เมี่ยงกลีบบัว ของว่างจากเมนูเมี่ยงคำแสนสวยชวนหลงใหล

อ่าน 10,734

วันหยุดสุดสัปดาห์ อยากจะลองทำเมี่ยงเคี้ยวเล่นเพลิน ๆ กินที่บ้านกับครอบครัว ไหน ๆ ก็คิดจะทำแล้ว ลองมาทำเมี่ยงคำที่เก๋กว่าเดิม เปลี่ยนจากใบชะพลูเป็นกลีบดอกบัว เกาะกระแสละครดังกัน !

ยามนึกอยากจะทานเมี่ยงคำ ก็จะนึกถึงใบชะพลูห่อเครื่องพอดีคำให้รสเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม และเผ็ด เรียกได้ว่าเป็นของว่างไทย ๆ ที่อร่อยครบทุกรส แถมยังได้สุขภาพไปในตัว แต่วันนี้เรามีเมี่ยงคำแนวใหม่สูตรของ คุณบ่งบ๊ง มาฝากกัน ...ที่ต้องบอกว่าเป็นเมี่ยงคำแนวใหม่นั้น ก็เพราะว่า เมี่ยงคำสูตรนี้จะไม่ใช้ใบชะพลู แต่ใช้กลีบบัวหลวงห่อเครื่องแทนน่ะสิจ๊ะ

แต่ไม่ต้องสงสัยไปว่า ดอกบัวจะทานได้หรือ ? เพราะไม่เพียงทานได้เท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง แก้ไข้ มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ฯลฯ และเมื่อนำมาร่วมวงเมี่ยงคำแล้ว ก็ทำให้ของว่างจานนี้หน้าตาสวยหวานน่ารับประทานมาก ๆ เลยล่ะ ยิ่งหากใครที่ไม่ปลื้มรสชาติของใบชะพลูด้วยแล้ว ขอชวนมาทำ เมี่ยงคำกลีบบัว รับประทานกันดีกว่าจ้า มามะ...มาลงมือทำกันเลยยยย

ชมพูเพลินพิศ พรรณราย + เมี่ยงบัวหลวงปทุมธานี & วุ้นแก้วมังกร + โดย คุณบ่งบ๊ง

ส่วนผสม เมี่ยงกลีบบัว

ส่วนผสมน้ำเมี่ยงคำด้างล่างนี้เป็นสูตรของ ผศ.พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม อาจารย์สาขาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี อาจารย์ผู้แนะนำการรับประทานเมี่ยงบัวหลวง และสาธิตผ่านรายการต่าง ๆ ทางสถานีโทรทัศน์ ซึ่งสูตรของอาจารย์ จะแตกต่างจาก ส่วนผสมของบ่งบ๊งที่เคยลงเรื่องราวไว้ที่บล็อกเล็กน้อย แตกต่างตรงส่วนน้ำตาล แต่ขอยืนยันว่าน้ำเมี่ยงคำโบราณทั้งสองสูตรนี้อร่อยไม่แพ้กันค่ะ

น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ถ้วย น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด 1/2 ถ้วย กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ รากผักชี 1 ช้อนชา ข่าคั่วโขลก 1 ช้อนชา

**หมายเหตุ : ใส่น้ำตาลปี๊บล้วน ๆ โดยไม่ผสมน้ำตาลทรายเลยก็ได้นะคะ

ภาพด้านล่างนี้เป็นส่วนผสมของบ่งบ๊ง หากสนใจจะลองทำ คลิกที่นี่เลยค่ะ

วิธีปรุงน้ำจิ้มเมี่ยงคำ

นำภาพวิธีการปรุงน้ำจิ้มเมี่ยงคำในแบบฉบับย่อ ๆ มาให้ชม เอาส่วนผสมในภาพด้านบนทั้งหมดใส่ในหม้อ แล้วเดินหน้าเคี่ยวไปเรื่อยจนเข้มข้น บ่งบ๊งเคยแนะนำเคล็ด [ไม่ลับ] ในการเคี่ยวน้ำตาลปีบให้เข้มข้นแบบไม่เปลืองแก๊สไว้ที่บล็อก คือ ให้เปิดไฟแรง ๆ แล้วใช้ทัพพีคน ๆ ๆ ๆ น้ำตาลให้เดือดขึ้น ๆ ลง ๆ แบบเร่งไฟ ลดไฟ ไปเรื่อย ๆ เท่านี้เองค่ะ เราก็จะได้น้ำตาลปีบแบบเหนียวเข้มข้นโดยไม่ต้องเคี่ยวนานเป็นชั่วโมง และที่สำคัญไม่เปลืองแก๊สด้วยนะคะ เสร็จแล้วคะ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเราก็ได้น้ำจิ้มเมี่ยงคำที่เข้มข้นแล้ว

เครื่องเคียง

เครื่องเคียงก็มี ขิง หัวหอมแดง มะนาว ถั่วลิสงคั่ว กุ้งแห้ง และพริกขี้หนูสวน ส่วนผักสดที่รับประทานกับเมี่ยงคำโดยทั่วไป ใบชะพลู ใบทองหลาง ใบคะน้า ฯลฯ หากทานกับกลีบบัวหลวงแบบนี้ต้องล้างทำความสะอาดกันก่อน โดยเอาน้ำสะอาดใส่กะละมัง ใส่เกลือป่นไปสัก 1 ช้อนชา แล้วล้างทีละกลีบ ล้างเสร็จแล้วสะบัดน้ำออกให้หมด หรือใส่กระชอนแล้วแกว่ง ๆ ให้สะเด็ดน้ำ ดูสีสันของกลีบดอกบัวสิคะ โอย ๆ ๆ สวยงามจริง ๆ นี่หล่ะที่เขาเรียกกับว่า "ชมพูกลีบบัว" หั่นเครื่องเคียงเสร็จแล้ว ทีนี้เราก็มาจัดสำรับกันเถอะคะ จัดน้ำจิ้มเมียงคำใส้ถ้วยแก้ว วันนี้ขอใช้พริกขี้หนูแดงซอย ๆ เพื่อความสวยงาม จัดวางบนช้อนแบบสมัยใหม่ สมัยนี้นิยมจัดไลน์อาหารบุฟเฟ่ต์โดยวางไว้บนช้อนกระเบื้องแบบนี้ หรือจะจัดใส่จานเป็นคำ ๆ เกสรชมพูมะเหมี่ยวจะมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่ขม ไม่ฝาด กินกับข้าวยำปักษ์ใต้ก็แจ่มค่ะ โปรดสังเกตสีสันของสีชมพูจัดจ้านทั้งของฝ่ายซ้าย และฝ่ายขวา ชมพูของหัวหอมแดง ชมพูของเกสรชมพู่มะเหมี่ยว และชมพูของสีกลีบบัว

แหม่... เห็นเมี่ยงคำกลีบบัวของคุณบ่งบ๊งแล้ว ขอยกนิ้วให้ในเรื่องของความสวยงามน่าทานจริง ๆ อย่างนี้ต้องลองทำทานเองบ้างสักหน่อยแล้ว



บทความแนะนำ


โปรโมชั่นที่เที่ยวอิมแพคอารีน่าเมืองทองธานีเที่ยวต่างประเทศAiguilleภูเขาMontSamsoniteทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก