ยายทวด105ปี ถูกหลานใช้กระโถนตีหัวแตก เลือดอาบ ทาปูนกินหมากรักษาแผลตัวเอง!!

โดยผู้ใหญ่ลั่นทม เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงซึ่งตนได้เดินทางไปเยี่ยมผู้สูงอายุในหมู่บ้าน เป็นคุณยายทวดวัย 105 ปี ชื่อนางถวิล ปานปุ่มทอง โดยได้นำอาหารและของเยี่ยมไปฝากตามปกติ แต่พบว่านางถวิลมีความหวาดกลัวตนเห็นแล้วรู้สึกผิดปกติ จึงได้พูดคุยสอบถามอยู่นานจนนางถวิลจึงยอมเล่าให้ฟังว่าเจ็บที่ศีรษะ เพราะถูกหลานสาวอายุ 60 ปีใช้กระโถนบ้วนน้ำหมากตีเข้าที่ศีรษะจนเกิดบาดแผลและมีเลือดออกเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตนจึงขอดูแผลและพบว่า มีแผลอยู่กลางศีรษะจริง แต่แผลเริ่มแห้งตกสะเก็ดแล้วแถมยังมีปูนกินหมากป้ายไว้ที่แผลด้วย ซึ่งนางถวิลเป็นคนป้ายปูนไว้เพื่อให้แผลแห้งเร็วขึ้น ผู้ใหญ่ลั่นทม กล่าวต่อว่า หลังได้ทราบเรื่องยอมรับว่าโมโหมาก จึงได้สอบถามหลานสาวของยายทวด ซึ่งก็ยอมรับว่าทำจริงเพราะโมโหที่นางถวิลทำเลอะเทอะในบ้านบ่อยครั้งจึงบันดานโทสะคว้ากระโถนตีไปแต่ไม่คิดว่าศีรษะจะแตก ตนจึงตัดสินใจบอกให้เก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านไปเพราะก่อนหน้านี้เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ตนก็เห็นว่าตามตัวของนางถวิล มีรอยฟอกช้ำ ปากแตก คาดว่าจะเป็นฝีมือของหลานคนนี้เช่นกัน จึงไม่ต้องการให้พักอาศัยอยู่กับนางถวิลอีกต่อไปเพราะเกรงจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก "อีกทั้งบ้านหลังที่นางถวิลพักอาศัยอยู่ในปัจจุบันนั้น ตนและชาวบ้านได้ร่วมกันบริจาคเงินราว 150,000 บาท สร้างบ้านให้ทดแทนหลังเก่าที่ทรุดโทรมอยู่ไม่ไหว เพราะเห็นแก่คุณความดีของนางถวิลที่ในอดีตเคยบริจาคที่ดินของตัวเองขนาด 3 ไร่ให้กับนิคมสร้างตนเอง เพื่อสร้างสถานีอนามัยนิคมกม.12 ใช้ดูแลคนป่วยมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งหลังจากสร้างบ้านให้แล้วตนและชาวบ้านต่างแวะเวียนมาเยี่ยมมาดูแล พร้อมทั้งนำอาหารมาให้นางถวิลกันเป็นประจำ ซึ่งปกติแล้วนางถวิลเป็นคนสุขภาพดี แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวและช่วยเหลือตนเองได้และนางถวิลถือเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุยืนยาวมากที่สุดในหมู่บ้าน จากนั้นนี้ไปก็จะได้ช่วยกันดูแลยายทวดต่อไป" นายลั่นทม ระบุ