นั่งรถไฟไปเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน ทริปสั้น ๆ ที่ทำให้ประทับใจ

นั่งรถไฟไปเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืนแบบชิล ๆ ที่จะพาคุณไปรู้จักทั้งที่เที่ยวกาญจนบุรี ที่กิน และที่พักกาญจนบุรี เด็ด ๆ รับรองว่าทริปนี้มีความสุขและความสนุกชัวร์

เคยลองคิดเล่น ๆ กันดูหรือเปล่าว่าเพราะอะไรและทำไมกาญจนบุรี ถึงยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวที่อยากลองแบกเป้เที่ยวคนเดียวดูสักครั้ง อาจเป็นเพราะกาญจนบุรีเป็นเมืองที่ใกล้ชิดธรรมชาติ อากาศดี การเดินทางสะดวก หาของกินง่าย ฟังอย่างนี้แล้วใครบ้างที่ไม่อยากจะสวมวิญญาณนักเดินทาง แบกเป้ขึ้นหลัง...แล้วออกเดินทางไปเที่ยวที่กาญจนบุรีดูสักครั้ง

เดี๋ยวนี้การเดินทางไปเที่ยวกาญจนบุรีสามารถเดินทางได้เกือบครบทุกรูปแบบ แต่จะให้คลาสสิกเห็นทีจะหนีไม่พ้นการเดินทางด้วยรถไฟ หลายคนหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยวิธีนี้ เพราะเห็นว่าใช้เวลาค่อนข้างนาน รวมไปถึงอากาศบนรถไฟก็ค่อนข้างร้อน แต่เชื่อหรือไม่ว่าการเดินทางมาเที่ยวกาญจนบุรีด้วยรถไฟนี่แหละ ที่จะทำให้คุณรู้สึกอินไปกับตำนานเรื่องเล่าขานทางรถไฟสายกาญจนบุรี เพราะจุดที่รถไฟแล่นผ่านคือบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว และบริเวณทางรถไฟสายมรณะ ถือเป็นจุดท่องเที่ยวที่สวยงาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมบรรยากาศและวิวสองข้างทางที่จัดว่าสวยจริง ๆ

ตีตั๋วรถไฟจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี

การนั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ เดินทางไปกาญจนบุรี จำไว้ว่าไม่ได้ขึ้นที่สถานีหัวลำโพงนะคะ (จะมียกเว้นก็แต่ขบวนพิเศษในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ออกที่หัวลำโพง เวลา 06.30 น. ไป-กลับคนละ 120 บาท) ในวันธรรมดา ต้องไปขึ้นที่สถานีรถไฟธนบุรี สถานีรถไฟเก่าแก่ ตั้งอยู่ทางด้านหลังบริเวณโรงพยาบาลศิริราช แห่งบางกอกน้อย ขบวนรถไฟที่เดินทางไปยังกาญจนบุรีมีด้วยกันทั้งหมด 2 ขบวน คือตอนเช้า เวลา 07.45 น. กับตอนบ่าย เวลา 13.55 น. แต่สำหรับคนที่มีเวลาเที่ยว 2 วัน 1 คืน เราแนะนำว่าเดินทางขบวนเช้าน่าจะดีกว่า เพราะตามกำหนดคุณจะไปถึงสถานีน้ำตก (สถานีสุดท้ายปลายทาง) ตอนเวลา 12.40 น. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าการเดินทางประเภทไหน นักท่องเที่ยวก็ควรที่จะมีการเผื่อเวลาการเดินทางเอาไว้บ้างจะดีที่สุด

ภาพจาก LEE SNIDER PHOTO IMAGES / shutterstock.com

โดยเส้นทางขบวนรถไฟกรุงเทพฯ-กาญจนบุรีจะวิ่งผ่านสถานีต่าง ๆ ดังนี้ ตลิ่งชัน-ศาลายา-นครปฐม-หนองปลาดุก ท่าเรือน้อย-กาญจนบุรี-สะพานข้ามแม่น้ำแคว-วังเย็น-บ้านเก่า-ท่ากิเลน-ถ้ำกระแซ-วังโพธิ์-เกาะมหามงคล-น้ำตก (สามารถตรวจสอบตารางการเดินรถไฟเพิ่มเติมได้ที่ 58.181.223.158 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 02 220 4261, 02 220 4268) ใครรู้ตัวว่าเป็นคนขี้เบื่อ พกหนังสือไปสักเล่ม หรือเตรียมเพลย์ลิสต์เพลงในมือถือแบบจัดเต็มไว้ก็ดีนะคะ ช่วงระหว่างที่นั่งรถไฟจะได้มีกิจกรรมทำ ไม่นั่งเบื่อกันไปเสียก่อน

เที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรีและรอบเมือง

สำหรับคนที่มีเวลาน้อย การเที่ยวอยู่ในตัวเมืองเมืองกาญจนบุรีและรอบเมืองดูน่าเหมาะสมต่อช่วงเวลาที่มีอย่างจำกัดมากที่สุด เมื่อเดินทางมาถึงสถานีรถไฟกาญจนบุรี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในตัวเมืองได้โดยสะดวก โดยเลือกใช้บริการยานพาหนะได้หลายรูปแบบ หากอยากเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองแนะนำให้ใช้บริการรถสองแถว ซึ่งจะคอยวิ่งรับ-ส่งในตัวเมืองทุกวัน เพื่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น สะพานข้ามแม่น้ำแคว น้ำตกไทรโยค ช่องเขาขาด ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่คิวรถจะอยู่ในสถานีขนส่ง (หรือหากอยากเดินทางไปที่อื่น ๆ เป็นต้นว่าต่างอำเภอสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ kanchanaburi.dlt.go.th หรือสอบถามไปยังสถานีขนส่งกาญจนบุรี โทร. 034 511 182)

ภาพจาก SIHASAKPRACHUM / shutterstock.com

สถานที่เที่ยวหลักพลาดไม่ได้เมื่อนักท่องเที่ยวทุกคนมาเที่ยวในตัวเมือง เห็นจะเป็น "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" สัญลักษณ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี (อย่างไม่เป็นทางการ) นอกจากสะพานข้ามแม่น้ำแควแล้ว ที่เที่ยวใกล้ตัวเมืองกาญจนบุรีเองก็ดูมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยอย่าง "หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงคราม" ที่นำเอาวัตถุอุปกรณ์ ภาพวาดต่าง ๆ ช่วงสมัยสงครามมาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้รำลึกเป็นอนุสรณ์ถึงความโหดร้ายที่มนุษย์กระทำต่อกัน ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีสถานที่ที่แสดงถึงศิลปวัฒนธรรมให้เราได้เยี่ยมชม อย่าง "วัดถ้ำเสือ" "วัดถ้ำเข้าน้อย" และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่คุณสามารถไปเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับได้แบบสบาย ๆ

ที่พักหลากหลายสไตล์มีให้เลือกนอนไม่จำกัด

ใครที่แบกเป้ขึ้นรถไฟมาเที่ยวที่กาญจนบุรี จะคนเดียวหรือมีเพื่อนมาร่วมชะตากรรมด้วย ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องดีไปเสียทั้งหมด ใครที่มีเพื่อนมาด้วยแน่นอนว่างบประมาณทั้งในเรื่องค่ากินและค่านอน จะมีคนมาร่วมแชร์ค่าใช้จ่ายไปด้วย แล้วถ้ามาคนเดียวล่ะ ! ก็ไม่ต้องห่วงไป เพราะที่กาญจนบุรีมีที่พักริมน้ำแควสวย ๆ ราคาพอประมาณไม่ขูดเลือดขูดเนื้อจนเกินไปอยู่ตั้งหลายที่หลายทำเล เลือกเอาเลยว่าถูกใจที่ไหน ทั้งริมน้ำ แบบโฮมสเตย์ หรือในเมือง (เอาที่สะดวก) มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยยันหลักพัน จองให้เสร็จสรรพ พอเที่ยวจนครบวัน ถึงเวลาก็ไปเช็กอินเข้านอนได้สบายใจเฉิบ (เข้าไปดูที่พักกาญจนบุรีเพิ่มเติมได้ที่ "20 ที่พักกาญจนบุรี ริมน้ำ ท่ามกลางธรรมชาติบริสุทธิ์" และ "10 ที่พักแพกาญจนบุรี ตีตั๋วชมธรรมชาติแบบริงไซด์"

เสาะหาของอร่อยในจังหวัดกาญจนบุรี

โปรแกรมการเที่ยว 2 วัน 1 คืน ถ้ามัวแต่ตะลอนเที่ยวทั้งวันก็อาจจะทำให้เหนื่อยเกินไป เพราะแค่ที่เที่ยวในเมืองก็มีเยอะมากมายจริง ๆ เราขอแนะนำให้คุณเดินเล่น นอนเล่นอยู่ในที่พักบ้าง พอถึงช่วงหัวค่ำก็ลองออกไปหาของทานอร่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นปลาแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำ หรือแม้กระทั่งอาหารทะเลสด ๆ ก็มีให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว แต่จะให้ดีเมื่อมาถึงที่กาญจนบุรีแล้ว ลองมานั่งทานอาหารริมแพก็ดูจะเป็นเรื่องดีไม่น้อยเลยทีเดียว (ดูเพิ่มเติมได้ที่ "ปักหมุด 8 ร้านอาหารริมน้ำกาญจนบุรี ฟินทั้งอาหารและบรรยากาศ")

แต่เอาเข้าจริง ๆ ที่กาญจนบุรีไม่ได้มีแต่ร้านอาหารนั่งแพเท่านั้นที่เด็ด จะเป็นร้านริมทาง ริมถนน ในตลาด ก็มีของกินให้คุณได้เลือกทานกันแบบไม่ยั้ง เช่น "ข้าวเกรียบปากหม้อเจ้นุ้ย ท่าเรือ" "ครัวออฟโรดและกาแฟสด" "ครัวผักหวานบ้านไร่นฤบดินทร์" เป็นต้น สงสัยว่ากลับบ้านไปคราวนี้น้ำหนักอาจมีขึ้นสักกิโลสองกิโลแน่ ๆ

โบกมือลาจังหวัดกาญจนบุรี นั่งรถไฟกลับบ้าน

ตื่นเช้ามาอีกวัน ใครที่ยังติดลมอยากเที่ยวต่อ เราแนะนำให้คุณเช็กเอาท์ออกจากที่พักช่วงสาย ๆ เพราะว่าใกล้ ๆ สถานีรถไฟก็ยังมีที่เที่ยวที่เรายังพอมีเวลาไปเที่ยวได้อยู่นะ (โดยรถไฟเที่ยวขากลับจากสถานีน้ำตกมีด้วยกันทั้งหมด 2 ขบวน คือขบวนเช้า เวลา 05.25 น. และขบวนบ่าย เวลา 13.00 น.) เช่น "สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก" เป็นที่เที่ยวที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟกาญจนบุรีมาก ใช้เวลาเดินไม่ถึง 5 นาที แถมยังไม่เสียค่าเข้าชม เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่ฝังศพเชลยศึกช่วงระหว่างสร้างทางรถไฟสายมรณะ (เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-16.00 น. โทร. 034 511 200, 034 512 500)

ภาพจาก LEE SNIDER PHOTO IMAGES / shutterstock.com

หรือจะเป็น "พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า" ตั้งอยู่ภายในสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวการสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างไทยไปพม่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 การออกแบบและการสร้างทางรถไฟ สภาพภูมิศาสตร์ของทางรถไฟ สภาพชีวิตในค่ายเชลยศึก ด้านการแพทย์ ค่าของสงคราม การปฏิบัติการของทางรถไฟ การทิ้งระเบิดและการทำลายทางรถไฟ และเหตุการณ์หลังจากสงครามยุติ บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์จำลองได้เสมือนจริงมาก ใครที่ชอบและสนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ในยุคสงคราม บอกได้เลยว่าต้องห้ามพลาด (เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ tbrconline.com หรือโทร. 034 512721)

หลังจากที่แวะเที่ยวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเดินไปขึ้นรถไฟที่สถานีได้เลย เป็นอันว่าจบทริปสำหรับการเที่ยวกาญจนบุรีฉบับ 2 วัน 1 คืนแบบง่าย ๆ สบาย ๆ ซึ่งทั้งตารางเที่ยวและตารางเดินทางไม่แน่นหรือลำบากจนเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่คำแนะนำเบื้องต้นเท่านั้น จะให้ดีคุณเองก็ควรจะต้องทำการบ้านศึกษาเส้นทางการเดินทางต่าง ๆ เอาไว้บ้าง เพื่อที่ว่าจะได้พลิกแพลงทริปนี้ให้มีความสนุกมากยิ่งขึ้น เผื่อเอาไว้คราวหน้าที่คุณมีเวลามากกว่านี้ จะได้ไปสำรวจที่เที่ยวส่วนอื่น ๆ ของกาญจนบุรีได้มากขึ้น รับรองว่าคุณจะหลงรักจังหวัดนี้แบบไม่รู้ตัว

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2559

ขอขอบคุณข้อมูลจากtbrconline.com, เฟซบุ๊ก สถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง), railway.co.th, เฟซบุ๊ก ทีม พีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย