ลั่นไม่เผา!! แม่ นศ.ศิลปากรถูกกลุ่มลูกอิทธิพลเมืองเพชรรุมแทงตาย ย้ำถ้าตร.จับไม่หมดจะขนศพไปประท้วงหน้าทำเนียบ

แม่หนุ่มศิลปากรร่ำไห้กอดรูป ลูกชายซึ่งถูกแก๊งลูกคนดัง ผู้มีอิทธิพลใน จ.เพชรบุรี บุกหอพักรุมฆ่าโหดใช้ไขควงแทงหัว จะไม่เผาศพลูก ถ้าตร.จับไม่หมดจะขนศพไปประท้วงหน้าทำเนียบ

จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ร่วม 30 คน ได้รุมทำร้ายใช้ไขควงแทง นศ.ม.ศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 เวลาประมาณ 01.00 น. มีรถยนต์เก๋งจำนวน 3 คัน ขับเข้าบริเวณหอพักแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 5 ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

โดยรถยนต์เก๋ง 2 คันแรก สีขาว, สีดำ ขับเข้ามาภายในหอพัก และอีก 1 คัน สีเขียวเข้ม จอดรออยู่หน้าหอพัก ซึ่งรถยนต์เก๋ง 2 คันแรก ขับเข้ามากลับรถและจอดที่หน้าห้องพักเลขที่ 13 และมีกลุ่มวัยรุ่นลงมาจำนวน 15-20 คน และได้มีการทุบประตูห้อง 13 ที่กำลังนอนหลับอยู่

หลังจากนั้น นายศิวะรักษ์ หรือ นายไอซ์ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของห้องได้ลุกขึ้นมาเปิดประตู ซึ่งนายไอซ์คิดว่าเป็นเพื่อน และกลุ่มวัยรุ่นที่จำได้อยู่ 2 - 3 คน อาทิ ไอ้ไบร์ท และ ไอ้อาร์ต ก็ได้ถามหา ไอ้ออฟ หรือ นายพงศกร อายุ 24 ปี แต่นายไอซ์บอกไม่อยู่

กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดกรูเข้ามาพร้อมอาวุธรุมทำร้ายคนในห้อง โดยนายไอซ์ โดนขวดแก้วฟาดที่ศีรษะจนขวดแตกและคนร้ายใช้ขวดแก้วที่แตกเป็นปากฉลามแทงนายไอซ์ แต่นายไอซ์ใช้แขนขึ้นมากันไว้จึงได้รับบาดแผลฉกรรจ์

ในระหว่างนั้นเพื่อนร่วมห้องพักอีกหนึ่งคนก็ได้โดนทำร้ายคือนายธนพล หรือ นายต้น ได้ลุกขึ้นมาป้องกันตัวและโดนกลุ่มคนร้ายใช้ไขควงยาวประมาณ 8 นิ้ว แทงเข้าที่ใบหน้าและพยายามแทงซ้ำ

แต่นายต้นต่อสู้และหลบหนีไปหลังห้อง และได้พยายามดันประตูไม่ให้ถูกทำร้ายอีก แต่กลุ่มคนร้ายก็ยังพยายามพังประตูเพื่อที่จะทำร้ายนายต้น แต่เมื่อทำร้ายไม่ได้จึงหันกลับไปทำร้ายเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ

ในขณะนั้น นายธีระพงษ์ หรือ น้องปอนด์ อายุ 24 ปี นศ.ม.ศิลปากร คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร ชั้นปีที่ 4 เพื่อนร่วมห้องอีกหนึ่งคน ก็ถูกกลุ่มคนร้ายรุมทำร้ายในขณะที่นอนอยู่

และหนึ่งในกลุ่มคนร้ายใช้ไขควงแทงเข้าที่ศีรษะจากด้านหลัง โดยที่คนร้ายพยายามดึงไขควงออก แต่ด้ามไขควงหลุดเหลือแต่ก้านเหล็กไขควงคาอยู่ที่ศีรษะ และกลุ่มคนร้ายได้รุมกระทืบซ้ำจนก้านเหล็กแทงลึกกว่าเดิมจนเกือบมิดด้าม

และเพื่อนร่วมห้องอีก 2 คน ถูกทำร้ายแต่วิ่งหนีหลบไปทางหลังห้องได้ทัน จนมีเจ้าหน้าที่หอเข้าเห็นเหตุการณ์และได้ตะโกนห้าม กลุ่มคนร้ายจึงทยอยกันออกมาห้องพักเลขที่ 13 และขึ้นรถที่จอดรอไว้อย่างสบายใจ และมีผู้เห็นเหตุการณ์ช่วยกันนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 4 มีค.60 ที่บ้าน หมู่ 2 ต.ปากตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านมารดาของนายธีระพงษ์ และเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายธีระพงษ์ เพื่อนๆ ของนายธีระพงษ์ได้ร่วมกันเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่านายธีระพงษ์ไม่เคยรู้จักกับกลุ่มคนร้าย แต่เป็นเพื่อนกับนายออฟที่คนร้ายต้องการทำร้าย

เมื่อมาไม่เจอนายออฟจึงทำร้ายเพื่อนของนายออฟทั้ง 5 คนที่อยู่ในห้อง โดยประกาศว่า ?ฝากบาดแผลและชีวิตของน้องปอนด์ ให้นายออฟรับผิดชอบที่กล้าท้าทาย กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้?

นายออฟเล่าว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ได้เคยไปห้ามปราม วัยรุ่นกลุ่มนี้ที่กำลังรุมทำร้ายเด็กรุ่นน้อง แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน และไม่นึกว่ากลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้จะโกรธแค้นนายออฟจนถึงขั้นมาสังหารน้องปอนด์ด้วยความเหี้ยมโหด ทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย คนที่ลงมือแทงเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์จำหน้าได้เป็นอย่างดี

ทางด้าน นางอารีรัตน์ อายุ 50 ปี แม่ของน้องปอนด์ กล่าวทั้ง น้ำตาว่า ?น้องปอนด์ เป็นเด็กดีมากขยันเรียนตั้งแต่ เด็กๆ ชอบช่วยแม่ทำงาน จะกลับมาบ้านทุกอาทิตย์ กำลังจะจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ในเทอมนี้ เหลืออีกเพียง 2 เดือนเท่านั้น

ในส่วนตัวไม่มีความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมในคดีนี้เลย เนื่องจากกลุ่มคนร้ายเป็นลูกของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทั้ง ทหาร ตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่น และคนในตระกูลดังของเพชรบุรี อาทิ ลูกของตำรวจระดับรอง ผกก. นายทหารระดับนายพัน จากค่ายราชบุรี

ทราบว่าในขณะนี้ได้มีการแต่งคดีและข่มขู่พยานแล้ว อีกทั้งน้องปอนด์อยู่ต่างจังหวัด แม่มีอาชีพค้าขาย ไม่มีปัญญาสู้รบตบมือกับกลุ่มอิทธิพลระดับนี้ได้ จึงได้แต่ต้องต่อสู้ด้วยการหวังพึ่งตำรวจที่ดีๆ ที่พอไว้ใจได้ คือ ผกก.สภ.ชะอำ ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนตงฉิน เป็นคนสนิทของ บิ้กป้อมที่ส่งมาปราบอาชญากรรม ใน อ.ชะอำ

อย่างไรก็ตาม จะไม่เผาศพน้องปอนด์ จนกว่าคนร้ายจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และได้รับคำตัดสินจากศาลแล้ว ถ้ายังจับคนร้ายได้มาหมด ก็จะขนศพไปประท้วงที่หน้าทำเนียบรัฐบาลด้วย

ทางด้าน นางอรุณี อายุ 52 ปี ป้าของน้องปอนด์ ที่เลี้ยงดูน้องปอนด์ ตั้งแต่มัธยมต้น ที่น้องปอนด์เดินทางมาจาก จ.ชุมพร มาเรียนใน กทม. ยืนยันว่า กังวลว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม เนื่องจากตนเองทราบถึงความเลวร้ายของวัยรุ่นกลุ่มนี้ในเวลาที่เดินทางไปรับศพน้องปอนด์

และทราบว่าเป็นลูกของผู้มีอิทธิพลมีประวัติสร้างความเลวร้ายให้กับคนในเพชรบุรีมานาน และจะร่วมกับน้องสาวคือแม่ของน้องปอนด์ เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับหลานจนถึงที่สุด ถึงจะเป็นพี่น้องผู้หญิงคนธรรมดาก็ตาม