วยเพิ่มพลังให้คุณไปด้วย และผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า คุณควรออกกำลังกายอย่างน้อยสองครั้งต่อสัปดาห์

การออกกำลังกายแบบรวดเร็ว

บางครั้งหลายคนสับสนกับความจริงที่ว่าการออกกำลังกายอย่างการก้าวง่ายๆ จะช่วยให้พวกเขาเผาผลาญไขมันได้ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการออกกำลังกายแบบรุนแรง แต่ความจริงก็คือ หากคุณพยายามมากขึ้น คุณจะเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าแน่นอน เราจะยกตัวอย่างให้คุณฟัง ซึ่งหวังว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจในเรื่องนี้ได้ง่ายขึ้น หากผู้หญิงหนัก 68 ปอนด์ เดินบนลู่วิ่งไฟฟ้??าด้วยความเร็ว 5 ไมล์ต่อชั่วโมง เธอจะเผาผลาญได้ 112 แคลอรี่ใน 30 นาที ครึ่งหนึ่งของแคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญ (56 แคลอรี่) คือแคลอรี่ที่มาจากไขมัน

หากผู้หญิงคนเดียวกันนี้ เดินบนลู่วิ่งไฟฟ้??าด้วยความเร็ว 6.5 ไมล์ต่อชั่วโมง เธอจะเผาผลาญ 170 แคลอรี่ใน 30 นาที และ 68 แคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญ มาจากไขมัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำว่าคุณควรรวมการออกกำลังกายเข้าด้วยกัน ทำมันอย่างจริงจังให้มากขึ้น จากนั้นค่อยๆลดความเร็วลงสักสองสามนาที แล้วค่อยกลับมาเร่งอีกครั้ง