ข้าวโอ๊ต อาหารเพื่อสุขภาพ ทานแล้วช่วยป้องกันโรค + ลดน้ำหนัก

อ่าน 1,592

ข้าวโอ๊ตเป็นอีกหนึ่งชนิดอาหารที่เราชอบทานกันในมื้อเช้า บางคนอาจจะกินข้าวโอ๊ตผสมกับนม หรือทานเล่นก็ได้ แต่จะมีใครรู้มั้งไหมนะว่า ?ข้าวโอ๊ต? นั้น ยิ่งทานมาก ก็ยิ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งช่วยในการป้องกันโรคต่างๆ มีโปรตีน และไฟเบอร์สูง รวมถึงช่วยให้สาวๆ ที่กำลังคิดจะลดน้ำหนักก็ช่วยได้นะ อยากรู้แล้วใช่มั้ยว่ามันจะช่วยได้อย่างไรบ้าง แล้วจะมีคุณค่าทางอาหารมากน้อยเพียงใด มาอ่านกันเลย ?

ข้าวโอ๊ต อาหารเพื่อสุขภาพ

ความเป็นมาของข้าโอ๊ต (Oat) ?

ข้าวโอ๊ตเป็นพืชที่เติมโตในเขตเมืองหนาว ทนต่อภาวะแห้งแล้ง และแสงแดดได้ดี ซึ่งเดิมที่แล้วข้าวโอ๊ตเป็นเพียงแค่ต้นหญ้าที่คอยขึ้นแซมในทุ่งข้าวสาลี เป็นเพียงแค่อาหารของสัตว์เท่านั้น

เพราะเมล็ดของมันมีเนื้อสัมผัสที่หยาบทานแล้วไม่ลืนคอเหมือนดั่งข้าวทั่วไป

แต่ต่อมาในยุคที่เกิดการขาดแคลนอาหารการกิน

ข้าวโอ๊ตกลับเป็นอาหารที่สามารถช่วยประทังชีวิตผู้คนในเขตเมืองหนาวได้

ข้าวโอ๊ตจึงกลายมเป็นอาหารหลักในประเทศแถบยุโรปเหนือ และรัสเซียนั่นเองคะ

และเริ่มเป็นที่แพร่หลายออกไปในประเทศต่างๆ

สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายอย่างเลยด้วยกัน จนถึงปัจจุบันนี้

การแบ่งประเภทของข้าวโอ๊ต

สามารถแบ่งได้ 3 แบบใหญ่ๆ ตามลักษณะของเนื้อข้าวโอ๊ต และวิธีการผลิต

1. โอ๊ตมีล

จะมีลักษณะเป็นผงหยาบๆ เมื่อนำมาเติมน้ำ หรือนมจะมีลักษณะคล้ายๆ โจ๊ก หรือข้าวต้ม โดย

โอ๊ตมีลจะได้จากการสับเมล็ดข้าวโอ๊ตออกเป็นชิ้นหยาบๆ

จึงทำให้สารอาหารยังอยู่ครบถ้วน รวมถึงส่วนของรำข้าวโอ๊ตด้วย

เราจะคุ้นตากับการนำโอ๊ตมีลมาเติมลงในน้ำ หรือนม ต้มให้สุก

และทานคู่กับผลไม้เป็นอาหารเช้า

2. โรลโอ๊ต

มีลักษณะเป็นเกร็ดคล้ายๆ กับซีเรียล โดยโรลโอ๊ตจะได้จากการนึ่งข้าวโอ๊ตให้สุก

จากนั้นก็นำมากดทับให้แบนด้วยลูกกลิ้ง และนำมาอบให้แห้งอีกครั้ง

โดยโรลโอ๊ตนิยมนำมาเป็นส่วนผสมของขนมอบ และนำมาผสมกับผลไม้แห้ง ถั่ว

หรือที่เรียกว่า ?มูสลี่ และกราโนล่า? นั่นเอง

3. ข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปพร้อมทาน

ข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปพร้อมทานจะมีลักษณะ และการผลิตเหมือนกับโรลโอ๊ต คือ

จะทำให้ข้าวโอ๊ตสุกเสียก่อนด้วยการนึ่ง

ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าโรลโอ๊ตเมื่อให้ข้าวโอ๊ตสุกเต็มที่ ก่อนที่จะนำสับ

และมาอบให้แห้ง แล้วทำการปรุงรสต่างๆ เพื่อให้ทานได้ง่าย

และสะดวกกับผู้รับประทาน เพียงแค่เติมน้ำร้อนก็จะได้ซุปนุ่มๆ หวานๆ

โดยไม่ต้องเติมอะไรอีก

ประโยชน์อันมากมายของข้าวโอ๊ต

ข้าวโอ๊ตถือเป็นธัญพืชชนิดไม่ขัดสี ซึ่งแน่นอนการทานธัญพืชช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคได้มากมาย ทั้งโรคหัวใจ และความดันโลหิต อุดมไปด้วยวิตามิน B ธาตุเหล็ก เม็กนีเซียม และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่

มีอย่างมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม

การทานข้าวโอ๊ตให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรมั่นใจว่าข้าวโอ๊ตที่คุณเลือกจะไม่มี

การเติมน้ำตาล และเกลือในปริมาณสูงเกินไป

1. มีคอเรสเตอรอลต่ำ

การทานข้าวโอ๊ตเป็นประจำสามารถช่วยลดปริมาณคอเรสเตอรอลได้โดยเฉพาะไขมัน

ชนิดเลวอย่าง LDL และช่วยเพิ่มไขมันดีให้กับร่างกาย

จึงไม่น่าสงสัยเลยที่ข้าวโอ๊ตจะถูกแนะนำเป็น หนึ่งใน 5

ของอาหารที่ช่วยจัดการปัญหาระดับคอลเรสเตอรอลในร่างกายได้

ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน และโรคหัวใจได้อีกด้วย

2. ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน

การทานข้าวโอ๊ตจะช่วยคงระดับน้ำตาลในเลือดที่มีแนวโน้มพุ่งสูงเกินไปได้

โดยจะชะลอการย่อยคาร์โบไฮเดรต

และลดปริมาณน้ำตาลที่กำลังจะเข้าสู่กระแสเลือดของเรา

นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือดโดยเพิ่มระดับอินซูลินเข้าไป

ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

3. ป้องกันโรคมะเร็งได้

ข้าวโอ๊ตไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติในการดูดซับไขมัน และคอเลสเตอรอลในร่างกายเท่านั้น

แต่ยังช่วยดูดซับสารพิษในร่างกาย

อันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งหลากชนิดได้อีกด้วย

คนที่รับประทานรำข้าวโอ๊ตเป็นประจำ จะลดโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้,

มะเร็งเต้านม, มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งมดลูกได้

4. ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย

นอกจากนี้แล้วในข้าวโอ๊ตยังมีปริมาณไฟเบอร์สูง ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ดังนั้นหากใครกำลังมีปัญหาระบบขับถ่ายอยู่ตอนนี้ เราแนะนำให้ทานข้าวโอ๊ต พร้อมกับให้ดื่มน้ำเปล่าตามเข้าไปเยอะๆ อีกด้วยนะ

5. ให้โปรตีนสูง

ในข้าวโอ๊ตจะประกอบด้วยโปรตีน และกรดอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายมากถึง 6 ชนิด โดยแป้งในข้าวโอ๊ตนั้นถือเป็นแป้งที่ย่อยง่าย เพราะมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่ช่วยในการย่อย มีไขมันต่ำ และเกือบทั้งหมดเป็นไขมันอิ่มตัวเชิงซ้อน ที่ดีต่อร่างกาย

6. ช่วยลดน้ำหนักได้

ข้าวโอ๊ตอุดมไปด้วยใยอาหาร ทำให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายโดยเฉพาะลำไส้เราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วย

ลดอาการท้องผูก ลดการดูดซึมน้ำตาล ไขมัน และของเสียต่างๆ

นั้นหมายถึงเมื่อเราทานข้าวโอ๊ตในมื้อเช้า จะทำให้เราได้รับพลังงาน

และเติมกระเพาะของเราทำให้อิ่มอยู่ได้นาน

ซึ่งดีกว่าการทานอาหารเช้าที่มีน้ำตาล และไขมันสูงๆ

ที่จะทำให้รู้สึกหิวเร็วขึ้น

นอกจากนี้ยังมี เบต้ากลูแคน

ซึ่งเป็นเส้นใยอาหารที่สามารถละลายในน้ำได้ดี

มีคุณสมบัติคอยดูดซับคอเลสเตอรอลในลำไส้เล็ก

และปล่อยเป็นของเสียออกจากร่างกาย โดยมีงานวิจัยรับรองจาก

องค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) ว่า

หากร่างกายได้รับเบต้ากลูแคนอย่างน้อย 3 กรัมต่อวัน

อาจช่วยลดปัญหาคอเลสเตอรอลได้

จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอล

และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรับประทานควบคู่กับอาหารชนิดอื่นให้หลากหลายด้วย

????????????????

ข้อมูลจาก :

http://prayod.com,http://www.lovefitt.com,http://preventcancer.aicr.org

ภาพจาก :

http://byyourside.tefal.com,http://www.foodnavigator-usa.com



บทความแนะนำ


หน้าเด็กการลดริ้วรอยดูดวงลีกแชมเปี้ยนส์ความเชื่อข่าวกีฬาผิวเหี่ยวย่นทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก