ไทด์ เอกพันธ์ เปิดใจสาเหตุปมขอหย่า ยุ้ย ลั่นเคยอธิษฐานจะไม่ขอเป็นสามี ภรรยากันอีก

ไทด์ เอกพันธ์ เปิดใจสาเหตุเบื้องลึกก่อนขอหย่า ยุ้ย

คนึงนิจ ภรรยาที่อยู่กิน 13 ปี

เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงไม่น้อย สำหรับกรณีที่นักแสดงรุ่นใหญ่ ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์

ออกมาประกาศขอหย่ากับภรรยา ยุ้ย คนึงนิจ

ที่อยู่กันมาหลายปีเพราะปัญหาที่ไม่เข้าใจกัน

ซึ่งทางด้านภรรยาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวมาก่อนหน้านี้แล้วนั้น

ล่าสุด (12 มีนาคม 2560) ไทด์ เอกพันธ์ ก็ได้เปิดใจผ่านรายการ

โดยเล่าว่า

ตอนแต่งงานแรก ๆ ครอบครัวมีความสุขดี ซึ่งตนก็ทำงานนักแสดงหาเลี้ยงครอบครัว

ส่วนฝ่ายภรรยาทางบ้านทำธุรกิจขายเพชรตนก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยว

แต่ช่วงที่เริ่มระหองระแหงกันขนาดที่ไม่พูดคุยกัน 7

เดือนทั้งที่อยู่บ้านเดียวกัน นอนเตียงกันคือช่วงน้ำท่วมครั้งใหญ่

ซึ่งตนก็ไปช่วยงานน้ำท่วมยาว 4-5 เดือนไม่ได้เข้าบ้าน

เขาก็งอนที่เวลาตนไปแจกของต้องมีถ่ายรูปร่วมกับนักศึกษา

เป็นการหึงหวงเกินเหตุทำให้คนรำคาญ ประกอบกับทำงานเหนื่อยก็เลยตามเลย

แล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาบอกว่า

เพื่อนอัดคลิปของตนเดินกับผู้หญิงที่สนามบินมาให้ดู

ซึ่งตอนนั้นตนไปกับมูลนิธิฯ มีหลายคนไม่ได้ไปสองต่อสอง มันเป็นไปไม่ได้

อีกสาเหตุคือเวลาที่ไม่ตรงกัน

ซึ่งก่อนคบกันตนก็ได้บอกแล้วว่าอาชีพนักแสดงเวลาไม่แน่นอน หากคบกันต้องทำใจ

ต้องอดทน

แต่ตนก็ได้ให้สัญญากับเขาไว้ว่าจะหยุดงานทุกวันอาทิตย์เพื่อพาครอบครัวไปเที่ยว

"ระหว่างที่ผมไปช่วยน้ำท่วมใหญ่ได้กลับบ้านแล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย

เหมือนตัดขาดกกัน จนกระทั่งผมไปออกรายงานหนึ่ง ซึ่งคุณต๋อย ไตรภพ

เชิญผมไปอกรายการหนึ่ง ผมก็เลยเอาลูก ๆ มาด้วย พี่ต๋อยเลยถามลูก ๆ

ว่าคุณแม่ไปไหน ลูกก็เลยตอบว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกันแม่ก็เลยไม่มา

พี่ต๋อยเลยถามต่อว่าทะเลาะกันนานหรือยัง เด็ก ๆ เลยตอบว่า

ทะเลาะกันนานมากแล้ว เกือบปีแล้ว พี่ต๋อยเลยมาถามผมว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร

เขาสงสารลูก ผมก็เลยอธิบายให้ฟัง พ่อถามลูกก็อยากให้พ่อแม่กลับมาคืนดีกัน

พี่ต๋อยเลยอาสาเป็นกาวใจและถามผมว่ายังรักอยู่ไหม ผมก็ตอบว่ายังรักอยู่

พี่ต๋อยเลยโทรหาเขาและนัดมาให้ผมคืนดีกัน แต่อยู่ไป 4-5

เดือนก็ทะเลาะกันอีก ผมก็ยอมถอยคือรับงานน้อยลง เขาก็ถอยเพื่อลูก

แต่เขาไม่รักษาสัญญาที่เคยให้ไว้ ชีวิตผมกับชีวิตเขาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ไทด์ เอกพันธ์

เล่าต่อว่า เหตุการณ์ที่ตนต้องลุกขึ้นมาขอหย่า เริ่มจากความหมดใจ

และสิ่งที่ทำให้แตกหักจริง ๆ

คือการที่ตนติดเสียภาษีกับสรรพากรอยู่ประมาณล้านกว่าบาท

จำเป็นต้องเอาเงินออกมาใช้และต้องประหยัดเงิน ซึ่งลูก ๆ

ของตนก็รู้เรื่องนี้ด้วย จึงไปบอกแม่ว่า อย่าใช้เงินของพ่อเยอะ

พอเขาฟังแค่นี้ก็อารมณ์ขึ้นลงมาต่อว่าตนที่กำลังนั่งป้อนข้าวลูกด้วยถ้อยคำหยาบคาย

ซึ่งตนพยายามบอกว่าเดี๋ยวค่อยคุยกันรอให้ไปส่งลูกก่อน

แต่เขาก็ไม่ฟังยังพูดด้วยถ้อยคำหยาบคายสารพัด ตนเลยพูดกับเขา 2 คำคือ

ทำไมถึงปากชั่วแบบนี้ ทำไมถึงมีความคิดชั่ว ๆ แบบนี้

เขาฟังแล้วก็เดิมมาหาตน แล้วตบหน้าตนอย่าแรงต่อหน้าลูก

"หลังจากนั้นผมก็พาลูก ๆ ที่กำลังร้องไห้ไปส่งที่โรงเรียน

และระหว่างขับรถผมก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า

ต่อไปนี้ผมจะไม่เกี่ยวข้อกับผู้หญิงคนนี้

ขอไม่เป็นสามีภรรยากับผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว

แต่สมมติว่าเราต้องอยู่เพื่อลูกผมยอม แต่จะไม่มีการหลับนอนด้วยกัน

ไทด์ เอกพันธ์ เล่าว่า มีวันหนึ่งเขาเอาเสื้อผ้าของตนเอามาไว้ข้างนอก

เหมือนเป็นการบอกว่าให้ตนไปอยู่ที่อื่นได้แล้ว และตั้งแต่ปี 2558

ตนก็ได้แยกออกมาอยู่ที่อื่นโดยให้ลูกอยู่กับเขาวันจันทร์-ศุกร์

และจะไปรับมาอยู่กับตน ศุกร์-อาทิตย์ และตั้งใจว่าก่อนปี 2560

จะขอเลิกกับเขา

ซึ่งก่อนหน้านี้เขาท้าตนหย่ามานับครั้งไม่ถ้วนแต่ที่ก่อนหน้านี้ตนไม่หย่าเพราะลูกยังเล็ก

จนกระทั่งตนได้คุยกับน้องผู้หญิงคนหนึ่งแล้วคุยกันถูกคอแล้วรู้ไปถึงหูของเขา

ทำให้เขาคิดว่าที่ตนยอมหย่าเพราะผู้หญิงคนนี้

ทั้งที่ตนขอย่าก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนเรื่องที่เขาออกมาโพสต์แฉ

ตนไม่เคยเข้าไปอ่านใด ๆ ในโซเชียลเลย

เพราตนคิดว่าสิ่งที่เขาคอมเม้นต์มาเขาไม่รู้ความจริง

สำหรับเรื่องที่พ่อตาโพสต์ต่อว่าตน ก็รู้สึกเสียใจ

นอกจากนี้ ไทด์ เอกพันธ์ ยังฝากถึงภรรยาว่า เรายังเป็นเพื่อนกันได้

และที่มารายการก็ไม่ได้มาเพื่องัดกัน

แต่แค่อยากจะมาพูดในอีกมุมมองหนึ่งว่าเป็นอย่างไร

และหาเรื่องมันสงบลงก็ต่างดูแลลูกกันไป หากมีอะไรให้ช่วยก็บอก

ส่วนคลิปเต็มจะเป็นอย่างไรนั้นสามารถเข้าไปชมกันได้ในรายการ

คลับฟรายเดย์โชว์ based on celeb story เทปออกอากาศวันที่ 11 มีนาคม 2560

ภาพและข้อมูลจาก รายการ คลับฟรายเดย์โชว์ based on celeb story