ตร.ชงปปง.ยึดทรัพย์"ซินแสโชกุน"ตุ๋นเปื่อยทัวร์ญี่ปุ่น จ่อนอนคุกยาวแอบอ้างเบื้องสูง
ผบช.ก.เผยเร่งชุดสืบสวนหาหลักฐานเชื่อมโยงคลิปเสียง
?ซินแสโชกุน?แอบอ้างเบื้องสูง จ่อแจ้งผิด ม.112
สาวเส้นทางการเงินพบในบัญชีมี 3 ล้าน ตำรวจเสนอปปง.ยึดทรัพย์
หวั่นเคลื่อนย้ายโอนทรัพย์สิน
วันนี้ (13 เม.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00
น.พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี
ก่อนเปิดเผยว่า
ไม่มีความกังวลเรื่องการสอบปากคำเพราะขณะนี้ได้ตัวผู้ต้องหาแล้ว
ผู้ต้องหาสามารถพูดแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้
แต่ตำรวจก็จะต้องตรวจสอบจากข้อมูลเชิงประจักษ์
คาดว่าภายหลังสงกรานต์จะมีการสอบสวนและได้ข้อมูลที่มีความชัดเจนขึ้น
ผบช.ก.กล่าวว่า
ขณะนี้ได้มีการประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.
ในเรื่องการยึดทรัพย์แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดโยกย้ายถ่ายโอนทรัพย์สิน
แต่จากการตรวจสอบการธุรกรรมกับธนาคารของ ซินแสโชกุนนั้น
เบื้องต้นทราบว่ามีจำนวนเงินอยู่ประมาณ 3 ล้านบาท
ซึ่งเงินบางส่วนที่มีการแปลงสภาพไปเป็นอสังหาริมทรัพย์แล้วนั้น
จะเร่งตรวจสอบเพื่อจะได้นำเงินคืนสู่ผู้เสียหายให้เร็วที่สุด
"ส่วนกรณีที่ปรากฏคลิปเสียงของซินแสโชกุนมีการอ้างสถาบันเบื้องสูง
ผิดมาตรา 112 นั้น
ตอนนี้หลักฐานเอกสารยังไม่มีความเชื่อมโยงอยู่ระหว่างการเร่งหาอุปกรณ์ติดต่อ
เช่น โทรศัพท์ของซินแสโชกุน ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ
อีกทั้งตอนนี้พนักงานสอบสวนได้มีการสืบทราบแล้วว่าเครือข่ายซินแสโชกุนนั้นมีผู้ที่เกี่ยวข้อง
หรือ ผู้ที่เป็นแม่ข่ายทั้งหมด ประมาณ 30 คน
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเชิญตัวทั้งหมดเข้ามาสอบปากคำ" ผบช.ก.กล่าว
พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในวันที่ 14
เม.ย.ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาภิเษก
พร้อมคัดค้านการประกันตัวเพราะผู้ต้องหาอาจจะไปยุ่งหรือทำลายพยานหลักฐานได้
ขณะที่นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความของ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ
หรือซินแสโชกุน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมขอเข้าพบเพื่อพูดคุยกับ
น.ส.พสิษฐ์ ในเรื่องคดี
โดยภายหลังการพูดคุยเบื้องต้นนายนิติศักดิ์ทนายความยืนยันว่า
ผู้ต้องหายืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาในการเดินทางหนี
ส่วนเหตุผลที่เดินทางไปจังหวัดระนอง เพราะหลังเกิดเหตุรู้สึกตกใจ
จึงเดินทางไปตั้งหลัก ก่อนจะมีการติดต่อทนายความ เพื่อจะเดินทางเข้ามอบตัว
แต่ติดขัดในเรื่องการเดินทางทำให้เดินทางไปไม่ทัน
ก่อนที่ตำรวจจะเข้าควบคุมตัว น.ส.พสิษฐ์
อย่างไรก็ตามส่วนตัวเคยรับว่าความคดีเกี่ยวกับเช็คให้กับผู้ต้องหามาแล้วครั้งหนึ่ง
และไม่รู้ว่า น.ส.พสิษฐ์ ประกอบธุรกิจในลักษณะนี้
ซึ่งตนก็เพิ่งทราบจากน.ส.พสิษฐ์หลังได้พูดคุยช่วงที่ติดต่อให้ไปพบที่จ.ระนอง
โดยขณะนั้นยังไม่มีการออกหมายจับ
แต่ภายหลังทราบว่าศาลออกหมายจับจับน.ส.พสิษฐ์ ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
ซึ่งต่อจากนี้ต้องดูในข้อกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ส่วนในเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะเอาผิดในความผิดหมิ่นเบื้องสูงกับน.ส.พสิษฐ์
หรือไม่ ต้องรอดูทางพนักงานสอบสวนก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร
แต่ยืนยันว่าขณะนี้มีเพียง น.ส.พสิษฐ์ เพียงคนเดียวเท่านั้น
ที่ถูกออกหมายจับ ส่วนครอบครัวยังไม่มีการออกหมายจับใดๆทั้งสิ้น
สำหรับบรรยากาศที่กองปราบปรามผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบตกเป็นเหยื่อของซินแสโชกุน
ต่างทยอยเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม
เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับซินแสโซกุน
โดยทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ทำการสอบปากคำอย่างละเอียดโดยใช้ห้องประชุมชิวปรีชาเป็นสถานที่ในการสอบปากคำ
ทั้งนี้ในการเข้าแจ้งความนั้นผู้เสียหายไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพแต่อย่าง
ใด
นอกจากนี้มีรายงานจากว่าทาง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน
ได้สั่งการเร่งด่วนผ่านวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยถึงผบช.น.
ผบช.ภ.1-9 ศชต.และผบช.ก.
ให้ดำเนินการการดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการฉ้อโกงในครั้งนี้และเพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
จึงให้ดำเนินการดังนี้ ให้ทางบช.ก.
(บก.ป.)เป็นหน่วยงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์กรณีที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและดำเนินการเร่งรัดสืบสวนจับกุม
กลุ่มบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดมาดำเนินคดี
,ให้ทุกบช./ภ.กำชับพนักงานสอบสวยนทุกพื้นที่ที่มีประชาชนได้รับความเสียหาย
ให้ดำเนินการสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐานไว้เบื้องต้น
และประสานการปฏิบัติกับทางกองปราบปรามเพื่อให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
หากพบว่าพนักงานสอบสวนในพื้นที่ไม่รับดำเนินการ
ให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดพิจารณาความบกพร่องแล้วรายงานให้ ตร.ทราบ
ให้ผู้บังคับบัญชาทั้งระดับ บช./ภ และบก.ภ.จว
ที่รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวนให้ความสำคัญ
ลงไปควบคุมดูแลการปฏิบัติของพนักงานสอบสวนของหน่วยงานในสังกัดอย่างเข้มงวด
และจริงจังไม่ให้เกิดปัญหา โดยให้ประสานการปฏิบัติกับทางพ.ต.อ.สมควร
พึ่งทรัพย์ รองผบก.ป.
เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและครบถ้วน