DSI ขีดเส้นตาย!!! ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง "ออกจากวัดพระธรรมกาย" ภายใน 15.00 น. วันนี้!!!
(19 ก.พ. 60) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1
พล.ต.พัลลภ เฟื่องฟู ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน
ร่วมประชุมประเมินสถานการณ์
และปรับแผนการตรวจค้นวัดพระธรรมกายและบริเวณพื้นที่ควบคุมตามคำสั่ง
หน.คสช.ที่ 5/2560 โดยีเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ
และสำนักพระพุทธศาสนา ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 อ.คลองหลวง
จ.ปทุมธานีพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการสนธิกำลังกับหน่วยงานต่างๆเพื่อดำเนินการตรวจค้นวัดพระธรรมกายมูลนิธิธรรมกายและพื้นที่โดยรอบเพื่อติดตามจับกุมพระธัมมชโย
อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560
ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 3 วันนั้น
แม้ในทางปฏิบัติจะสามารถตรวจค้นเพื่อพิสูจน์ทราบอาคารสถานที่ได้
ในการปฏิบัติยังคงมีบุคคลภายนอกเข้ามาปะปนในบริเวณวัด มีการทำกิจกรรมต่างๆ
อย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้โดยสะดวก
เนื่องจากประชาชนที่อยู่ในบริเวณที่ตรวจค้นรอฟังคำสั่งการปฏิบัติจากพระภิกษุเป็นหลัก
รวมถึงมีการสร้างกระแสข่าวว่า
เจ้าหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้บุคคลภายในวัดออกนอกพื้นที่วัดและมูลนิธิธรรมกาย
โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของเจ้าหน้าที่
และหากออกไปอาจถูกตรวจสอบและถูกดำเนินคดี
ทำให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวไม่กล้าเดินออกไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาจากพฤติกรรมดังกล่าวจึงทำให้การดำเนินการตรวจค้นไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ทั้งที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในฐานะผู้รับผิดชอบการปฏิบัติการตามคำสั่ง
คสช ที่ 5/2560 ได้ออกคำสั่งที่ 1/2560
เรื่องการปฏิบัติการในเขตพื้นที่ควบคุมตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560
ไว้แล้วดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติการหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นบริเวณพื้นที่ควบคุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถคืนพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วจึงได้แถลงการณ์ดังต่อไปนี้
1. ให้พระภิกษุสามเณรและประชาชนที่มิได้มีที่อยู่ในพื้นที่วัดพระธรรมกาย
มูลนิธิธรรมกาย ออกจากพื้นที่ภายในบริเวณ 15.00 น. ของวันนี้
โดยสามารถเดินทางออกได้ทุกประตูทางออก
โดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่และยานพาหนะเครื่องอำนวยความสะดวกในการเดินทางออกนอกพื้นที่2. ภายหลังระยะเวลาตามข้อ 1.
ให้พระภิกษุสามเณรและประชาชนซึ่งมีที่อยู่ในบริเวณที่ดังกล่าวมารายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เต็นท์ที่พักบริเวณประตู
โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจะเข้าตรวจสอบหนังสือสำคัญของพระภิกษุหรือใบสุทธิ
และพนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบบัตรประชาชน
และดำเนินการลงทะเบียนทั้งนี้พนักงานเจ้าหน้าที่จะเดินแปลงการกวดขันการปฏิบัติตามคำสั่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่
1/2560 เรื่องการปฏิบัติการเขตพื้นที่ควบคุมตั้งแต่วันนี้ เวลา 12.00 น.
เป็นต้นไป โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามคำสั่ง คสช.
ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ