คืบหน้า! ค้นหาเซลส์แมนหนุ่ม นักประดาน้ำเจอชิ้นส่วนกระดูก ตร.เร่งพิสูจน์

หลังควานหาเบาะแสในน้ำ ใต้ทางด่วนต่างระดับฉิมพลี นักประดาน้ำพบชิ้นส่วนกระดูก ตำรวจคาดว่า อาจเป็นของเซลส์แมนโตโยต้า ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ขณะผู้เป็นพ่อให้ตำรวจเก็บเส้นผม เปรียบเทียบดีเอ็นเอทันที เชื่อว่าลูกชายยังไม่ตาย ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมประชุมเร่งคดี พร้อมเรียกภรรยาเซลส์แมนเข้าพบ ก่อนเช็กมือถือ และสอบปากคำนานกว่า 3 ชม. ให้การเป็นประโยชน์ไม่มีพิรุธ

จากกรณี นายรัติภูมิ หรือเบิร์ด พิมใจใส อายุ 34 ปี เซลส์แมนหนุ่มหน้าตาดี ศูนย์จำหน่ายรถยนต์โตโยต้า สาขาเกษตร-นวมินทร์ หายตัวไป ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมา

น.ส.นันทิยา สุวรรณวาลี ภรรยา และญาติ ๆ ได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สน.ธรรมศาลา เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยให้ข้อมูลว่านายเบิร์ด โทรศัพท์ติดต่อกับผู้จัดการศูนย์ฯ เป็นคนสุดท้าย เพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมแชร์สถานที่อยู่บริเวณซอยบรมราชชนนี 78 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งญาติกลัวว่าจะได้รับอันตราย เนื่องจากทราบว่านายเบิร์ดไปมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับ น.ส.มิ้ว ที่คบหาอยู่กับทหารนายหนึ่งยศ พันเอก กระทั่งนายทหารเข้าพบตำรวจ ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง

ขณะที่ตำรวจพบโทรศัพท์มือถือนายเบิร์ด เงินสด 20,000 บาท พระเครื่องเลี่ยมทอง 3 องค์ และไอซ์น้ำหนัก 2 กรัม ตกอยู่เกาะกลางถนนหน้าสายใต้ใหม่ และตรวจค้นบ่อน้ำพบรองเท้าที่คาดว่าเป็นของนายเบิร์ด ยิ่งสร้างความกังวลใจให้กับทางครอบครัว

ความคืบหน้าต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 4 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ธรรมศาลา พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี เดินทางไปยังบริเวณใต้ทางต่างระดับฉิมพลี หรือสวนสาธารณะร่มเกล้า ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน บริเวณหนองน้ำ เพื่อค้นหานายเบิร์ด อีกครั้ง หลังพบรองเท้าซึ่งคาดว่าเป็นของผู้สูญหาย

โดยเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากพยาน 3 ปาก ให้การคล้ายกันว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะตกปลา ได้กลิ่นเหม็นคละคลุ้งเหมือนซากศพ จนต้องหนีไปตกปลาที่อื่น ทั้งนี้นักประดาน้ำ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงค้นหาเบื้องต้นพบชิ้นส่วนกระดูก บริเวณใกล้ต้นโพธิ์ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกของมนุษย์ หรือสัตว์ชนิดใด

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ปูพรมค้นหาร่องรอยต่อเนื่องนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงยุติการค้นหา ก่อนนำกระดูกและรองเท้า ส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เก็บหลักฐานไว้เปรียบเทียบดีเอ็นเอต่อไป

ต่อมาเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน นายละเอียด พิมใจใส อายุ 65 ปี บิดานายเบิร์ด เข้าพบตำรวจที่ สน.ธรรมศาลา และเจ้าหน้าที่เก็บดีเอ็นเอ จากกระพุ้งแก้ม เส้นผม โดยนายละเอียด เปิดเผยว่า ตำรวจเรียกมาเก็บดีเอ็นเอ ไปเปรียบเทียบกับวัตถุพยาน ซึ่งเป็นชิ้นส่วนกระดูกที่พบ ส่วนรองเท้ายืนยันว่าไม่ใช่ของลูกชายแน่นอน เพราะลูกชายเป็นคนเนี้ยบ ใช้ของอย่างพิถีพิถัน ไม่ใส่รองเท้าแบบเหยียบส้น ซึ่งรองเท้าที่พบเจอมีลักษณะโดนเหยียบส้นมาเป็นเวลานาน

ทั้งนี้ส่วนตัวคิดว่าลูกชาย น่าจะยังมีชีวิตอยู่ เพราะดูดวงลูกชาย พบว่ามีเคราะห์ แต่ยังไม่ถึงฆาต คิดว่าคงหลบอยู่ที่ไหนสักแห่ง สำหรับเรื่องที่ลูกชายหายไปนั้น ตนคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องชู้สาวอย่างแน่นอน เพราะสาวคนล่าสุดที่คบหา มีสามีแล้ว และตนเคยตักเตือนไปแล้ว

ต่อมา เวลา 16.15 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาร่วมประชุมที่ สน.ธรรมศาลา เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า หลังสั่งการไปแล้ว จึงมาประชุมสรุปว่า ชุดสืบสวนทำอะไรไปบ้าง และต้องดำเนินการอะไรต่อไป เบื้องต้นยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือต้องพยายามหาตัวนายเบิร์ดให้พบ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

ต่อมาเวลา 16.45 น. นางนันทิยา (ภรรยา) เดินทางเข้าให้ปากคำตำรวจ โดยเมื่อมาถึงก็เดินทางเข้าไปยังห้องประชุมทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ นางนันทิยา ก่อนเป็นอันดับแรก

กระทั่งเวลา 19.00 น. หลังใช้เวลาประชุมกว่า 3 ชั่วโมง พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าเรื่องชู้สาว หรือ ยาเสพติด ซึ่งจากการสอบปากคำภรรยานายเบิร์ด ให้การที่เป็นประโยชน์ ไม่พบพิรุธใด จึงกำชับให้ชุดสืบสวน เร่งออกหาข้อมูลเพื่อติดตามตัวนายเบิร์ด ให้เจอเร็วที่สุด

สำหรับนายเบิร์ด ถือเป็นคนหน้าตาดี พูดจาดี แต่งตัวดี ทำให้มีผู้หญิงมาติดพัน ซึ่งนอกจาก น.ส.มิ้ว แล้ว ตำรวจยังสืบทราบว่ามีหญิงอื่นอีกที่มาติดพันนายเบิร์ด จึงจะเร่งติดตามตัวหญิงคนดังกล่าวมาสอบสวน ซึ่งน่าจะได้ความกระจ่างมากขึ้น