อย่ารู้ช้าไป!! อาการปวดประจำเดือนแบบไหนต้องไปหาหมอ อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่น ๆ ตามมา

อ่าน 7,540

อาการปวดประจำเดือน? จะมากหรือน้อยก็ควรต้องใส่ใจ แล้วสาว ๆ ทราบไหมคะว่า อาการปวดประจำเดือนแบบไหนต้องไปหาหมอ โดยเฉพาะคนที่ปวดประจำเดือนหนัก ๆ ทุกเดือน

เกิดเป็นผู้หญิงทั้งทีนี่ชีวิตยากนะคะ โดยเฉพาะช่วงที่มีรอบเดือน ผู้หญิงทุกคนจะต้องทรมานกับอาการปวดประจำเดือนกันเป็นประจำ โดยบางรายอาจปวดประจำเดือนเบา ๆ วันสองวันก็หาย แต่บางรายอาจมีอาการปวดประจำเดือนค่อนข้างรุนแรง ชนิดที่ต้องหยุดเรียนหรือลางานกันเลยล่ะ เอ๊ะ ! แล้วอาการปวดประจำเดือนแบบไหนต้องไปหาหมอ แล้วอย่างเราเรียกว่าปวดประจำเดือนแบบเบา ๆ หรือผิดปกติกันล่ะ สงสัยต้องหาคำตอบกันแล้ว

อาการปวดประจำเดือนสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดได้แก่

1. ปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ (Primary Dysmenorrhea)

เป็นอาการปวดประจำเดือนแบบปกติ โดยจะปวดหน่วง ๆ บริเวณท้องน้อย บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน และหงุดหงิดร่วมด้วย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างมีประจำเดือน และมีการหลั่งสารพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ออกมามากผิดปกติ กระตุ้นให้มดลูกมีการบิดเกร็งตัว และจะรู้สึกปวดในระยะก่อนมีประจำเดือน 2-3 ชั่วโมง ตลอดจนช่วง 2-3 วันแรกของการมีประจำเดือน อาการปวดหน่วง ๆ ก็จะยังคงรู้สึกอยู่ อาการปวดประจำเดือนชนิดนี้จะมีอาการมากสุดในช่วงอายุ 15-25 ปี หลังจากวัยนี้อาการปวดประจำเดือนจะค่อย ๆ ลดลง บางรายอาจหายป่วยหลังมีบุตรแล้ว และส่วนมากอาการปวดประจำเดือนชนิดนี้ก็จะไม่พบความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่แต่อย่างใด

2. ปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ (Secondary Dysmenorrhea)

ปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิจะมีอาการปวดท้องค่อนข้างหนัก บางรายอาจมีอาการท้องเสีย เหงื่อออก ตัวเย็น มือ เท้าเย็น หรือหน้ามืดเป็นลมได้ อาการปวดประจำเดือนชนิดนี้มักเกิดกับสาววัย 25 ปีขึ้นไป โดยจะรู้สึกปวดประจำเดือนแบบนี้ครั้งแรก ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยปวดประจำเดือนขนาดนี้มาก่อน ซึ่งคนที่รู้สึกปวดประจำเดือนหนัก ๆ ในวัยนี้ มักตรวจพบความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ด้วย เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกมดลูก หรือปีกมดลูกอักเสบเรื้อรัง เป็นต้น ทั้งนี้เชื่อว่าอารมณ์มีส่วนเสริมความรุนแรงของอาการปวดประจำเดือนทั้ง 2 ชนิด เช่น พบว่าผู้มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย หรือมีความเครียดจะมีอาการปวดรุนแรงมากกว่าผู้ที่มีอารมณ์ดี ปวดประจำเดือนแบบไหนต้องไปหาหมอ

* ปวดประจำเดือนไม่มาก แค่พอรำคาญ แต่ไม่ปวดประจำเดือนจนรู้สึกทรมานและทนไม่ไหว * อาการปวดประจำเดือนที่เป็นไม่ถึงกับต้องรับประทานยาแก้ปวด * อาการปวดประจำเดือนเกิดขึ้นแค่ 1-2 วันแรกของการมีประจำเดือน จากนั้นอาการปวดประจำเดือนจะหายได้เอง * บางรายอาจปวดประจำเดือนมากทุกครั้งที่ประจำเดือนมา แต่ถ้ากินยาแก้ปวดอาการจะทุเลาลงจนใช้ชีวิตได้ปกติ

ปวดประจำเดือนแบบไหนต้องไปหาหมอ

- ปวดประจำเดือนมาก โดยช่วงที่ปวดประจำเดือนแรก ๆ อาจพอทนไหว แต่ต่อมาอาการปวดประจำเดือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกเดือน และมักจะรู้สึกปวดรุนแรงในช่วง 1-2 วันแรกของการมีประจำเดือน - รู้สึกปวดประจำเดือนอย่างรุนแรงจนต้องรับประทานยาแก้ปวดมากกว่าวันละ 1 ครั้ง อาการปวดประจำเดือนถึงจะทุเลาลง - ปวดประจำเดือนรุนแรง โดยอาจมีอาการหน้ามืด เป็นลม ท้องเดิน และรู้สึกปวดท้องจนไม่สามารถลุกไปทำอะไรได้ ต้องกินยาแก้ปวดและนอนพักสักระยะจึงจะหาย - ปวดประจำเดือนรุนแรงขึ้นจนยาแก้ปวดเอาไม่อยู่ และต้องไปพบแพทย์ทุกครั้งที่มีประจำเดือน - มีอาการปวดตรงบริเวณท้องน้อยข้างขวา ติดต่อกันนานกว่า 6 ชั่วโมง มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย รวมทั้งหากเกิดการกระเทือน หรือกดถูกบริเวณนั้นจะมีอาการเจ็บปวด - ปวดและกดเจ็บตรงบริเวณท้องน้อย ร่วมกับมีอาการไข้สูง อาจมีอาการตกขาวร่วมด้วย - ปวดบิดเกร็งตรงบริเวณท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง และมักมีอาการปวดร้าวลงมาที่ช่องคลอดข้างเดียวกัน - ปวดประจำเดือนมาก ร่วมกับมีเลือดออกกะปริบกะปรอย (ประจำเดือนมากกว่ากว่า 1 ครั้ง แต่ละครั้งเลือดจะออกน้อย) หรือประจำเดือนมามากกว่าปกติ

ทั้งนี้ หากรู้สึกปวดประจำเดือนแตกต่างจากที่เคยเป็น และมีอาการปวดประจำเดือนติดต่อกันนานกว่าปกติ กดบริเวณท้องน้อยแล้วรู้สึกเจ็บ มีไข้ หรือมีอาการตกขาวร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคอื่น ๆ เนื่องจากอาการปวดประจำเดือนที่รุนแรงจนถึงขั้นไม่ปกติ อาจเป็นสัญญาณของโรคได้ดังนี้

ปวดประจำเดือนผิดปกติ ส่อโรคอะไรได้บ้าง

+ เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ + ช็อกโกแลตซีสต์ + เลือดออกในอุ้งเชิงกราน + เนื้องอกมดลูก + ปีกมดลูกอักเสบ + นิ่วท่อไต + ไส้ติ่งอักเสบ อาการปวดประจำเดือนสามารถบอกสัญญาณของความผิดปกติภายในสุขภาพผู้หญิงได้ด้วย ดังนั้นหากคุณสาว ๆ มีอาการปวดประจำเดือนที่ต่างไปจากเดิม ก็อย่านิ่งนอนใจนะคะ

ปวดประจำเดือนเมื่อไรก็บรรเทาอาการปวดได้เลยตามนี้ แต่หากมีอาการปวดประจำเดือนผิดปกติ ก็อย่าลืมไปตรวจให้ละเอียดกับคุณหมอด้วยนะจ๊ะสาว ๆ ;)

ขอขอบคุณข้อมูลจากหมอชาวบ้านคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลโรงพยาบาลนนทเวชโรงพยาบาลพญาไท



บทความแนะนำ


กรุงเทพที่เที่ยวที่กินเย็นตาโฟปุ๊ร้านอาหารเขาตาม่องล่ายเย็นตาโฟเส้นเล็กต้มยำแห้งร้านเด็ดทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก