อยู่ไม่สุข! พยานคดี "ครูจอมทรัพย์" หวั่นถูกอุ้มฆ่า กลางคืนอยู่แต่ในบ้าน
พยานคดี "ครูจอมทรัพย์" อยู่ไม่เป็นสุข
หลังให้สัมภาษณ์ข้อมูลสื่อมวลชนยันคนขับรถชนเป็นผู้ชายเหมือนที่ให้การชั้นศาล
กลัวถูกอุ้มฆ่าจนไม่กล้าออกจากบ้านช่วงกลางคืน ลั่นไม่เข้ากรุงเทพฯ
ออกรายการทีวีเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม ว่าหลังจากที่นางทองเรศ วงศ์ศรีชา
วัย 51 ปี อาชีพทำนา เพื่อนของนางทัศนีย หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี
หนึ่งในพยานปากเอกที่เห็นเหตุการณ์ขณะซ้อนท้ายจักรยานยนต์
และพบเห็นนายเหลือ พ่อบำรุง ถูกรถชนคนตาย
และยังไปเป็นพยานในชั้นศาลครั้งแรกและครั้งเดียวพร้อมกับนางทัศนีย์ให้กับนางจอมทรัพย์
แสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร
ที่ถูกกล่าวหาว่าขับรถชนคนตาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2548 นั้น
ล่าสุดนางทองเรศกล่าวว่า หลังตกเป็นข่าวว่าเป็น 1 ใน 2
พยานปากเอกที่เคยไปให้การชั้นศาลคดีครูจอมทรัพย์เมื่อหลายปีก่อน ตลอด 2-3
วันที่ผ่านมามีนักข่าวโทรทัศน์จากหลายช่องเดินทางมาสัมภาษณ์ตนถึงบ้านพัก
และยังมีรายการโทรทัศน์ข่าวรายการหนึ่งโทรศัพท์มาถามเรื่องที่ตนไปขึ้นศาลพร้อมกับนางทัศนีย์
?ฉันก็ให้สัมภาษณ์สดออกอากาศยืนยันคำเดิมว่า
คนขับรถชนนายเหลือในวันนั้นสวมเสื้อแขนยาว ใส่รองเท้าหนัง
หลังจากคนร้ายเป็นชายขับรถชนแล้วก็เปิดประตูฝั่งคนขับลงจากรถมาสักพัก
ก่อนขึ้นรถเร่งเครื่องหลบหนีไป
นักข่าวจะถามกี่ครั้งก็บอกไปว่าคนที่เปิดประตูรถเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง
ซึ่งก็เป็นไปตามที่ให้การในชั้นศาลไปแล้ว? นางทองเรศกล่าวย้ำ
เมื่อถามว่า หลังเป็นข่าวออกสื่อหลายสำนักกลัวอะไรหรือไม่
นางทองเรศบอกว่า กลัวเรื่องที่ให้ข่าวไปอยู่เหมือนกัน เพราะอยู่บ้านคนเดียว
ส่วนสามีตายตั้งแต่ปี 2540 มีลูก 2 คน คนหนึ่งก็แยกไปมีครอบครัว
ส่วนลูกคนเล็กก็ต้องตระเวนไปเล่นดนตรีเป็นมือกลอง
โดยหลังจากที่ตนให้ข่าวกับสื่อมวลชนที่มาถามย้ำคำถามเดิมๆ
ก็บอกไปตามเดิมที่ได้พบได้เห็นไปแล้ว และยังยกมือสาบานแล้วสาบานอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้ กลัวอะไรมากที่สุด นางทองเรศกล่าวยอมรับว่า
หลังจากให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวรู้สึกหวาดผวาพอสมควร
โดยเฉพาะช่วงกลางคืนต้องคอยระมัดระวังและอยู่แต่ในบ้าน ไม่กล้าเดินออกไปไหน
กลัวคนมาอุ้มไปฆ่า เมื่อถามต่อว่าหากมีคนเชิญไปออกรายการทีวีในกรุงเทพฯ
จะไปหรือไม่ นางทองเรศกล่าวปฏิเสธว่า ตนไม่ไปเด็ดขาดขออยู่บ้านดีกว่า
กลัวไม่ปลอดภัย