"คลอดลูก16สัปดาห์" ไม่กล้าจับ ไม่กล้ามองหน้า แต่คำพูดของพยาบาล ทำให้เปลี่ยนใจ !!

ครอบครัวที่กำลังเริ่มต้นอย่างมีความสุขและนับวันรอคอยลูกน้อยลืมตาดูโลกกลับต้องพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่อหมอบอกกับพวกเขาว่า "ลูกน้อยมีภาวะความผิดปกติ" จนถึงขั้นที่อาจจะเสียชีวิตในครรภ์...และจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตที่ทำให้เธอตัดสินใจเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ออกสู่โซเชียลเพื่อเป็นกำลังใจและเผยแง่มุมชีวิตที่ไม่อยากให้ใครต้องพบเจอ

Heather Miller (ฮีทเทอร์ มิลเลอร์) ผู้ที่กำลังจะเป็นแม่คนและมีครอบครัวที่อบอุ่นกลับต้องพบเจอกับเรื่องราวที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตเธอ เมื่อเดินทางไปตรวจสุขภาพขณะที่อายุครรภ์ได้ 15 สัปดาห์ ซึ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอกำลังไปได้ดีและเตรียมพร้อมต้อนรับลูกชาย James Alvin Miller (เจมส์ อัลวิล มิลเลอร์) ที่กำลังจะลืมตาดูโลก

แต่แล้วเธอและสามี Christopher (คริสโตเฟอร์) แทบล้มทั้งยืนเมื่อหมอบอกว่า "เด็กหัวใจหยุดเต้น" และต้องนำเด็กออกมา ซึ่งภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาพวกเขาทำใจรับไม่ได้ กับร่างของลูกน้อยตัวสีแดงและแข้งขาเล็กจิ๋ว และปฏิเสธที่จะจับตัวลูกน้อย หรือแม้แต่จะถ่ายรูปร่วมกัน

จนกระทั่งนางพยาบาลรายหนึ่งได้เข้ามาหาพวกเขา พร้อมพูดให้กำลังใจและบอกกับพวกเขาว่า "คุณรู้มั้ย ตั้งแต่ชั้นทำงานในห้องคลอดมาและเห็นภาพเหล่านี้มานับครั้งไม่ถ้วน เชื่อเถอะว่าการปฏิเสธในวันนี้คือสิ่งที่จะทำให้คุณเสียใจไปทั้งชีวิต พ่อแม่มากมายพร่ำบอกว่าพวกเขาเสียใจแค่ไหนที่ไม่ยอมถ่ายรูปลูกน้อย ไม่ยอมสัมผัสตัวเขา" และนั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ฝ่ายของสามีถ่ายรูปคู่กับลูกชายและอุ้มเขาไว้ในมือทั้งน้ำตา...

นางฮีทเทอร์ กล่าวว่า "พวกเราอยู่ในความเสียใจและสิ้นหวังจนทำอะไรไม่ถูก" เรื่องเลวร้ายนี้ทำให้เธอแทบขวัญเสีย และไม่อาจทำใจรับกับความจริงตรงหน้าได้ "พวกเรามีรูปถ่ายของเขา(ลูกชาย) แค่ 4 ใบเท่านั้น และมันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันเสียใจที่สุด เพราะเราควรทำมากกว่านั้น"

เธอกล่าวว่า "ฉันเสียใจที่ไม่กล้าหาญพอที่จะโอบกอดเขาไว้นานกว่านั้น, ไม่จูบหน้าผากของเขา และไม่แม้แต่จะเงยหน้ามามองกล้องหรือถ่ายภาพครอบครัว" แม้ว่าภาพพวกนี้จะทำให้หลายคนหดหู่ และไม่ชวนมอง แต่มันเป็นการตัดสินใจของเธอที่อยากแชร์เรื่องราวให้คนอื่นได้รับรู้ และใช้เวลาให้มีค่ามากกว่าที่เธอทำ

แม้ว่าเรื่องราวเหล่านี้จะผ่านมาหลายเดือนแต่ทุกวินาทีที่เกิดขึ้นในวันนั้นยังคงชัดเจนในความทรงจำและความรู้สึกของพวกเขาทั้งสองคน แม้ว่าการเสียลูกชายคนแรกจะทำให้เธอหมดความมั่นใจแต่มันทำให้พวกเขาเติบโตเป็นครอบครัวที่แข็งแรงขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น และเตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องต่างๆในอนาคตได้ดีขึ้น

พวกเขายังไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะมีลูก และยังใช้ประสบการณ์ที่เลวร้ายของตัวเองในการให้กำลังใจครอบครัวอื่นๆที่กำลังเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกัน และถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองลงบนเฟซบุ๊กเพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกคนบนโลก