สาวโพสต์ดราม่าคลิปไล่-ยิงใส่ช้างป่าตกบ่อน้ำ วิ่งเตลิด จนถูกด่ายับ สุดท้ายชาวเน็ตแฉกลับ กุเรื่องเรียกไลค์

หลังสาวโพสต์ดราม่าคลิปไล่-ยิงใส่ช้างป่าตกบ่อน้ำ วิ่งเตลิด จนถูกด่ายับ สุดท้ายชาวเน็ตแฉกลับ เหตุเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือช้างตกบ่อ ด้านรองอธิบดียันทุกคนทำงานด้วยใจ ไม่มีใครอยากทำร้ายช้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์เกิดกระแสการแชร์คลิปจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งระบุว่า ?ใจคอทำด้วยอะไรกัน ไม่มีความเมตตาสงสารกันบ้างเลยเหรอ....ไล่ต้อนพวกเขาจนตกบ่อ พอช่วยกันขึ้นมาก็ยังไปไล่ต้อนไล่ยิงเขาอีก ช้างที่เตลิดและตกใจขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ทิศไหนเป็นทิศไหนหรอกนะ ไม่เข้าใจจิตใจมนุษย์เห็นแก่ตัวพวกนี้จริงๆ ว่าทำไมถึงได้ใจร้ายกันขนาดนี้? พร้อมเผยคลิปวินาทีช่วยช้างขึ้นจากบ่อโคลน จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของกลุ่มคนดังกล่าวเป็นอย่างมาก

ในขณะที่ชาวเน็ตอีกฝ่ายกลับบอกว่าเป็นการช่วยช้างขึ้นจากบ่อของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่การทำร้ายสัตว์อย่างที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวโพสต์ไว้ คาดว่าผู้โพสต์ต้องการเรียกยอดไลค์จากคนดูมากกว่า

จากกรณีดังกล่าว นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบุว่า ปกติแล้วการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการช่วยช้างป่าขึ้นจากหลุมหรือบ่อโคลนเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะโดยนิสัยของช้างป่าแล้วเราไม่สามารถคาดเดาอารมณ์เขาได้ ยิ่งถ้าช้างมีหลายตัวตามที่ปรากฎในคลิป ก็ยิ่งอันตรายขึ้นไปอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถยิงยาซึมใส่ช้าง แล้วลากจูงเขาขึ้นมาด้านบนบ่อ จึงต้องใช้รถแบคโฮหรือใช้แรงคนในการทำทางขึ้นจากบ่อ ทำให้ช้างมีความเครียดมากขึ้น

ซึ่งตนมองว่าการที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวนำไปโพสต์นั้นคงจะมองเจตนาของเจ้าหน้าที่ผิดไป จึงอยากจะให้ชาวโซเชียลมีเดียเสพสื่อต่างๆ อย่างมีสติ ตรวจสอบที่มาของคลิปต่างๆ ก่อนการแชร์ เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯคนไหนมีเจตนาทำร้ายสัตว์ ทุกคนล้วนอยากช่วยสัตว์ และทำงานด้วยใจมากกว่า

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ตามคลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไนไล่ต้อนช้างป่า 40 ตัวกลับเข้าป่า หลังจากที่เข้ามานอนหลังสวนป่าอรัญปิยวงศ์ หมู่ 3 ต.พวา อ.แก่งหาแมว จ.จันทบุรี โดยได้ไล่ต้อนเข้าป่าแล้วกว่า 30 ตัว แต่กลับมีช้างป่า 5 ตัวตกบ่อน้ำขณะลงไปกินน้ำ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือขึ้นจากบ่อน้ำดังกล่าวจนปลอดภัยครบทุกตัว

ขอบคุณภาพจาก FB อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช