แชร์เก็บไว้เลยนะคะ !! คู่มือช่วยชีวิตลูกนกกระจอกที่ตกจากรัง (ฉบับประสบการณ์ตรง)

อ่าน 14,937

ขอบคุณ เว็บ พันทิป สมาชิกหมายเลข 703792 ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกนกเพิ่งเกิดที่ตกจากรัง เราขออนุญาต นำมาบอกต่อนะจ๊ะโดยมีข้อความ จากสมาชิกฯ ดังนี้"หิวมั้ย กินข้าวยังลูก มาๆๆ แม่ป้อน""อย่าทำเลอะสิ กินดีๆ เดี่ยวแม่ตีเลย""หายไปไหน มานี่เร้ววว มาๆๆๆ ทานข้าวได้แล้ว"....เสียงแม่ผมพูดเสียงสองบ้าง เสียงทะเลาะกันบ้าง มักจะดังมาจากห้องรับแขกบ้านเสมอแน่นอน... แม่ไม่ได้พูดกับผม และ ไม่ได้พูดกับหมาแต่ แม่พูดกับ นกกระจอกครับ...เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เมื่อประมาณ 8 เดือนก่อนคุณป้าข้างบ้านเจอลูกนกตัวแดงๆพึ่งฟักออกมาจากไข่ ตกอยู่ใต้ต้นมะม่วงเลยเอามาให้ช่วยดูแลน้องนกยังตัวแดง ไม่มีฃน และตายังปิด คาดว่าพึ่งออกจากไข่มาสดๆร้อนๆและพบว่าน้องมีอาการบาดเจ็บที่ขา กระดูกขาหลุดออกจากที่ภารกิจช่วยชีวิตจึงเริ่มต้นขึ้น

ขั้นตอนที่1 : คืนลูกนกสู่อ้อมอกแม่ขั้นแรกที่ลองทำ เพราะได้ยินมาบ่อยๆ คือให้เอาลูกนกไปวางไว้แถวๆที่เจอ โดยห้ามใช้มือจับลูกนกก่อนเด็ดขาด ไม่งั้นจะมีกลิ่นคนติดตัวและแม่ไม่รักผมเลยลองเอาไปวางและแอบดู ปรากฏว่า... เกือบโดนแมวคาดไปแDกจร้าาาโอเค ข้ามขั้นตอนนี้ไปละกัน

ขั้นตอนที่2: ตั้งไฟเบาๆ ให้ลูกนกค่อยๆสุก เอ้ย อุ่นใช้โคมไฟทังสเตน กก ลูกนกให้อุ่นเสมอ และหาผ้ารองพื้น อาจจะใช้หนังสือพิมพ์ฉีกเป็นเส้นๆรองอีกรอบนึงก็ได้

ขั้นตอนที่ 3 : หาอาหารให้ลูกนกกินขั้นนี้คิดอยู่นานมาก ว่าจะทำไง เพราะไม่เคยมีคนรอบตัวเลี้ยงนกกระจอกรอดเลยและโดนขู่มาตลอดว่า เลี้ยงไม่ได้ รอดยาก และไม่เชื่องกูเกิ้ลดูว่านกกระจอกกินอะไร ก็มีแต่ทั่วๆไปเช่นข้าว แมลงตัวเล็ก กินแทบทุกอย่าง(รู้แค่ ห้ามให้กินน้ำโดยตรง เพราะจะท้องอืดตาย)คิดไปคิดมา เลยเดาว่า มันน่าจะกินอาหารคล้ายๆนกเอี้ยง นกขุนทองได้ เพราะเป็นปากแบบจิกเหมือนกัน ทานได้ทั้งพืชและสัตว์เลยลองซื้ออาหารนกเอี้ยง นกขุนทอง มาลองป้อนดูโดยเอาอาหารเม็ด แช่น้ำให้นิ่มก่อน แล้วค่อยๆป้อนสรุป รอดจ้าา น้องทานได้โดยช่วงแรกก็ป้อนทีละนิดๆ ถี่หน่อย ประมาณ ทุกๆ 1-2 ชม. ต่อเม็ดพอโตมาก็ค่อยๆห่างขึ้นๆผมให้อาหารเม็ดแช่น้ำมาเรื่อยๆ จนน้องเริ่มโต ขนเริ่มขึ้นขั้นตอนที่ 4 : บินไปเลยลูกพ่อ

ครับ หัดให้น้องบินครับ เล่าให้ใครฟัง ก็โดนหาว่าบ้า 5555แต่ผมเคยดูสารคดี แม่นก ยังต้องสอนลูกนกบินเลยปัญหาคือ ... แล้วผมจะสอนนกบินไงวะเห้ย !!ตอนแรกว่าจะปาแบบ Angry Bird ... แต่ไม่น่าเวิร์ค

ผมเลยใช้วิธี ให้น้องยืนบนมือ แล้ว ยกขึ้น ยกลง (เหมือนขึ้นลงลิฟ)เพราะจังหวะที่เอามือลง น้องจะกระพือปีก เป็นการออกกำลังปีก และให้ชินกับการใช้ปีกไปในตัวทำได้สักพัก ก็ดีใจน้ำตาไหล น้องเริ่มบินเองได้จากตอนแรกแค่กระโดด ร่อนๆ ไกลขึ้นๆ สุดท้ายน้องบินไปมาในบ้านได้

ปัญหาที่พบ !!!ผ่านไปสักพักน้องบินได้ปรกติ แต่ๆ อยู่ดีๆ ขนที่ปีกก็เริ่มหลุด ทำให้น้องบินไม่ขึ้น !!เลยนึกได้ว่า น่าจะเป็นที่สารอาหารไม่พอ ทำให้ขนปีกไม่แข็งแรงผมเลยเริ่มโด๊ปน้อง ด้วยธัญพืช (อาการนกเขา) เอามาบดๆ แล้ววางไว้ข้างๆกันตอนแรกน้องกินไม่เป็น ต้องแอบคลุกๆไปกับอาหารเม็ด แต่ไม่นาน น้องก็เริ่มกินเองได้ตามธรรมชาติและ ขนปีกก็กลับมาแข็งแรกอีกครั้ง เย้ !ปรับสูตรอาหารใหม่หลังจากนั้น น้องก็แข็งแรง ร่าเริงดี บินทั่วบ้าน ไม่เจอปัญหาอะไรอีกครับ (นอกจากนิสัยที่ไม่ค่อยเหมือนนก)ผมไม่ได้ขังกรง ปล่อยให้น้องบินไปมาในบ้านเลยเพราะสงสาร ต้องคอยเช็ดถู อึน้องเอา แต่ส่วนใหญ่น้องจะอึแค่จุดที่น้องชอบอยู่ ไม่กี่จุด

น้องทำให้ผมรู้ว่า นกกระจอกก็เชื่องได้ และโคตรน่ารัก เวลาทำตาแป๊วๆมองหน้า หรืออ้อนขออาหารนี่ ละลายยยชอบมาให้กอด (ซุกในมือ) นอนตรงคอ (น่าจะอุ่น)ทุกวันนี้ ติดแม่ งอมแงม เพราะแม่คอยป้อนอาหารให้ เอ๊ะ หรือแม่ติดนกก็ไม่รู้ 555ปล. น้องชื่อ บอนชอน...สรุป วิธีการช่วยชีวิตลูกนกกระจอกที่ตกจากรัง!!1. ลองคืนพ่อแม่นก แต่ห้ามจับโดนตัว2. กกไฟให้อุ่นเสมอ3. ให้อาหารนกขุนทองแช่น้ำ ห้ามให้น้ำโดยตรง4. พอเริ่มโต ให้บดธัญพืชให้น้องทานด้วย5. น้องอึเยอะ อึบ่อย เป็นเรื่องธรรมชาติ ห้ามโกรธน้อง

หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่เจอลูกนกกระจอกตกมาจากรังนะครับ และหวังว่า ลูกนกหลายๆตัว จะมีโอกาสรอดมากขึ้นหากมีขั้นตอนไหนที่ผมทำผิดหลักการ รบกวนบอกด้วยนะครับ เพราะอันนี้ผมเขียนมาจากประสบการณ์ตรง ที่เลี้ยงน้องมากว่า 8เดือนขอบคุณมากครับแถม!!จากการสังเกต เสียงร้องของนองบอนชอน ทำให้พอจะคุยกับมันรู้เรื่องบ้างจิ้บๆ ปรกติ : เรียกหา ร้องเฉยๆจิ้บๆ เบาๆ อ่อยๆ : กำลังอ้อน หรือมีความสุขแจย๊กๆ (ทำเสียงไงดีเนี่ย 5555 เหมือนเวลาเรายิงฟันแล้วดูดน้ำลายอ่ะ) : รำคาญ หงุดหงิด หิวแจ๊กๆ : ร้องลั่นบ้าน เพราะโดนจับอาบน้ำ 5555



บทความแนะนำ


แฟชั่นโบฮีเมียนเสื้อลายสก็อตเทรนด์แฟชั่นแฟชั่นเสื้อลายสก็อตhttp://pet.kapook.com/view155036.htmlทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก