วัดเล่งเน่ยยี่ 2 สถาปัตยกรรมอันงดงามและความศรัทธา

หากเอ่ยชื่อ ?วัด? แล้วล่ะก็...คนสมัยนี้อาจเบือนหน้าหนีไปเลย แต่หากใครได้ลองไป ?วัดเล่งเน่ยยี่ 2? หรือชื่อเต็มๆ ว่า ?วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์? คงต้องลบภาพวัดสไตล์เดิม ๆ ในความคิดออกแทบไม่ทัน เพราะนอกจากไปไหว้พระทำบุญแล้ว เหตุผลหลักๆ คือ อยากไปถ่ายรูปด้วย เพราะได้เห็นรูปในเว็ปต่างๆ และได้ยินมาว่าที่นี่สวยเหลือเกิน ยิ่งในช่วงตรุษจีน ผู้คนพากันหลั่งไหลมาชมสถาปัตยกรรมความงามกันแน่นขนัดทุกปี

เดิมทีเป็นโรงเจขนาดเล็ก บนพื้นที่ 12 ไร่ ของตำบลโสนน้อย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ปัจจุบันพื้นที่นี้ได้กลายมาเป็นวัดขนาดใหญ่ ซึ่งคณะสงฆ์จีนได้สร้างเป็นวัดเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เนื่องในวโรกาสมหามงคลปีกาญจนาภิเษก ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี

ใครที่เคยได้ยินชื่อของวัดเล่งเน่ยยี่ (วัดมังกรกมลาวาส) วัดชื่อดังของชาวจีน บริเวณถนนเจริญกรุง ย่านเยาวราช ก็ต้องบอกว่า ?วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์? นี้เป็นสาขาของวัดเล่งเน่ยยี่นั่นเอง โดยสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เสด็จเป็นองค์ประธานวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ (รัชกาลที่ 9) ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้สร้างวัด และพระราชทานนามว่า ?วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์? ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 12 ปี ถึงแล้วเสร็จ และเพิ่งมีพิธีสมโภชเปิดวัดในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2551 นี้เอง

เอาล่ะ ไปกันได้เลยค่ะ เดินผ่านประตูเข้ามา ท่านจะได้พบกับสถาปัตยกรรมของวัดเล่งเน่ยยี่2 ที่ถือได้ว่าสวยตั้งแต่ประตูทางเข้ากันเลยทีเดียว

มองไกลๆ ยังรู้สึกได้ถึงความสวยงามวิจิตรของการแกะสลักลวดลายจีน สถาปัตยกรรมในยุคหมิง-ชิง ปราณีตกันทุกรายละเอียด สวยงามมากๆเทียนบูชาองค์พุทธเจ้า

ไฮไลต์ที่สำคัญของวัดบรมราชาฯ นี้คือ สถาปัตยกรรม ใครที่มาชมแล้วอาจนึกคล้ายๆ ไปถึงพระราชวังปักกิ่งเลยทีเดียว ซึ่งที่นี่ก็ตั้งใจสร้างให้เป็นพุทธศิลป์ในราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิงเช่นเดียวกับพระราชวังปักกิ่งอันเลื่องชื่อ ดังนั้นศิลปะต่างๆ ในวัดนี้จะเป็นแบบจีนล้วนๆ มีการวางผังตามแบบวัดพุทธศาสนานิกายฌาน มีการจัดวางวิหารถือตามแบบวัดหลวง

สถาปัตยกรรมที่งดงามเมื่อมองจากด้านนอกถ้าเป็นผู้เลื่อมใสในพุทธมหายานแล้ว วิหารหลังนี้ก็เหมาะมาสงบจิตสงบใจ บำเพ็ญภาวนาเพื่อเข้าสู่ดินแดนสุขาวดี เมื่อล่วงจากภพนี้ไปแล้ว

ไหว้พระกันก่อน เก็บภาพบรรยากาศสวยๆ

เดินหารูปปั้นเทพเจ้าไท้ส่วนเอี๊ยะ (อยู่ด้านหลังจุดปักธูปที่ 6) แล้วยืนประนมมือ ถือธูป หันหน้าเข้ารูปปั้นเทพเจ้าไท้ส่วนเอี๊ยะ พร้อมอ่านข้อความในกระดาษสีแดงด้วยใจอธิษฐานปัดเป่าทุกข์ใจให้ออกจากชีวิต ให้ผ่านพ้นไปด้วยดีจนจบปีลองเดินสำรวจวิหารแต่ละหลัง จะประดับด้วยลวดลายภาพเขียนสีพุทธศิลป์แบบจีนที่มีความวิจิตรงดงาม การตกแต่งและลวดลายทั้งหมด นอกจากจะละเอียด สวยงาม ยังแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่โอฬารของศิลปะจีนอีกด้วย ทีนี้ใครที่ไม่อยากเสียเงินบินลัดฟ้าไปชมศิลปะจีนถึงปักกิ่ง จะลองแวะมาวัดใกล้กรุงฯ อย่างนี้ก็ไม่เลว นอกจากจะได้มากราบพระเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังได้ชื่นชมกับความงามที่แปลกตาไปจากวัดอื่นๆ ด้วย

ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.00 น. วันจันทร์-ศุกร์ ปิด 17.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดถึง 18.00 น. หากใครถนัดนั่งรถเมล์ ก็สามารถนั่งรถเมล์สาย 127 มาลงที่สุดสายตรงโรงพักบางบัวทอง เดินไปอีกไม่ไกลก็ถึงแล้ว

หรือถ้าใครอยากขับรถไป ก็เดินทางไปตามเส้นบางบัวทอง ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าฯ เข้าถนนรัตนาธิเบศร์ขับไปเรื่อยๆ จนเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกาญจนาภิเษก ขับไปแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตรงไปประมาณ 4 กิโลเมตร จะสังเกตเห็นป้ายบอกทางเข้าวัด ขับไปอีกนิดเดียวก็เจอทางเข้าวัดแล้ว

แต่ถ้าใครไปไม่ถูก สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ วัดบรมราชาฯ โทร. 0 2571 1155

ขอบคุณภาพและเรื่องราวจาก MaiiaM sakowrat (Around ME)