"หอจดหมายเหตุฯ ในหลวง ร.๙" น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณผ่านยุคสมัย
พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
"ถ้าประชาชนไม่ละทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะละทิ้งประชาชนอย่างไรได้..."
ความตั้งพระราชหฤทัยในการดูแลอาณาประชาราษฎร์
มีมาตั้งแต่ทรงขึ้นครองสิริราชสมบัติ ดังพระราชบันทึกเมื่อครั้งเสด็จฯ
ไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2489
จากบทพระราชนิพนธ์ ?เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิตเซอร์แลนด์? ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ พระองค์ได้ทรงอุทิศพระวรกาย
ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ด้านต่าง ๆ
อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยให้แก่ประเทศและประชาชนชาวไทยตลอดระยะเวลา 70 ปี
แห่งการครองราชย์
ไม่มีวันไหนที่พระองค์ท่านไม่เคยละทิ้งประชาชนเลยแม้แต่วันเดียว
"หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช"
ถึงแม้ว่ากาลเวลาอาจจะพรากพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักของปวงชนไป
แต่การน้อมระลึกถึงพระราชกรณียกิจต่างๆ
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ท่านจะยังคงอยู่ให้ประชาชนได้ศึกษาและเรียนรู้อย่างที่สถานที่อันเทิดพระเกียรติ
?หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช? จังหวัดปทุมธานี
ย้อนกลับไปในปีพ.ศ. 2539
อันเป็นปีมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงดำรงสิริราชสมบัติครบ
50 ปี
รัฐบาลได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดงานพระราชพิธีกาญจนาภิเษกซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีที่จะดำเนินการรวบรวมเอกสารจดหมายเหตุ
ที่เกี่ยวเนื่องในพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ
มาจัดเก็บและอนุรักษ์ไว้ตามระบบมาตรฐานงานจดหมายเหตุ
เพื่อประโยชน์ด้านการศึกษา ค้นคว้า วิจัย
"ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ" จำลองบรรยากาศในแต่ละยุคสมัย
กระทรวงศึกษาธิการ
จึงได้มอบหมายให้กรมศิลปากรจัดทำโครงการจัดตั้งหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นอนุสรณ์สถานในโอกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษก
และได้รับพระราชทานชื่อว่า ?หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช?
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร
เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคาร เมื่อวันที่ 30
กรกฎาคม พ.ศ. 2540 บนพื้นที่ 75 ไร่
"ดินแดนเสด็จพระบรมราชสมภพ" แท่นจำลอง "จัตุรัสภูมิพลอดุลยเดช"
รูปแบบของหอจดหมายเหตุฯ แห่งนี้
จะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัชกาลที่ 9 โดยมีนายเกรียงไกร
สัมปัชชลิต รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้ออกแบบ และนายอารักษ์ สังหิตกุล
อธิบดีกรมศิลปากร เป็นวิศวกรโครงสร้างในขณะนั้น มีลักษณะเป็นกลุ่มอาคาร 4
หลัง มีทางเชื่อมและลานอเนกประสงค์ รวมพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย
อาคารเก็บเอกสารจดหมายเหตุ เป็นอาคาร 9 ชั้น, อาคารให้บริการค้นคว้า
และอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติ จำนวน 2 หลัง
"พระบรมวงศานุวงศ์ในสมัยรัชกาลที่ 7"
อาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรตินี้จะอยู่ทางปีกซ้ายและปีกขวา
แต่ละอาคารจะจัดแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติทั้ง 3 ชั้น
เริ่มต้นกันที่ ?อาคาร 3? ทางด้านปีกซ้ายเป็นอาคารแรก ซึ่งในชั้นแรกนั้นจะประกอบได้ด้วย 4 หัวข้อ คือ ส่วนที่ 1 ?ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ? เป็นการนำเสนอวีดิทัศน์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ส่วนที่ 2 ?พสกนิกรจงรักภักดี?
เป็นการจำลองบรรยากาศบ้านเรือน ร้านค้าในยุคสมัยต่างๆ
และการแสดงออกถึงความจงรักภักดีของประชาชนในแต่ละยุคสมัย
มีการประดับพระบรมฉายาลักษณ์ ธงชาติและธงเฉลิมพระเกียรติ ส่วนที่ 3 ?ดินแดนเสด็จพระบรมราชสมภพ?
จะเป็นส่วนในการแสดงพระราชประวัติเตั้งแต่เมื่อครั้นเสด็จพระบรมราชสมภพ ณ
โรงพยาบาลเมานท์ออเบอร์น รัฐแมสซาชูเสตต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
และได้มีการจำลอง "จัตุรัสภูมิพลอดุลยเดช"(King Bhumibol
Adulyadej of Thailand Square)" ที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อระลึกถึงในหลวง
พระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในโลกที่ประสูติ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนที่ 4
?พระบรมวงศานุวงศ์ในสมัยรัชกาลที่ 7?
จัดแสดงเกี่ยวกับพระเมตตาของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี
พระพันวัสสาอยยิกาเจ้า ที่ทรงมีต่อเจ้านายราชสกุล ?มหิดล?
ซึ่งเป็นราชสกุลที่สืบเชื้อสายจากสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม
พระบรมราชชนก พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
จัดแสดงเกี่ยวกับการอภิบาลเลี้ยงดูอย่างดีจากสมเด็จย่าฯ
"ขณะเยาว์พระชันษา ณ วังสระปทุม"
ส่วนในช่วง "เถลิงถวัลยราชสมบัติ"ถัดจากชั้นแรก ขึ้นไปยังชั้นที่ 2 ของอาคาร 3 ประกอบด้วย 5 หัวข้อ ได้แก่ ส่วนที่ 1 ?ณ วังสระปทุม? ซึ่งจัดแสดงเหตุการณ์เมื่อตั้งแต่พ.ศ.2471 ที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงพาครอบครัวมหิดลเสด็จนิวัตประเทศไทย ส่วนที่ 2 ?ขณะเยาว์พระชันษา ณ วังสระปทุม? จัดแสดงพระราชจริยวัตรในวังสระปทุม
และการอภิบาลเลี้ยงดูอย่างดีจากสมเด็จพระบรมราชชนนี
เป็นส่วนจัดแสดงได้รับรู้ถึงความอบอุ่นของเจ้านายราชสกุล ?มหิดล? ส่วนที่ 3
?พระตำหนักในแดนไกล? เป็นส่วนจัดแสดงเหตุการณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
พระเชษฐา เสด็จขึ้นสืบราชสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 ส่วนที่
4 ?ตามเสด็จนิวัติพระนคร? จัดแสดงพระราชกรณียกิจต่างๆของรัชกาลที่ 8 โดยมีพระอนุชาโดยเสด็จด้วยเสมอ จนสวรรคต และในส่วนที่ 5 ส่วนสุดท้ายของชั้นนี้ ?เถลิงถวัลยราชสมบัติ?
จัดแสดงเหตุการณ์การเสด็จขึ้นครองราชย์ของรัชกาลที่ 9
พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส พระราชพิธีบรมราชาภิเษกและพระราชพิธีทรงพระผนวช
ซึ่งเรื่องราวต่างๆ นี้ เอง
เราได้จะเห็นพระราชประวัติและความรักที่พระองค์ท่านมีต่อพระราชินี
ห้อง "ดำรงราชย์ ดำรงรัฐ?
ต่อมาเดินขึ้นชั้นที่ 3 จะมีการจัดแสดง 2 หัวข้อ นั่นคือ ?ดำรงราชย์ ดำรงรัฐ? จัดแสดงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีความสำคัญและมีความผูกพันกับสังคมไทยนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และส่วนที่ 2 ?พระราชพิธีสำคัญในรัชกาล? ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับความหมายความสำคัญ รูปแบบและขั้นตอนของพระราชพิธีสำคัญๆ ที่มีในรัชกาล
จัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ขณะประทับและทรงงานภายในพระตำหนักจิตรลดารโหฐานจุดเริ่มต้นโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา
"ทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียง"
"โครงการพระราชดำริฝนหลวง"
จบจากอาคารที่ 3 แล้ว จึงเดินไปชมนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติใน ?อาคาร 4? กันต่อ โดยในฝั่งปีกขวานี้ จะต้องเริ่มต้นชมจากชั้นที่ 3 เป็นชั้นแรก ซึ่งชั้น 3ประกอบไปด้วย 7 ส่วนด้วยกัน นั่นก๋คือคือ ส่วนที่ 1 ?ศูนย์แห่งการทดลอง ศึกษา และพัฒนา? จัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ขณะประทับและทรงงานภายในพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน อย่าไงม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ต่อด้วยส่วน ?พระราชปณิธานอันมั่นคง? แสดงจุดเริ่มต้นโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของราษฏร ส่วนที่ 3 เกี่ยวกับ ?โครงการพระราชดำริฝนหลวง?
จัดแสดงพัฒนาการของโครงการฝนหลวงตั้งแต่พระราชทานพระราชดำริเมื่อพ.ศ.2498
จนปัจจุบัน รวมทั้งวิธีและการพัฒนาในการทำฝนหลวงของพระองค์
ตามมาด้วยส่วนที่ 4 ?การบริหารจัดการน้ำ? อันแสดงพระราชกรณียกิจแนวพระราชดำริในการบริหารจัดการน้ำ จากนั้นเป็นส่วนที่ 5 ของ ?ทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียง? แสดงแบบจำลองทฤษฎีใหม่ในการบริหารจัดการดินและน้ำเพื่อการเกษตร
แนวทางในการดำเนินงานทฤษฏีใหม่ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ต่อมาในส่วนที่ 6 ?พระปรีชาสามารถด้านศิลปะ? นอกจากพระองค์จะทรงงานพระราชกรณียกิจมากมายแทบมิได้ว่างเว้น
แต่ะองค์ยังคงมีพระปรีชาสามารถด้านจิตกรรม ประติมากรรม ภาพถ่าย หัตถกรรม
ดนตรี วรรณศิลป์ อีกมากมายให้ได้ชม และส่วนสุดท้ายของชั้นนี้ คือ ?พระมหากรุณาธิคุณด้านการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม? ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจด้านดังกล่าวอีกด้วย
"พระมหากรุณาธิคุณสู่ชายแดน""ในหลวงกับการปกครอง"
จากชั้นที่ 3 ไล่ลงมายังชั้นที่ 2 อันประกอบไปด้วย 4 ส่วนด้วยกันนั่นคือ คือ ?สาธารณสุขมวลชน? แสดงพระราชกรณียกิจด้านการสาธารณสุข และรางวัลที่ทรงได้รับจากองค์การอนามัยโลก ส่วนที่ 2 ?พระมหากรุณาธิคุณสู่ชายแดน? แสดงพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณต่อทหารและตำรวจตระเวนชายแดน ส่วนที่ 3 ?ในหลวงกับการปกครอง? จัดแสดงเกี่ยวกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ และส่วนสุดท้ายในชั้นนี้คือ ?เจริญพระราชไมตรี? ซึ่งจัดแสดงพระราชกรณียกิจในการเสด็จเยือนประเทศต่างๆเพื่อเจริญพระราชไมตรี
"พระบารมีปกเกล้าชาวไทย" |
จากนั้นเป็นส่วนแสดงในชั้นที่ 1 ของอาคารที่ 4
เป็นการเสด็จฯเยี่ยมราษฎรทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
และมีพระราชดำริอันเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการในพระราชดำริหลายโครงการ ณ
พระตำหนักตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปฎิบัติพระราชกรณียกิจ
และสุดท้ายก่อนจะจบการแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติเป็นส่วนของ ?พระบารมีปกเกล้าชาวไทย?
ซึ่งจัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ในหัวข้อ
รูปที่ประชาชนชาวไทยทุกบ้านมีไว้กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
และแสดงถึงความจงรักภักดี ความผูกพันของคนไทยต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
นอกจากนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติที่จัดแสดงด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยน่าสนุกและน่าติดตามแล้ว
ยังสามารถค้นคว้าและห้องสมุดจดหมายเหตุให้ได้ศึกษากันอีกด้วย
นี่จึงเป็นสถานที่เทิดพระเกียรติ
ให้พวกเราสามารถน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ท่าน
พ่อหลวงได้ทำเพื่อปวงชนชาวสยามมาโดยตลอดอย่างแท้จริง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
?หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช?
ตั้งอยู่ที่ ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
เปิดให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-16.30
น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.0-2902-7940