ตามรอยเสด็จประพาส รัชกาลที่ 5 กับสถานที่ท่องเที่ยวไทยอันสวยงามและมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน

อ่าน 2,788

ตามรอยเสด็จประพาส รัชกาลที่ 5 กับสถานที่ท่องเที่ยวไทยอันสวยงามและมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน สักครั้งต้องตามรอยเสด็จประพาสไปเที่ยวกัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นอีกหนึ่งกษัตริย์ไทยในราชวงศ์จักรีที่อยู่ในใจของปวงชนชาวไทยมาอย่างยาวนาน การเสด็จประพาสต้นก็เป็นพระราชกรณียกิจส่วนพระองค์อย่างหนึ่งที่ยังอยู่ในความทรงจำของคนไทย ด้วยการเสด็จประพาสต้นนั้นเป็นการเสด็จประพาสหัวเมืองใหญ่ โดยที่พระองค์ไม่ทรงโปรดฯ ให้มีการจัดรับเสด็จเป็นทางการ เพื่อที่พระองค์จะได้ทรงทราบทุกข์ สุข และความเป็นไปของราษฎรอย่างละเอียดด้วยตัวพระองค์เอง ปวงชนชาวไทยจึงซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อย่างยิ่ง

วันนี้เราจึงจะขอพาตามรอยเสด็จประพาสต้นของพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 กันค่ะ จะมีสถานที่ท่องเที่ยวไทยที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลย

1. เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ภาพจาก Matyas Rehak / shutterstock.com เกาะพะงัน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่กลางทะเลอ่าวไทย ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 100 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 120,625 ไร่ หรือ 168 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพะงัน และเกาะเต่า ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ทั้งภูเขา ป่าไม้ ท้องทะเล แนวปะการัง และปัจจุบันเกาะพะงันยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยที่ชาวต่างชาติต่างต้องการมาเที่ยวชมอีกด้วย สำหรับเกาะพะงันนี้ พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีได้มีการเสด็จประพาสถึง 4 พระองค์ ได้แก่ รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 9 ซึ่งทุกพระองค์ได้มีการจารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้ที่น้ำตกธารเสด็จ บนเกาะพะงัน โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มีการเสด็จประพาสที่นี่ถึง 14 ครั้ง และทุกครั้งที่พระองค์เสด็จประพาสที่นี่ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ช่างสลักจุลศักราชที่เสด็จประพาสไว้ที่ก้อนหินบริเวณน้ำตกธารเสด็จอีกด้วย2. น้ำตกธารมะยม เกาะช้าง จังหวัดตราด น้ำตกธารมะยม เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะช้าง ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเกาะช้างประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีทั้งหมด 4 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป โดยมีสายน้ำมากมายไหลผ่านก้อนหินแกรนิตขนาดน้อยใหญ่ลงมาจากชั้นบนถึงชั้นล่าง โดยชั้นที่สวยงามมากที่สุด คือ ชั้นที่ 3 นักท่องเที่ยวมักที่จะเดินขึ้นมาถ่ายรูปและชมความงดงามของน้ำตกธารมะยมกันที่ชั้นนี้ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ได้บ่งบอกว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสน้ำตกธารมะยมถึง 9 ครั้ง และทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ไว้บนก้อนหินบริเวณน้ำตกอีกด้วย นอกจากนี้ยังปรากฏหลักฐานของการเสด็จประพาสของพระมหากษัตริย์พระองค์อื่น คือพระปรมาภิไธยย่อ วปร. ในรัชกาลที่ 6 และ ปปร. ในรัชกาลที่ 7 รวมทั้ง รพ ของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ด้วย3. เกาะกระดาด จังหวัดตราด เกาะกระดาด ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะหมาก จังหวัดตราด เป็นเกาะที่มีรูปร่างและลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างจากเกาะทั่วไปในเมืองไทย ด้วยมีลักษณะเป็นพื้นที่ราบคล้ายกับกระดาษ สวยงามด้วยหาดทรายสุดเงียบสงบ รอบ ๆ เกาะเต็มไปด้วยสวนมะพร้าว และกวางป่าที่วิ่งเล่นกันอยู่ทั่วไป และด้วยความที่เกาะกระดาดเป็นเกาะส่วนตัว ที่นี่จึงมีเพียงรีสอร์ทเดียวให้บริการ ซึ่งให้บริการที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ ผู้มาเยือนจึงจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นจริง ๆ จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เกาะกระดาด ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ไทย เพราะเป็นเกาะที่มีการออกโฉนดที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงนครชัยศรีสุรเดช (พระโอรสองค์ที่ 17) ทรงทำตราจอง เพื่อป้องกันการรุกรานจากฝรั่งเศสในช่วงสงครามอินโดจีน (พ.ศ. 2447-2449) พระองค์ทรงเสด็จมาที่นี่ถึง 10 ครั้ง และได้มีการซื้อกรรมสิทธิ์ในราคา 2,000 บาท เกาะกระดาดจึงมีเอกสารสิทธิ์ครอบคลุมพื้นที่เกาะทั้งหมด4. น้ำตกคลองเจ้า เกาะกูด จังหวัดตราด น้ำตกคลองเจ้า เป็นน้ำตกอันสวยงามบนเกาะกูด จังหวัดตราด มีลักษณะเป็นน้ำตก 3 ชั้น โอบล้อมไปด้วยป่าเขาสีเขียวขจีและเงียบสงบ สายน้ำมากมายจะไหลหน้าผาหินลงมาราวกับม่านน้ำ ก่อนจะไหลลงสู่แอ่งน้ำที่ชั้นล่างสุด ซึ่งเป็นชั้นที่นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเล่นน้ำได้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสน้ำตกคลองเจ้าเมื่อปี พ.ศ. 2454 และทรงพระราชทานนามว่า น้ำตกอนัมก๊ก เพื่อเป็นการรำลึกถึงองค์เชียงสือ กษัตริย์ญวนที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจลาจลในสมัยรัชกาลที่ 1 และยังปรากฏพระปรมาภิไธยย่อจารึกไว้บนหินก้อนใหญ่ริมน้ำตก อันเป็นหลักฐานถึงการเสด็จประพาสของพระองค์อีกด้วย5. ถ้ำพระยานคร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถ้ำพระยานคร ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากหาดแหลมศาลาประมาณ 500 เมตร และห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดไปทางทิศเหนือประมาณ 17 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นถ้ำขนาดใหญ่ โอบล้อมไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ภายในถ้ำมี 3 คูหา เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยอันสวยงาม มีพลับพลาที่ประทับของรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่กลางถ้ำ ซึ่งยามที่มีแสงส่องลงมายังตัวถ้ำและบริเวณพลับพลาก็จะปรากฏภาพที่สวยงามมาก จนทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวฮิตของเมืองประจวบคีรีขันธ์เลยทีเดียว ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีพระราชประสงค์ใคร่จะเสด็จประพาส จึงโปรดเกล้าฯ ให้นายช่างประจำราชสำนักสร้างพลับพลาแบบจัตุรมุขขนาดย่อมตั้งไว้บนเนินดินกลางถ้ำ และพระองค์เสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2433 ซึ่งได้พระราชทานนามให้กับพลับพลาที่นี่ว่าพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์6. เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เกาะสีชัง ตั้งอยู่ห่างจากฝั่งอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ประมาณ 12 กิโลเมตร มีฐานะเป็นหนึ่งอำเภอของจังหวัดชลบุรี บริเวณรอบ ๆ เกาะเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม มีหาดทรายที่ขาวสะอาดและเงียบสงบให้ได้เที่ยวพักผ่อน มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เที่ยวชมมากมาย พร้อมทั้งยังมีร้านอาหารทะเลสดใหม่ รสชาติอร่อย ราคาย่อมเยาเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว การเดินทางไปเที่ยวเกาะสีชัง ก็แสนง่ายดาย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวนิยมที่จะไปเที่ยวเกาะสีชังในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ที่นี่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และมีความเกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ด้วยบนเกาะสีชังเป็นที่ตั้งของพระราชวังฤดูร้อน ซึ่งใช้เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของพระองค์ ปัจจุบันยังคงมีพระจุฑาธุชราชฐาน และอาคารต่าง ๆ รวมทั้งสะพานอัษฎางค์ ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมและย้อนรำลึกถึงพระองค์7. น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี น้ำตกพลิ้ว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี มีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี ตัวน้ำตกเกิดจากลำธารสองสาย ไหลผ่านซอกผาก่อนจะลงมาสู่หน้าผาอันสูงชัน ซึ่งมีความสูงราว 20 เมตร มีแอ่งน้ำอันใสสะอาดขนาดใหญ่ ลึกกว่า 2 เมตร รองรับอยู่ด้านล่าง สามารถมองเห็นพื้นทรายและหินใต้ผืนน้ำได้อย่างชัดเจน และในแอ่งน้ำแห่งนี้ก็ยังมีปลาหลากหลายชนิดอาศัยอยู่ โดยเฉพาะปลาพลวงหิน สำหรับน้ำตกพลิ้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสที่นี่หลายครั้ง ในระหว่างปี พ.ศ. 2417-2424 ทรงชื่นชมว่าที่นี่เป็นน้ำตกที่สวยและงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ในบริเวณใกล้เคียงน้ำตกพลิ้ว มีสถูปพระนางเรือล่มตั้งอยู่ ซึ่งเป็นสถูปที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี โดยภายในบรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าฯ เอาไว้ด้วย8. วัดพระปรางค์เหลือง จังหวัดนครสวรรค์ภาพจาก ททท. วัดพระปรางค์เหลือง ตั้งอยู่ที่อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เป็นวัดเก่าแก่มีอายุมากกว่า 230 ปี ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับโบราณสถานเมืองบน จึงสันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกับอารยธรรมโบราณอย่างอาณาจักรทวารวดี มีโบราณสถานที่สำคัญคือ องค์พระปรางค์สีเหลืองทอง ซึ่งเป็นพระปรางค์ที่สร้างขึ้นใหม่ แทนพระปรางค์เก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณภายในวัด มีศิลปะแบบสมัยอยุธยาตอนปลาย ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสที่นี่ถึง 3 ครั้ง โดยครั้งที่สำคัญก็คือครั้งที่ 2 ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2449 ด้วยหลวงพ่อเงินได้ถวายการรดน้ำมนต์แด่พระพุทธเจ้าหลวง ร.5 หลังจากนั้นหลวงพ่อเงินก็ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูพยุหานุสาสก์ มีชื่อเสียงด้านรดน้ำมนต์จินดามณี9. เกาะลังกาจิว จังหวัดชุมพร เกาะลังกาจิว เป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทะเลชุมพร แต่ได้รับสัมปทานในการทำรังนก เพราะที่นี่มีถ้ำขนาดใหญ่และมีนกนางแอ่นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจึงได้รับอนุญาตให้ขึ้นเที่ยวชมเฉพาะบริเวณหาดทรายเท่านั้น ซึ่งหาดทรายที่นี่ก็มีความสวยงามน่าเที่ยว ทั้งสะอาดเงียบสงบ และน้ำทะเลก็ใสเป็นสีฟ้าราวกับกระจก พร้อมกับมีแนวปะการังให้ได้ดำน้ำชื่นชมอีกด้วย บริเวณปากถ้ำนกนางแอ่นยังปรากฏลายพระหัตถ์จารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เกาะแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย10. เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะเต่า เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่กลางทะเลอ่าวไทย ห่างจากเกาะพะงันประมาณ 45 กิโลเมตร ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทย ที่ต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง เพราะบรรยากาศบนเกาะเต่าจะเงียบสงบมาก ๆ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ น้ำทะเลรอบ ๆ เกาะเป็นสีฟ้าใสราวกับคริสตัล พร้อมกับแนวปะการังอันสวยงาม มีหาดทรายขาวสะอาดให้ได้นั่งพักผ่อนชิล ๆ อีกทั้งชาวบ้านบนเกาะก็ยังใช้ชีวิตสุดเรียบง่าย อยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน จึงเป็นจุดที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประทับใจ โดยในวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 1899 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสมายังเกาะเต่า และมีการจารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้บนแผ่นหินบริเวณหาดทรายรี ทางด้านตะวันตกของเกาะเต่า ถือได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวบ้านบนเกาะและคนไทยเลยทีเดียว นอกจาก 10 สถานที่ท่องเที่ยวข้างต้นแล้ว ในเมืองไทยก็ยังมีอีกหลายสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาส เอาไว้เดี๋ยว travel.kapook.com จะมานำเสนอให้เรื่อย ๆ นะคะ :)ขอขอบคุณข้อมูลจากททท , tkpark.or.th, kohkradadresorts.com, chula.ac.th, tkpark.or.th



บทความแนะนำ


พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะเที่ยวต่างประเทศราคาถูกเที่ยวต่างประเทศที่เที่ยวราชกิจจานุเบกษานักสืบออนไลน์โจหัวแตงโมภาพยนตร์ทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก