สีของพาสปอร์ต ทั้ง 4 สี มีความหมายว่าอย่างไร?

เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่ชอบมองคือ

สีของพาสปอร์ตในมือแต่ละคนที่ยืนรอผ่านด่านเจ้าหน้าที่ ตม. แล้วก็แอบเดาว่า

สีพาสปอร์ตที่เห็นนั้นมาจากประเทศอะไร และเท่าที่เห็นส่วนใหญ่ คือ สีแดงเลือดหมู สีเขียว สีน้ำเงิน

แถมบางครั้งยังเจอเฉดสีที่ต่างกันอีกด้วย (นึกว่าสีปก Passport

มันซีดเพราะตากแดดนานซะอีก) วันนี้อ่านเจอในเว็บ tg191.com

ทั้งนี้สีของหนังสือเดินทางไม่ได้ข้อกำหนดตายตัวว่า เหตุผลใดที่ประเทศใดต้องใช้สีนั้นสีนี้อย่างชัดเจน

แต่โดยส่วนใหญ่แล้วสีจะแบ่งได้หลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ภูมิประเทศ

ความหมายของ สีพาสปอร์ต

พาสปอร์ตสีเเดง (Red Passport หรือ Burgundy Passport)

สหภาพยุโรป

พาสปอร์ตสีเเดงนี้ จะถูกใช้ในประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป

เเละในประเทศในกลุ่มที่สนใจจะเข้าร่วมกับสหภาพยุโรป

รวมถึงประเทศในกลุ่มประชาคมเเอนเดียน (Andean Community) เช่น

นอกจากนี้ ประเทศสวิตเซอร์เเลนด์ก็ยังใช้สีนี้เช่นกัน โดยเหตุผลที่ใช้สีนี้เป็นเพราะต้องการให้สีพาสปอร์ตตรงกับสีธงชาติ

พาสปอร์ตสีเขียว (Green Passport)

ศาสนาอิสลาม

ส่วนใหญ่จะใช้ในประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม

เนื่องจากศาสนาอิสลามมีความเชื่อว่า สีเขียวคือ สีของสรวงสวรรค์นั่นเอง

นอกจากนี้เเล้ว

พาสปอร์ตสีเขียวยังใช้ในกลุ่มประเทศสมาคมเศรษฐกิจเเอฟริกาตะวันตก (ECOWAS)

ประเทศเวียดนาม ใช้พาสปอร์ตสีเขียว

พาสปอร์ตสีน้ำงิน (Blue Passport)

โลกใหม่

จะถูกใช้ในประเทศในกลุ่ม แคริบเบียน (Caribbean) เเละในกลุ่มตลาดร่มอเมริกาใต้ตอนล่าง (Mercosur) เช่น ประเทศบราซิล อาเจนตินา ปารากวัย อุรุกวัย (จริงๆ เเล้วประเทศเวเนซุเอลาก็อยู่ในกลุ่มนี้ เเต่ก็อยู่ในกลุ่มเเอนเดียวด้วยเลยใช้เป็นพาสปอร์ตสีเเดงเเทน) โดยการที่ใช้สีนำ้เงินนั้น เป็นเหมือนการสื่อความหมายว่าเป็นโลกใหม่

ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ใช้สีนำ้เงินเช่นกันเเต่เป็น Navy blue เพื่อที่จะได้มีพาสปอร์ตสีเหมือนธงชาตินั่นเอง

พาสปอร์ตสีดำ (Black Passport)

ประเทศที่ใช้พาสปอร์ตสีดำ เช่น ประเทศนิวซีเเลนด์ ประเทศเเซมเบีย โดยเหตุที่เลือกใช้สีดำเป็นเพราะว่าจะได้ไม่สกปรกง่าย เเละดูเป็นทางการ

หมายเหตุสีของหนังสือเดินทางไม่ได้ข้อกำหนดตายตัวว่า เหตุผลใดที่ประเทศใดต้องใช้สีนั้นสีนี้อย่างชัดเจน

แผนที่แสดงสีของพาสปอร์ต แต่ละประเทศ

หนังสือเดินทางที่เข้าได้หลายประเทศที่สุด ประจำปี 2016

หนังสือเดินทางที่เข้าได้มากประเทศที่สุด

อันดับที่ 1 ได้แก่ เยอรมัน สามารถเดินทางเข้า 177 ประเทศ จากทั้งหมด 218 ประเทศทั่วโลกได้โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า

อันดับที่ 2 สวีเดน สามารถเดินทางได้ 176 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า

อันดับที่ 3 ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน สหราชอาณาจักร สามารถเดินทางเข้าได้ 175 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า

อันดับที่ 4 เบลเยี่ยม เดนมาร์ค เนเธอแลนด์ สหรัฐอเมริกา

สามารถเดินทางเข้าได้ 174 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า ปีนี้

สหรัฐอเมริกาตกมาอยู่อันดับที่ 4 ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาเขาคงอันดับ 1

มาโดยตลอด

อันดับที่ 5 ออสเตรีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สามารถเดินทางเข้าได้ 173 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า

อันดับที่ 6 แคนาดา ไอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก นอร์เวย์ โปรตุเกส เกาหลีใต้

สวิสเซอร์แลนด์ สามารถเดินทางเข้าได้ 172 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า

อันดับที่ 7 กรีซ นิวซีแลนด์ สามารถเดินทางเข้าได้ 171 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า

อันดับที่ 8 ออสเตรเลีย สามารถเดินทางเข้าได้ 169 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า

อันดับที่ 9 มัลตา สามารถเดินทางเข้าได้ 168 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า

ที่มา pantip.com/topic/34857453

เรื่องน่ารู้ของ สีพาสปอร์ตในไทย

ถูกเเบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน

ประเภทที่ 1 หนังสือเดินทางที่มีหน้าปกเป้นสีเเดงเลือดหมู จะเป็นหนังสือเดินทางที่ทางกระทรวงต่างประเทศ ออกให้กับบุคคลธรรมดา โดยมีอายุของหนังสือเดินทางไม่เกิน 5 ปี

ประเภทที่ 2 หนังสือเดินทางที่มีหน้าปกเป็นสีน้ำเงินเข้ม

จะเป็นหนังสือเดินทางที่ออกให้ข้าราชการ สมาชิกรัฐสภา

ที่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ

รวมถึงบุคคลอื่นใดที่เดินทางไปทำประโยชน์ทางราชการตามที่กระทรวงต่างประเทศ

ประเภทที่ 3 หนังสือเดินทางที่มีหน้าปกเป็นสีเเดงสด

หนังสือเดินทางประเภทนี้จะออกให้เฉพาะเชื้อพระวงศ์ องคมนตรี

ประธานเเละรองประธานผู้เเทนราษฏร เเละวุฒิสภา ประธานเเละรองประธานศาลฏีกา

ประธานศาลอุทธณ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด อดีตนายก

อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

เเละผู้บัญชาการเหล่าทัพ

รวมถึงบุคคลอื่นในที่เผยเเพร่ชื่อเสียงเกียรติคุณของประเทศไทย

ประเภทที่ 4 หนังสือเดินทางที่มีหน้าปกเป็นสีเขียว

หนังสือเดินทางนี้ถูกเเบ่งออกเป้น 2 จำพวก คือ

หนังสือเดินทางของพระภิกษุที่ถูกอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศโดยมหา

เถรสมาคม เเละอีกพวกหนึ่ง คือ

หนังสือเดินทางที่ออกให้ชาวมุสลิมเพื่อเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์โดยหนังสือ

ที่มาwww.tg191.com

CR: Bridgthside.com